สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบสลีฟ ใน เชียงใหม่
เป็นการตัดเอากระเพาะอาหารออกไป ซึ่งจะตัดออกประมาณ 85% จะทำให้คุณทานอาหารได้น้อยลง การผ่าตัดชนิดได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องตัดต่อกับลำไส้เล็ก และการผ่าตัดแบบนี้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ถึง 40-60 % จากน้ำหนักเดิมภายในปีแรกหลังผ่าตัด แต่การผ่าตัดชนิดเป็นการผ่าตัดที่ไม่สามารถแก้ไขคืนกลับมาได้ ดังนั้น ควรตัดสินใจพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสียให้ดี และตรวจสุขภาพ ว่าตนเองมีสุขภาพแข็งแรงดี ในการผ่าตัดชนิดนี้หรือไม่ ทั้งยังเป็นการรักษาโรคที่เกิดจากความอ้วน เช่น ไขมัน ความดัน เบาหวาน ไขมัน ความดันไปด้วย ซึ่งการผ่าตัดชนนิดนี้ โดยสามารถทำผ่าตัดได้ ในคนที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบสลีฟ แพทย์จะให้ดมยาสลบก่อน แล้วแพทย์จะผ่าตัด โดยมีแผลเล็ก ๆ หลายอันที่หน้าท้อง เพื่อใส่ท่อที่ติดตั้งกล้อง (laparoscope) จะถูกสอดผ่าน incisions เหล่านี้เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนของอวัยวะภายใน ขั้นตอนการผ่าตัดคล้าย ๆ กับการผ่าตัดแบบใส่แถบรัด กระเพาะอาหาร แต่จะทำการผ่าตัด กระเพาะอาหารให้เล็กลง มีรูปร่างคล้ายกล้วยหอมแทนการใส่แถบรัด ซึ่งจะตัดเอากระเพาะส่วนล่าง ออกไปจากร่างกาย ทำให้คุณมีขนาดกระเพาะที่เล็กลง จึงทานอาหารได้น้อยลง มีความอยากอาหารลดลง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การพักฟื้นจะใช้เวลา 2-3 เดือน เพื่อให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เและต้องปรับตัวให้เคยชินกับการอยากอาหารที่น้อยลงมาก คุณอาจจะมีอาการเจ็บปวดแผลและท้องเป็นระยะเวลาหลายวัน แต่แพทย์ก็จะจ่ายยาแก้ปวดเพื่อลดอาการเหล่านี้ให้กับคุณได้ ภายหลังจะาการพักฟื้น 2-4 สัปดาห์ คุณสามารถกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามโดยเฉลี่ยแล้ว ต้องพักประมาณ 6 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง จึงต้องใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยกว่า การผ่าตัดวิธีอื่น เพราะแผลจะมีขนาดเล็กซึ่งจางหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ภายหลังจากการผ่าตัดสัปดาห์แรก คุณจะได้ทานได้เฉพาะอาหารเหลว เช่น ซุปใส ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาล และงดน้ำอัดลม ดื่มน้ำผลไม หรือน้ำผัก โยเกิร์ต แต่คุณจะต้องจำกัดปริมาณ น้ำที่ได้รับในแต่ละครั้ง ทานครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง หลังจากานั้น 2 สัปดาห์ สามารถทานอาหารอ่อน ๆ ได้ เช่น ข้าวต้ม แล้วจึงเปลี่ยนมาทานอาหารตามปกติ แต่ก็ยังต้องทานครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง และไม่ควรดื่มน้ำพร้อมกับการรับประทานอาหาร คุณควรดื่มน้ำก่อนการทานอาหาร 15-30 นาที ศัลยแพทย์ จะเป็นผู้แจ้งผลการผ่าตัดให้คุณทราบ หลังจากกลับบ้านแล้วคุณจะต้อง กลับมาพบแพทย์ เพื่อติดตามอาการ ซึ่งแพทย์จะมีการนัดมาตรวจเช็ค เป็นระยะ ๆ และอย่าลืมดูแลเรื่องสุขภาพ อาหารการกิน และการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ในระยะยาด้วย เช่น การทานวิตามินและแร่ธาตุเสริมทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินบี 12 เพื่อป้องกันโรคโลหิตจาง หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น อย่าปีนขึ้นบันได ลดความเครียด หมั่นดูแลความสะอาดแผลด้วยการ เปลี่ยนผ้าพันแผลของคุณเป็นประจำ และอย่าให้เปียกเพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้ รับประทานยาแก้ปวดหามีอาการปวดมาก
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
