
กับ Mor Dee คุณสามารถค้นหา 5 สถานพยาบาลที่ให้บริการ การฟอกสีฟัน ใน ขอนแก่น. ราคาที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ฿1,500 - รีบจองด่วน!
คลินิกเดอะเลคขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ เมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การฟอกสีฟัน โดยมีทั้งหมด 71 แบบการรักษา แยกเป็น 1 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ คลินิกเดอะเลคขอนแก่น ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การฟอกสีฟัน แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿7,338 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกทันตกรรมแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
จอมพลทันตกรรมคลินิก ตั้งอยู่ที่ เมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การฟอกสีฟัน โดยมีทั้งหมด 71 แบบการรักษา แยกเป็น 1 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ จอมพลทันตกรรมคลินิก ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ การฟอกสีฟัน แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿7,338 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
คลินิกจัดฟันสตูดิโอเดนทัล ขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ เมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การฟอกสีฟัน โดยมีทั้งหมด 5 แบบการรักษา แยกเป็น 1 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การฟอกสีฟัน นี้อยู่ที่ระหว่าง ฿4,000 บาท ถึง ฿8,000 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿7,338 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกทันตกรรมแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
คลินิกทันตกรรมต้นตาล ขอนแก่น ตั้งอยู่ที่ เมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การฟอกสีฟัน โดยมีทั้งหมด 62 แบบการรักษา แยกเป็น 2 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การฟอกสีฟัน นี้เริ่มต้นที่ ฿1,500 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿7,338 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกทันตกรรมแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
คลินิกทันตกรรมหมอแจ้ ตั้งอยู่ที่ เมืองขอนแก่น, ขอนแก่น, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน การฟอกสีฟัน โดยมีทั้งหมด 5 แบบการรักษา แยกเป็น 1 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา การฟอกสีฟัน นี้อยู่ที่ระหว่าง ฿4,500 บาท ถึง ฿11,900 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿7,338 บาท ซึ่งการรักษาทั้งหมดในคลินิกทันตกรรม จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันดูแล ซึ่งมีทั้งหมด 2 ท่าน และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
ที่Mor Dee, เราทำให้การได้รับข้อมูลและเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่าย. คุณสามารถ ค้นหา, เปรียบเทียบราคา, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, และ ทำการนัดหมาย สำหรับศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณสนใจได้ในที่เดียวกัน. เราทำให้คุณเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลก, ให้คุณได้ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ,และเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ฟรี, ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง, การันตี ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม. แล้วคุณจะมัวรออะไร?
การฟอกสีฟันมี 2 วิธี โดยการฟอกสีฟันที่คลินิกโดยทันตแพทย์ และ การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะใช้น้ำยาที่มีส่วนประกอบของ Hydrogen peroxide หรือ Carbamide peroxide
การฟอกสีฟันที่คลินิก ทันตแพทย์จะใช้น้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงซึ่งเป็นกระบวนการที่เห็นผลอย่างรวดเร็วและผลที่ได้ยาวนานกว่าการฟอกเองที่บ้าน
การฟอกสีฟันด้วยตนเองที่บ้าน ทันตแพทย์จะจ่ายยาฟอกสีฟัน และถาดสำหรับฟอกสีฟัน โดยน้ำยาจะมีความเข้มข้นที่น้อยกว่า ซึ่งจะต้องทำการฟอกสีฟันโดยประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง ต่อวันหรือต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์
การฟอกฟันขาว ด้วย Zoom Whitening เป็นนวัตกรรมใหม่ของการฟอกสีฟัน และเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ แล้ว Zoom ได้รับการพิสูจน์ว่าฟันขาวนาน มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และเห็นผลเร็วกว่าในทางวิทยาศาสตร์ เป็นการฟอกฟันขาวด้วยเทคโนโลยี LED ที่สามารถปรับแสง ตามความเหมาะสมของความเข้มข้นได้ 3 ระดับ ฃ
Zoom Whitening เหมาะสำหรับผู้ที่มีสีของฟันที่ดูคล้ำเข้มขึ้นจากที่เคยขาวมาก่อน มีคราบสีจากอาหารต่าง ๆ เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง และบุหรี่ เป็นต้น การฟอกสีฟันด้วย นวัตกรรม Zoom จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำให้ฟันกลับมาขาว สะอาดได้อีกครั้ง และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะฟันสามารถขาวขึ้นได้ภายใน 45 นาที หลังจากการทำ
Zoom Whitening ข้อดี มีอะไรบ้าง
1. รวดเร็ว และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
2. ฟันขาวยิ่งกว่าเดิม ด้วยเทคนิคที่สามารถปรับแต่งความขาว และความสว่างใสได้
3. ฟันขาวทนนานกว่าวิธีเดิม ๆ
4. ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. มีอาการเสียวฟันน้อยกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ประมาณ 13%
Zoom Whitening ข้อเสีย มีอะไรบ้าง
1. มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการฟอกสีฟันแบบอื่น ๆ
2. ทำได้แค่ในคลินิกเท่านั้น และต้องเป็นคลินิกที่ถูกกฎหมาย เพราะต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง
การฟอกฟันขาวด้วย นวัตกรรม Zoom จึงมีทั้งความรวดเร็ว และสะดวกสบาย คงฟันให้มีความขาวได้นาน ไม่เสียวฟันมาก (หากมีอาการ ก็จะเสียวฟันไม่เกิน 1 วัน) นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
Zoom Whitening คือการใช้สาร Hydrogen Peroxide ในเจล มาฟอกสีฟัน แล้วใช้แสงกระตุ้นสาร Hydrogen Peroxide แทรกซึมลงสู่ฟัน โดยไม่ทำลายโครงสร้างธรรมชาติของฟัน มีประสิทธิภาพ ในการช่วยฟอกสีฟัน สามารถปรับระดับเฉดสีฟันให้ขาวขึ้นได้มากถึง 8 เฉด และใช้ระยะเวลาในการทำ เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น
Zoom มีประสิทธิภาพ ในการขจัดคราบฟันเหลือง คราบชา กาแฟ และสีฟันที่ไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเสียวฟันได้ดีกว่าเครื่องฟอกสีชนิดอื่น
การฟอกสีฟันด้วย Zoom สามารถเลือกทำได้ 2 ประเภท คือ
การฟอกสีฟันที่ทำโดยทันตแพทย์ในคลินิก มีวิธีทำได้ ดังนี้
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูน และขัดฟัน
ตรวจและทำการเทียบเฉดสีของฟันโดยทันตแพทย์
สวมแว่นตาป้องกันแสง ใส่อุปกรณ์เข้าไปในช่องปาก
ปกป้องเหงือกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ ฟัน ด้วยน้ำยาที่มากับชุดน้ำยาฟอกสีฟัน Zoom
ฉายแสงเพื่อให้น้ำยาแข็งตัว
บีบน้ำยาจากหลอดน้ำยา และใช้พู่กันทาไปที่ฟันแต่ละซี่
กระตุ้นน้ำยาด้วยแสงเลเซอร์ ให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย 3 ครั้ง ครั้งละ 15 นาที
กำจัดน้ำยาฟอกสีฟันและน้ำยาที่ใช้ป้องกันเหงือกออก
สามารถเห็นความแตกต่างได้จากการเปรียบเทียบสีก่อนและหลังการฟอกสีฟัน
ทาน้ำยาเพื่อลดอาการเสียวฟัน ทาน้ำยาเพื่อลดอาการแสบร้อนสำหรับที่บริเวณเหงือก
การฟอกสีฟันแบบนำอุปกรณ์และน้ำยาไปทำเองที่บ้าน (Home Bleaching )
โดยน้ำยาที่ใช้ในการฟอกสีฟันเองที่บ้านจะมี 2 แบบ คือ Zoom Nite White 22% และ Zoom Day White 16 % ทั้ง 2 ชนิด จะประกอบด้วยสารที่ช่วยขจัดคราบสีออกจากตัวฟัน อย่าง Carbamide Peroxide 22%, 16 % และ Hydrogen Peroxide นอกจากนี้ยังมีสารที่ช่วยป้องกันและลดอาการเสียวฟัน ACP (Amorphous Calcium Phosphate) เข้ามาผสม ซึ่งมีวิธีทำได้ ดังนี้
พิมพ์ปาก ทำถาดฟอกสีฟัน (เฉพาะบุคคล) กับทันตแพทย์
ตรวจประเมินช่องปาก ขูดหินปูนและขัดฟัน
ให้คำแนะนำวิธีการใช้ โดยทันตแพทย์
ให้แปรงฟันให้สะอาด และถาดฟอกสีฟันควรแห้งสนิท
ให้บีบดันน้ำยาฟอกสีฟันออกไปเป็นจุดเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียว บีบใส่ลงไปที่ถาดฟอกสีด้านที่จะสัมผัสกับผิวหน้าฟัน
เมื่อใส่ถาดฟอกสีเข้าไปในปากแล้ว กดนวดเบา ๆ ให้น้ำยากระจายทั่วผิวหน้าฟัน
สวมถาดฟอกสีฟันทั้งบนและล่าง สวมทิ้งไว้วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 - 2 ชั่วโมง สำหรับคนที่มีอาการเสียวฟัน แนะนำให้ใช้วันเว้นวัน
หลังจากทำเสร็จ นำถาดฟอกสีออกจากปาก แล้วบ้วนน้ำ และล้างถาดฟอกสีด้วยน้ำสะอาด ใช้แปรงปัดคราบน้ำยาที่เหลืออยู่ออก ผึ่งให้แห้ง แล้วเก็บใส่กล่อง
หลังฟอกสีฟันเสร็จแล้ว อาจมีอาการเสียวฟันได้ในช่วงแรก และจะค่อย ๆ หายไปเอง และถ้าหากเฉดสีฟันยังไม่เป็นที่ต้องการ ทันตแพทย์อาจให้ชุดฟอกสีฟันไปทำต่อที่บ้านเองได้
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสี และอาหารที่มีสี
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หลังการทำ
ทำความสะอาดและแปรงฟันตามปกติ
ใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้าน สำหรับการรักษาความขาวของสีฟัน
การฟอกสีฟันแบบซูม (ZOOM) เป็นทางเลือกใหม่ของการฟอกสีฟัน ที่จะไม่เป็นอันตรายต่อฟัน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สามารถเปลี่ยนสีฟันให้ขาวขึ้น ภายในเวลาอันรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสะอาด ทั้งนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีฟันได้ถึง 8 เฉดสี ช่วยลดอาการเสียวฟันได้เป็นอย่างดี และสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นในทันทีภายใน 45 นาทีโดยไม่ทำลายโครงสร้างของฟันธรรมชาติ
ผู้เข้ารับการรักษาสามารถเดินทางกลับบ้านได้เลยหลังการฟอกสีฟัน ซึ่งอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และอาจเห็นผลได้โดยทันทีภายในการฟอก 1-2 ครั้งแรก แต่ทันตแพทย์อาจทำการนัดหมายเพิ่มเติมเพื่อติดตามผลและเพิ่มความขาวให้ได้ผลตามความต้องการ
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน อาจต้องมีการแยกพบทันตแพทย์ 2 ครั้ง ซึ่งอาจจะต้องวางแผนการเดินทางและอาจต้องใช้เวลา 3-7 วันโดยประมาณหากผู้เข้ารับการรักษาเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
เพื่อคงสภาพสีฟันหลังการฟอกสีฟัน ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้ง ต่อวันร่วมด้วยกับการใช้ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก และเลี่ยงการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีทั้งหลายเพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดคราบ เช่น ชา กาแฟ ไวน์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง ซอส และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
การฟอกสีฟันถือเป็นกระบวนการเปลี่ยนสีฟันที่ปลอดภัยและได้ผลลัพท์ที่ดี แต่อาจจะได้ผลลัพท์ที่น้อยกว่าสำหรับคนที่มีฟันสีเข้ม และอาจทำให้รู้สึกเสียวฟันและระคายเคืองเหงือกได้ในบางราย
ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ได้นำเสนอนี้ได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว แต่ทางเราขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ ก่อนเข้ารับการการบริการ/รักษาจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ท่านเลือก เนื้อหานี้อัปเดตล่าสุดเมื่อ 31/03/2022
สอบถามตอนนี้