
กับ Mor Dee คุณสามารถค้นหา 3 สถานพยาบาลที่ให้บริการ การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร ใน ประเทศไทย. ราคาที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ฿344,774 - รีบจองด่วน!
โรงพยาบาลกรุงเทพ สมุย ตั้งอยู่ที่ เฉวง, เกาะสมุย, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร โดยมีทั้งหมด 22 แบบการรักษา แยกเป็น 6 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร นี้เริ่มต้นที่ ฿350,000 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿377,610 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ การรับรอง JCIรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ดุสิต, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร โดยมีทั้งหมด 42 แบบการรักษา แยกเป็น 13 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร นี้เริ่มต้นที่ ฿350,000 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿377,610 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 11 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ซึ่งได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลของ การรับรองมาตรฐาน HA
โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ตั้งอยู่ที่ จอมทอง, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร โดยมีทั้งหมด 90 แบบการรักษา แยกเป็น 16 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร นี้เริ่มต้นที่ ฿450,000 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿377,610 บาท โดยการรักษาในโรงพยาบาลนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 13 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ การรับรอง JCIการรับรองมาตรฐาน HA
ที่Mor Dee, เราทำให้การได้รับข้อมูลและเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่าย. คุณสามารถ ค้นหา, เปรียบเทียบราคา, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, และ ทำการนัดหมาย สำหรับศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณสนใจได้ในที่เดียวกัน. เราทำให้คุณเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลก, ให้คุณได้ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ,และเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ฟรี, ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง, การันตี ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม. แล้วคุณจะมัวรออะไร?
ปัจจุบัน คนไทยกำลังเผชิญกับโรคอ้วนมากขึ้น และบางคนก็ได้พยายาม ที่จะลดความอ้วน ด้วยหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่า โรคอ้วนนั้นเป็นสาเหตุของอีกหลาย ๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ ดังนั้น การผ่าตัดเพื่อลดความอ้วน ไม่ใช่วิธี ที่จะทำให้เกิดความสวยงาม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับสุขภาพ ของคนกลุ่มนี้ เป็นอย่างมาก
การผ่าตัดลดความอ้วน โดยการใช้วิธี ลดขนาดกระเพาะอาหาร จะมีด้วยกัน 2 วิธี คือ Gastric band และ Gastric bypass ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ต่างก็มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ แต่วิธีที่รวดเร็ว และใช้เวลาในการพักฟื้น น้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็นการผ่าตัดแบบ Gastric bypass
การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร (Gastric Band Surgery) ก็คือ การผ่าตัดเพื่อลดขนาด ของกระเพาะอาหาร โดยใช้การใส่ห่วง รัดกระเพาะอาหารแบบปรับได้ ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดลดความอ้วน อีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน โดยขั้นตอนในการผ่าตัดนั้น แพทย์จะทำการวางยาสลบ และฉีดยาชา เพื่อให้คุณไม่รู้สึกเจ็บปวด ในขณะที่ทำการผ่าตัด แพทย์จะใช้วิธีการเจาะแผลเล็ก ๆ ที่หน้าท้อง เพื่อใส่กล้องพร้อมอุปกรณ์ผ่าตัดขนาดเล็ก หลังจากนั้นก็จะใช้อุปกรณ์ ที่มีลักษณะคล้ายเข็มขัด สอดเข้าไปเพื่อทำการ รัดกระเพาะอาหารตอนบน จะทำให้กระเพาะอาหาร มีขนาดเล็กลง รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น วิธีนี้เป็นการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี เมื่อคุณลดน้ำหนักตัวได้คงที่แล้ว สามารถที่จะกลับมาแก้ไข นำสายรัดกระเพาะอาหาร ออกได้ในภายหลัง
ข้อดีของการผ่าตัดแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหารคือ
การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ซึ่งผู้เข้ารับบริการ จะเข้ารับการผ่าตัด แบบผู้ป่วยนอก เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว ก็จะให้นอนพักเพื่อรอให้ ฟื้นจากยาสลบและรู้สึกตัวดีแล้ว ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ในวันเดียวกัน ในช่วงระยะเวลา 14 วันแรกนั้น หมอจะนัดเพื่อมาติดตามอาการหลังการผ่าตัด
ดังนั้น การผ่าตัดแบบนี้ จะใช้เวลาในการฟื้นตัวที่เร็วมาก คุณสามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิต ได้ตามปกติภายใน 2 วันแต่ถ้าจะให้ดีนั้น คุณควรจะหยุดงานสัก 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ยิ่งถ้างานของคุณ เป็นงานที่ต้องใช้กำลังด้วยแล้ว อาจจะต้องหยุดงานไปก่อน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กลับสู่สภาวะปกติ
หลังจากการผ่าตัด แพทย์จะจัดการวางแผน ทางด้านโภชนาการของคุณใหม่ ในช่วง 2-3 วันแรก คุณสามารถทานได้ เฉพาะอาหารเหลว เช่น น้ำ น้ำผลไม้ และนม เป็นต้น คุณต้องกินอาหารแบบนี้ไปจนถึง สัปดาห์ที่ 4 เลยทีเดียว ช่วงระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ คุณก็จะสามารถกินอาหารอ่อน ๆ ได้ และสามารถกินอาหารได้ตามปกติ ตั้งแต่ 6 สัปดาห์เป็นต้นไป
นอกจากนั้น คุณจะต้องกินยาและปฏิบัติตัว ตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด หมั่นดูแลแผล ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ห้ามยกของหนัก เป็นอันขาด อีกเรื่องที่จำเป็นมากก็คือ คุณอาจจะต้องปรึกษา นักโภชนาการเกี่ยวกับอาหาร ของคุณในแต่ละมื้อ เพื่อที่จะทำให้คุณนั้น แน่ใจได้ว่าได้รับสารอาหาร ที่ครบถ้วนทุกมื้อ ไม่กินอาหารมากจนเกินไป เพราะถ้าคุณกินอาหาร ในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้เกิดการอาเจียนได้ เพื่อสุขภาพที่ดีจะต้องมีการ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ ในการลดน้ำหนัก ตามที่คุณต้องการ
โดยทั่วไปแล้วหลังการผ่าตัด คุณก็จะสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 40-60% บางคนน้ำหนักจะลดไปสัปดาห์ละ ประมาณ 0.5 - 1 กิโลกรัม เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าผ่านไป 1 ปี น้ำหนักคุณก็จะหายไปถึง 22-45 กิโลกรัม อย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก ในระยะยาวนั้น คุณจะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีสุขภาพที่ดี จริงจัง และใส่ใจ เกี่ยวกับอาหารการกิน หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ
สิ่งที่ไม่ควรลืม และควรตระหนักก่อนเข้ารับการผ่าตัด ก็คือความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด เช่น
สิ่งเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นได้สำหรับทุกคน หรือบางคนเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ให้ดีก่อนตัดสินใจ ควรได้รับคำปรึกษาที่ดีจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ได้นำเสนอนี้ได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว แต่ทางเราขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ ก่อนเข้ารับการการบริการ/รักษาจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ท่านเลือก เนื้อหานี้อัปเดตล่าสุดเมื่อ 28/11/2020
สอบถามตอนนี้