คุณสามารถลดน้ำหนักส่วนเกินได้ถึง 60% ภายในระยะเวลา 12-18 เดือน ภายหลังการผ่าตัด ซึ่งเป็นการผ่าตัดลดความอ้วน ที่ได้รับความนิยม มากที่สุดจากทั่วโลก ทำให้คุณมีน้ำหนักตัวที่ลดลงอย่างมาก พร้อมกับสุขภาพที่ดีขึ้น อีกทั้งยังลดความเจ็บป่วยของโรคเบาหวานได้อีกด้วย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความหลากหลายของชนเผ่าชาวเขาต่าง ๆควบคู่ไปกับทิวทิศน์ที่งดงาม ทำให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งในสถานท่องเที่ยวในเอเชียที่น่าสนใจที่สุด
นอกจากนี้เชียงใหม่ ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศ จึงทำให้มีศักยภาพในการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน จนเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ รองจากกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงยังมีโรงพยาบาล หรือคลินิกต่าง ๆมากมายที่พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวหรือ บุคคลที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อีกด้วย เช่น โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม, คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง เดนทอลเวิร์ล, ศรินยา คลินิก เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพ ถือว่าเป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ซึ่งต้องแวะไปสักการะให้ได้เมื่อมาเยือนเชียงใหม่
ประตูท่าแพ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเชียงใหม่ บริเวณประตูท่าแพจะเห็นแนวกำแพงเมืองเก่าซึ่งสร้างด้วยอิฐ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ บริเวณประตูท่าแพมีลานกว้างซึ่งใช้จัดงานเทศกาลต่าง ๆ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆวันอาทิตย์อีกด้วย
วัดอุโมงค์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงใหม่มานาน มีเอกลักษณ์สำคัญก็คือ อุโมงค์ ตามชื่อ ที่เป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปไหว้พระขอพร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอีกด้วย
การเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเชียงใหม่ได้โดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถโดยสารประจำทาง และการเดินทางในตัวเมืองเชียงใหม่เองก็สะดวกสบายแม้ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัว เพราะบริเวณรอบ ๆ สนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งเชียงใหม่ จะมีรถสองแถวสีแดง ที่ชาวเชียงใหม่เรียกว่า “รถแดง”คอยให้บริการ หรือแม้กระทั่ง รถตุ๊กตุ๊ก รถแทกซี่ เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดเชียงใหม่
เชียงใหม่ มีประชากรที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ไม่น้อยกว่าที่อื่น โดยมีชาว ไทยวน หรือคนเมือง คือกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย มีภาษาและวัฒนธรรมที่เป็นของตัวเอง เชียงใหม่จะมีความเป็นสังคมเมืองล้านนา โดยจะใช้ภาษาเมืองในการพูดสื่อสาร ชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่ มีอาชีพทางเกษตรกรรมทำนา ทำไร่ ทำสวน อาชีพใหญ่อันดับที่สองรองลงมาคือการท่องเที่ยว ทั้งงานที่เกี่ยวข้องโดย ตรงและทางอ้อม การพณิชย์และอุตสาหกรรมทั่วไปส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของหัตถกรรม งานฝีมือและการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร เป็นสองอาชีพหลักคนเชียงใหม่ในปัจจุบันนี้
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดเชียงใหม่
เนื่องจากเชียงใหม่มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและพื้นที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบเชิงเขาโดยพื้นที่ภูเขา ทำให้มีอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี
อื่นๆ
ภาษา นอกจากมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการแล้ว เชียงใหม่ยังมีภาษาท้องถิ่นซึ่งเรียกว่า ภาษาคำเมือง ซึ่งแต่ละถิ่นก็ยังมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย