สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การตกแต่งเยื่อพรหมจารี ใน กรุงเทพมหานคร
Hymenoplasty เป็นการฟื้นฟู เยื่อพรหมจารี หรือเป็นขั้นตอนการ ตกแต่งเยื่อพรหมจารี เพื่อเรียกคืนเยื่อพรหมจารี ให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
สาเหตุที่ผู้หญิงหลายคน เลือกตกแต่งเยื่อพรหมจารีนั้น เนื่องจากเยื่อพรหมจารี มีอาการฉีกขาด ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุ การมีเพศสัมพันธ์ การทำกิจกรรม ที่ออกแรงหนัก ๆ เช่น การขี่ม้า การเล่นยิมนาสติก การปั่นจักรยาน หรือแม้กระทั่ง การใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เป็นต้น ก็สามารถทำให้ เกิดการฉีกขาด ขึ้นมาได้
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การตกแต่ง เยื่อพรหมจารี นับได้ว่าเป็นขั้นตอน การตกแต่งที่ง่าย สะดวก และไม่ยุ่งยาก โดยแพทย์จะฉีดยาชา บริเวณรอบ ๆ อวัยวะเพศ จากนั้น แพทย์จะรักษา โดยการเย็บซ่อมเยื่อพรหมจารี ที่อยู่ด้านบน เพื่อช่วยทดแทน ในส่วนที่ฉีกขาดไป ซึ่งวิธีนี้ จะทำให้เยื่อพรหมจารี มีลักษณะเหมือนวงแหวน ขนาดเล็ก และดูใกล้เคียงกับเยื่อพรหมจารีเดิม โดยการตกแต่งทั้งหมด จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยกัน
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการพักฟื้น ของผู้ป่วย จะใช้เวลาประมาณ 2-3 วันหลังผ่าตัด ก็สามารถกลับไปทำงาน ได้ตามปกติ แต่ในระหว่างนั้น ผู้ป่วยยังไม่ได้รับอนุญาต ให้ออกกำลังกาย หรือยกของหนักได้ จนกว่าจะถึงเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์ด้วยกัน และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ควรหลีกเลี่ยง การมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 3 เดือน
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
การดูแลรักษา บริเวณอวัยวะเพศ หลังการตกแต่งเยื่อพรหมจารี นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยแพทย์จะให้คำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับการรักษาแผล การเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งข้อควรปฏิบัติ มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้ ผ้าอนามัยแบบสอด หรือถ้วยอนามัย
- งดทำกิจกรรมหนัก ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
- งดมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์
- ทานยา ตามคำแนะนำของแพทย์
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การตกแต่งเยื่อพรหมจารี เป็นกระบวนการตกแต่ง ที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง แต่อาจมีผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนอยู่บ้างเล็กน้อย เช่น อาการติดเชื้อ และภาวะเลือดออกมากผิดปกติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจทำให้เยื่อพรมจารี เกิดอาการตีบตัน ส่งผลให้เกิดปัญหา เวลามีเพศสัมพันธ์ ขึ้นมาได้ ทั้งนี้ อาการเหล่านี้ จะค่อย ๆ หายไป และดีขึ้นตามลำดับนั่นเอง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง