
กับ Mor Dee คุณสามารถค้นหา 7 สถานพยาบาลที่ให้บริการ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ใน ประเทศไทย. ราคาที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ฿256,118 - รีบจองด่วน!
โรงพยาบาลศิครินทร์ ตั้งอยู่ที่ บางนา, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 120 แบบการรักษา แยกเป็น 18 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) นี้เริ่มต้นที่ ฿587,430 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 22 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ การรับรอง JCIการรับรองมาตรฐาน HAรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 50 แบบการรักษา แยกเป็น 19 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) นี้เริ่มต้นที่ ฿445,600 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 10 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ การรับรอง JCIการรับรองมาตรฐาน HAรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008
โรงพยาบาลกรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ห้วยขวาง, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 163 แบบการรักษา แยกเป็น 21 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) นี้เริ่มต้นที่ ฿260,000 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 6 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ซึ่งได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลของ การรับรอง JCI
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตั้งอยู่ที่ วัฒนา, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 321 แบบการรักษา แยกเป็น 34 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 10 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ การรับรอง JCIการรับรองมาตรฐาน HA
โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ตั้งอยู่ที่ บางเขน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 9 แบบการรักษา แยกเป็น 5 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 5 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ตั้งอยู่ที่ ศรีราชา, พัทยา, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 22 แบบการรักษา แยกเป็น 9 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ โรงพยาบาลพญาไทศรีราชา ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 4 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
โรงพยาบาลเจตนิน ตั้งอยู่ที่ ปทุมวัน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) โดยมีทั้งหมด 8 แบบการรักษา แยกเป็น 1 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ โรงพยาบาลเจตนิน ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿429,721 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
ที่Mor Dee, เราทำให้การได้รับข้อมูลและเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่าย. คุณสามารถ ค้นหา, เปรียบเทียบราคา, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, และ ทำการนัดหมาย สำหรับศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณสนใจได้ในที่เดียวกัน. เราทำให้คุณเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลก, ให้คุณได้ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ,และเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ฟรี, ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง, การันตี ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม. แล้วคุณจะมัวรออะไร?
สำหรับยุคนี้ใครที่มีปัญหามีลูกยาก เป็นซีสต์ หรือเนื้องอก ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมีเทคนิค ที่จะทำให้มีการปฏิสนธินอกร่างกาย เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ หรือที่เรามักจะเรียกว่า "การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)"
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และยังเหมาะ สำหรับผู้หญิงบางคน ที่เป็นโรคและมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น การเป็นซีสต์ เนื้องอก หรือเกิดความผิดปกติ ทางพันธุกรรม เป็นต้น
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการนำไข่และอสุจิ มาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิ ภายนอกร่างกาย ในห้องปฏิบัติการ จากนั้น จึงจะนำไข่ ที่ได้รับการผสมแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ ตัวอ่อน ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามปกติต่อไป
ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว
ระยะเวลาของการย้ายตัวอ่อน การย้ายตัวอ่อนนั้นสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้
หลังจากที่ได้มีการย้ายตัวอ่อนเข้าไป ในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยนอนพัก 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักโรงพยาบาล และสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ได้ตามปกติ แต่จะต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด การนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบ และเฝ้าติดตามดูตัวอ่อน และการเจริญเติบโต
หลังจากที่มีการฉีดตัวอ่อนไปแล้ว 12 วันแพทย์จะทำการตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้มีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการประเมินต่อไป และให้เกิดความแน่ใจว่า การทำเด็กหลอดแก้ว ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์
การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการดมยาผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก ทั้งนี้ ผลสำเร็จก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเหมือนกัน เช่น อายุของผู้เข้ารับบริการ การใช้ชีวิตประจำวัน และสาเหตุของการมีบุตรยาก เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้เกินคาด ก็มักจะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี จะประสบความสำเร็จถึง 40% และกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 36-41 ปี จะมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จอยู่ที่ 25% และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 42 ปีขึ้นไป เปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จ น้อยมาก มีเพียง 4% เท่านั้น
ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ได้นำเสนอนี้ได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว แต่ทางเราขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ ก่อนเข้ารับการการบริการ/รักษาจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ท่านเลือก เนื้อหานี้อัปเดตล่าสุดเมื่อ 28/11/2020
สอบถามตอนนี้