Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
Mordee บางนา, กรุงเทพมหานคร
4.38 จาก 5
286 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หู คอ จมูก ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน รับรองเอกสาร ที่พักสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลศิครินทร์ ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 เป็นโรงพยาบาลที่มีความมุ่นมั่นในการให้ความสำคัญกับการรักษา และการบริการแก่ประชาชน เพื่อสร้างความไว้วางใจกับประชาชน อย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลหลักในการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ และความเป็นมืออาชีพ โรงพยาบาลศิครินทร์ ให้บริการดูแลคนไข้ ระดับตติยภูมิ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
3.55 จาก 5
214 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาเดนมาร์ก ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รังสีวินิจฉัย รักษาโรคหัวใจ ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และภาคใต้ของประเทศไทย ให้บริการทางการแพทย์แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาทางการแพทย์, ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษา การผ่าตัดทั่วไป และการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัย อีกทั้... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
Mordee ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
3.76 จาก 5
466 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ร้านกาแฟ ที่พักสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลกรุงเทพ (หรือที่รู้จักกันในนาม ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ) เป็นศูนย์รวมของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และเป็นหนึ่ง ในศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด ของประเทศไทย ได้รับการรับรองจาก JCI เมื่อปี 2550 ให้บริการด้านการดูแลตติยภูมิ ศัลยกรรมความงาม และการทำทันตกรรม อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้รับความไว้วางใจ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ใน ไทย

สำหรับยุคนี้ใครที่มีปัญหามีลูกยาก เป็นซีสต์  หรือเนื้องอก ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมีเทคนิค ที่จะทำให้มีการปฏิสนธินอกร่างกาย เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ หรือที่เรามักจะเรียกว่า "การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)"

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และยังเหมาะ สำหรับผู้หญิงบางคน ที่เป็นโรคและมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น การเป็นซีสต์ เนื้องอก หรือเกิดความผิดปกติ ทางพันธุกรรม เป็นต้น

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการนำไข่และอสุจิ มาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิ ภายนอกร่างกาย ในห้องปฏิบัติการ จากนั้น จึงจะนำไข่ ที่ได้รับการผสมแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ ตัวอ่อน ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามปกติต่อไป

ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว

  1. แพทย์จะเลือกเก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่ โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด อาศัยเครื่องอัลตราซาวด์ ซึ่งแพทย์มีความจำเป็น ที่จะต้องให้ยาสลบ เพื่อป้องกันความเจ็บปวด และจะใช้เวลาในการเก็บไข่ประมาณ 30 นาที หลังจากเก็บไข่แล้ว ฝ่ายหญิงจะได้รับการรักษาด้วย ฮอร์โมนชนิดสอดช่องคลอด หรือฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูก 
  2. เมื่อไข่และอสุจิได้รับการผสมกันเรียบร้อยแล้ว ในห้องปฏิบัติการเลี้ยง และควบคุมคุณภาพตัวอ่อน จากนั้นก็จะทำการติดตามดูไข่ ที่ได้รับการปฏิสนธิใน 2 วันต่อมา
  3. ในวันถัดไป ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ก็จะกลายเป็นตัวอ่อน และพร้อมที่จะย้ายเข้าโพรงมดลูก ซึ่งมักจะทำในวันที่ 3-5 หลังวันเก็บไข่ ซึ่งในขั้นตอนของการย้ายตัวอ่อน เข้าโพรงมดลูกนั้น ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ และอาหารก่อนมาโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ และใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย

ระยะเวลาของการย้ายตัวอ่อน การย้ายตัวอ่อนนั้นสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. การย้ายตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์  (blastocyst transfer) โดยการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนเจริญเติบโต ถึงระยะพร้อมฝังตัว (จะใช้ระยะเวลา 5 วันหลังการผสม) หลังจากนั้น ก็จะใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ สำหรับวิธีนี้จะช่วยให้ตัวอ่อนพร้อมฝังตัว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
  2. การย้ายตัวอ่อนในระยะวันที่ 3 หลังการผสม (Day 3 transfer) เป็นวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนมีการแบ่งเซลล์เป็น 6-8 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังการผสม แล้วจึงใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก

 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากที่ได้มีการย้ายตัวอ่อนเข้าไป ในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยนอนพัก 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักโรงพยาบาล และสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ได้ตามปกติ แต่จะต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด การนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบ และเฝ้าติดตามดูตัวอ่อน และการเจริญเติบโต

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากที่มีการฉีดตัวอ่อนไปแล้ว 12 วันแพทย์จะทำการตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้มีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการประเมินต่อไป และให้เกิดความแน่ใจว่า การทำเด็กหลอดแก้ว ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการดมยาผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก ทั้งนี้ ผลสำเร็จก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเหมือนกัน เช่น อายุของผู้เข้ารับบริการ การใช้ชีวิตประจำวัน และสาเหตุของการมีบุตรยาก เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้เกินคาด ก็มักจะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี จะประสบความสำเร็จถึง  40% และกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 36-41 ปี จะมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จอยู่ที่ 25% และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 42 ปีขึ้นไป เปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จ น้อยมาก มีเพียง 4% เท่านั้น 

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น