สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันที่ก้นในประเทศไทย
ไขมันที่ก้นคงเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนเสียความมั่นใจ เพราะจะใส่กางเกงแบบไหนก็ดูไม่สวย และที่สำคัญเมื่อคิดจะใส่บิกินี่โชว์ก้นสวยๆ ก็จะเจอปัญหาไขมันที่ล้นออกมา ยิ่งถ้าคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายที่มากเพียงพอแล้ว ไขมันที่ก้นคงเป็นปัญหาใหญ่ที่กำจัดยากอยู่ไม่น้อย แต่เดี๋ยวนี้หมดกังวลเรื่องไขมันส่วนเกินที่ก้นไปได้เลย เพราะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยดูดไขมันที่ก้นให้กลับมามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นโดยผู้ที่ต้องการดูดไขมันก้นนั้นมีข้อควรรู้ดังนี้
คนที่ไม่แนะนำให้ดูดไขมัน
การดูดไขมันก้นเป็นหนึ่งในกระบวนที่มาพร้อมกับความเสี่ยง ซึ่งผู้เข้ารับการดูดไขมันต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี โดยที่อย่างน้อยต้องมีน้ำหนักตัวใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีผิวหนังที่เด้งกระชับ ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนั้น แพทย์จะไม่แนะนำให้ดูดไขมัน หากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การไหลเวียนโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ผู้ที่จะทำการดูดไขมันก้นควรได้รับการพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ดังต่อไปนี้
- มีความคาดหวังที่เป็นไปตามความเป็นจริง
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเล็กน้อยจนถึงปานกลาง
- มีความเข้าใจว่า การดูดไขมันเป็นการรักษาสมดุลของร่างกาย การรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีหลังจากการดูดไขมัน
- มีความพยายามในการกำจัดไขมันส่วนเกินจากการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย
- มีรูปร่างที่มีไขมันไปสะสมและทำให้เกิดความไม่สมส่วนของร่างกายอย่างเห็นได้ชัด
การดูดไขมันที่ก้นมีขั้นตอนอะไรบ้าง/เตรียมตัวอย่างไร?
การเตรียมตัวก่อนการดูไขมันที่ก้น เป็นการลดไขมันเฉพาะจุดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถกำจัดไขมันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องกังวลเรื่องการเตรียมตัว มีข้อดีคือคุณไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก เพราะวิธีการรักษานั้นง่ายและชิวมาก เพราะคุณสามารถนอนหลับแบบผ่อนคลายบนเตียงได้เลย เพียงแค่ต้องเข้ามารักษาต่อเนื่องให้ครบคอร์สที่กำหนด โดยเว้นระยะห่างการดูดไขมัน 1 เดือน
ซึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยกำจัดไขมันที่ก้นมีอะไรบ้างดังนี้
การดูดไขมันก้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัด
วิธีที่ 1 ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์กำจัดไขมันสะสมที่แก้มก้น
เป็นการสลายไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเจาะเพื่อดูดไขมันออก แต่จะใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ ในการสลายไขมันให้ค่อยขับออกเป็นของเสียจากร้ายกายไปได้อย่างถาวร
วิธีที่ 2 ใช้คลื่นวิทยุยกกระชับแก้มก้น
นอกจากปัญหาของไขมันส่วนเกินแล้วบางคนยังมีปัญหาเรื่องความย่อยคล้อยไม่กระชับอีกด้วย เทคโนโลยีคลื่นวิทยุจะช่วยยกกระชับก้นให้เต่งตึงขึ้นได้
วิธีที่ 3 ใช้เทคโนโลยีพลังงานผสมกับคลื่นวิทยุเพื่อช่วยยกกระชับและกำจัดเซลลูไลท์ที่ก้น
เป็นวิธีที่ผสมผสานระหว่างการสลายไขมันก้นกับคลื่นวิทยุที่ทำงานไปด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยดูดไขมันที่ก้นแล้วยังช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ผิวไม่เรียบ ให้กลับมากระชับยิ่งขึ้น
การดูดไขมันก้นด้วยวิธีอื่นๆ
-
ฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Saline) ซึ่งประกอบด้วยยาชาและอะดรีนาลีนเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมันเพื่อช่วยระงับความรู้สึกและลดการเสียเลือด ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้สามารถเอาไขมันออกมาได้ง่าย และช่วยลดความรู้สึกไม่สบายต่าง ๆ หลังขั้นตอนการดูดไขมัน นอกจากนั้นยังช่วยลดรอยช้ำและบวม
-
แพทย์จะใส่ท่อขนาดเล็กลงในเนื้อเยื่อไขมัน และใช้อุปกรณ์สุญญากาศดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการและหลังจากทำเสร็จแล้ว แพทย์จะใช้ผ้าพันแผลพันรอบบริเวณที่ดูดไขมันเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลหายได้ง่ายยิ่งขึ้น การดูดไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปร่างและน้ำหนักตัวที่ปกติและต้องการจะมีสัดส่วนที่ดีขึ้นหรือต้องการที่จะมีสัดส่วนในแบบที่ต้องการ และมีบริเวณที่มีการสะสมของไขมันที่กำจัดได้ยากแม้จะมีการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารแล้วก็ตาม ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่าการดูดไขมันนั้นไมได้เป็นการรักษาโรคอ้วนแต่อย่างใด
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ?
สำหรับการพักฟื้นหลังการดูดไขมันที่ก้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ไม่ต้องผ่าตัดนั้น หลังจากการรักษาสามารถกลับบ้านได้ทันทีและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ข้อสำคัญเลยก็คือต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และต้องมีการหมั่นออกกำลังเฉพาะส่วน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งระยะเวลาจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ถึงแม้ว่าการดูไขมันนั้นจะทำให้สามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายไปได้ถาวรสำหรับไขมันที่ดูดออกไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็สามารถมีไขมันเพิ่มมาได้ใหม่ หรือมีน้ำหนักเพิ่มได้อีก หากไม่ดูแลการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายที่ดี หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต้องควบคุมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมต่อไป หลังจากขั้นตอนการดูดไขมันเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ศัลยแพทย์อาจให้สวมใส่ชุดบีบกระชับสัดส่วนเป็นเวลาประมาณ 1-2 เดือน เพื่อช่วยในการควบคุมอาการบวมที่เกิดขึ้น และอาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นในบางราย
อัตราประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ?
ผลการรักษาของแต่ละคนอาจจะมีผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีรูปก้นที่ยกกระชับขึ้น ลดความหย่อนยานของก้น เซลลูไลท์ลดลง ผิวตรงก้นเรียบเนียนขึ้น แก้มก้นก็จะเข้ารูป
แต่การดูไขมันที่ก้นก็ไม่ได้การันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวรแต่มันจะช่วยให้ดูดีขึ้น สมมติมีไขมันอยู่ 100% หลังดูดออกอย่างมากจะออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด แต่เมื่อเวลาทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์เข้าไปไขมันก็อาจจะกลับมาได้ แต่กลับมาที่ลดลง เช่น 80 % แต่หลังจากการดูดไขมันไปแล้วและไม่มีการคุมอาหารหรือไม่ออกกำลังกายก็อาจจะกลับมาเท่าเดิมได้
มีทางเลือกอื่นๆในการทำศัลยกรรมดูดไขมันหรือเปล่า
ผู้ที่มีปัญหาไขมันที่ก้นส่วนใหญ่ย่อมตามมาด้วยกับปัญหาไขมันเฉพาะจุดอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนเกินสะโพก ต้นขา หรือที่เอว ซึ่งเทคโนโลยีการดูดไขมันก้นนอกจากจะเป็นการลดเซลลูไลท์ให้ก้นแล้วยังสามารถลดไขมันเฉพาะจุดที่อื่นๆได้อีกด้วย ซึ่งผู้รักษาสามารถพิจารณาการดูดไขมันเฉพาะจุดต่างๆ ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมันสะโพก, การดูดไขมันที่ต้นขา, การดูดไขมันที่เอว หรือการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อรักษาสมดุลส่วนเกินในจุดต่างๆให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง