สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การส่องกล้องวินิจฉัย ใน กรุงเทพมหานคร
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาท มากมายในชีวิตประจำวัน ไม่เว้นแม้กระทั่ง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทางด้านการแพทย์ อย่างเช่น การส่องกล้องเพื่อวินิจฉัยโรค หรือเพื่อตรวจเช็คความผิดปกติ ของอวัยวะภายในช่องท้อง หรือบางครั้งก็ส่องกล้อง เพื่อทำการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงและอันตราย สำหรับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เพราะการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ก็สามารถทำให้แพทย์ สามารถมองเห็นอวัยวะภายใน ได้ชัดเจนอีกด้วย และยังเป็นวิธีการ ที่มีความปลอดภัยสูง
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การส่องกล้องวินิจฉัย เพื่อตรวจความผิดปกติภายในช่องท้อง แพทย์จะทำโดยการฉีดยาชา และดมยาสลบ เพื่อจะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวด ขณะที่ทำการส่องกล้อง แพทย์จะทำการเปิดแผลขนาดเล็ก ประมาณ 0.5 - 1.0 เซนติเมตร บริเวณหน้าท้องของคุณ เพื่อที่จะทำการใส่กล้อง มีลักษณะเป็นหลอดเล็ก ๆ เพื่อใช้ในการขยายช่องท้อง หลังจากนั้น จะทำการสอดกล้องขนาดเล็ก ที่สามารถบันทึกภาพอวัยวะภายใน ของผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน และจะส่งมายังจอมอนิเตอร์ แพทย์ก็จะสามารถมองเห็น สิ่งผิดปกติและวินิจฉัยโรคได้ อย่างแม่นยำ
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
การส่องกล้องวินิจฉัยโรค ไม่ต้องนอนพักรักษาตัว ในโรงพยาบาล หลังจากตรวจเสร็จแล้ว พักฟื้นดูอาการอีก ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากไม่มีอาการแทรกซ้อน หรือสิ่งใดผิดปกติ ก็สามารถกลับบ้านได้เลย แต่ก็อาจจะมีบางกรณี ที่จะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล เพื่อติดตามอาการ
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังการส่องกล้องวินิจฉัยโรค คุณอาจจะรู้สึกมีไข้ไม่สบายตัว และอาจเกิดอาการเจ็บปวดได้ สามารถที่จะรับประทานยาแก้ปวด เพื่อบรรเทาปวดได้ หลังจากนั้น ประมาณ 5 วัน ก็สามารถที่จะ กลับไปใช้ชีวิต ได้ตามปกติได้
สามารถที่จะออกกำลังกายเบา ๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยง การออกกำลังกายแบบหักโหม อีกทั้ง ควรที่จะรับประทานอาหาร และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แพทย์อาจจะทำการนัดหมาย เพื่อติดตามอาการ ให้ไปพบแพทย์ทุกครั้ง
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การส่องกล้องวินิจฉัยโรค มีอัตราความสำเร็จสูง มากถึง 90 - 100% เลยทีเดียว และยังมีความปลอดภัยสูง ประหยัดค่าใช้จ่าย และใช้เวลาในการพักฟื้นไม่นาน รวมไปถึงการวินิจฉัยโรค ที่มีความชัดเจน แม่นยำมาก
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง