Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ปรับคิ้ว

APEX Medical Center - ภูเก็ต (ถนนบายพาส)
APEX Medical Center - ภูเก็ต (ถนนบายพาส)
APEX Medical Center - ภูเก็ต (ถนนบายพาส)
APEX Medical Center - ภูเก็ต (ถนนบายพาส)
APEX Medical Center - ภูเก็ต (ถนนบายพาส)
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
5 จาก 5
16 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง เสริมความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi
เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ - ภูเก็ต (ถนนบายพาส) ตั้งอยู่ติดกับถนนใหญ่ หาง่าย เดินทางสะดวก มีที่จอดรถด้านหน้า สะดวกสบาย ให้บริการเกี่ยวกับผิวพรรณและความงามอย่างครบวงจร เช่น การฉีดโบท็อกซ์, การฉีดฟิลเลอร์, เลเซอร์กำจัดขนถาวร, Coolsculpting, Thermage, Ulthera, และดริปวิตามิน เป็นต้น   นอกจ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ปรับคิ้ว
ราคา ฿179,966 - ฿179,966
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม เสริมความงาม ฟื้นฟูสภาพผม ฟรี Wi-fi การนำเที่ยวในท้องถิ่น การขนส่งในท้องถิ่น
Apex Profound Beauty ผู้นำนวัตกรรมความงาม ผิวพรรณ การดูแลเรือนร่าง สัดส่วน และการปลูกผม ได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับ 1 ในการรักษาด้วยเครื่องมือระดับโลก อาทิ Ulthera, Thermage, Zeltiq (CoolSculpting) จากการจัดลำดับทั่วโลก และเป็นอันดับ 1 ในการฉีดโบท๊อกซ์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดต่อกันหลายป... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ปรับคิ้ว
ราคา ฿179,966 - ฿179,966

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ปรับคิ้ว ใน ภูเก็ต

ปรับคิ้ว

ทรงคิ้ว นับว่าเป็นส่วนสำคัญของใบหน้า เพราะถ้าหากทรงคิ้วเปลี่ยน หน้าก็จะเปลี่ยนไปด้วย สำหรับในประเทศไทยนั้น มีวิธีการในการปรับเปลี่ยนทรงคิ้ว (Eyebrow Adjustment) อยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการกันคิ้ว การแว็กซ์คิ้ว การเขียนคิ้ว การฝังสีคิ้ว การลิฟต์คิ้ว และการสักคิ้ว เป็นต้น

 

สำหรับคิ้วที่ดี มีความเป๊ะสวย จะต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้

1. หัวคิ้วจะต้องไม่ขมวดคิ้ว เพราะบริเวณหัวคิ้วนั้น ถือได้ว่าเป็นจุดนำสายตาที่เด่นมาก โดยหัวคิ้วจะต้องไม่เข้มจนเกินไป และควรจะอยู่ประมาณหัวตา ไม่เกินเลยไปกว่านั้นจนชิดติดกัน เพราะจะทำให้หน้าดุ

2. รูปทรงของคิ้ว คิ้วโค้ง หรือคิ้วตรง โดยทรงคิ้วตรง จะเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าวงรี หรือหน้ากลม ส่วนคิ้วโค้ง สามารถทำได้หลากหลาย เช่น โค้งเข้าหาหัวคิ้ว เหมาะกับคนที่มีหน้าผากแคบ โค้งเป็นเส้นชัดเจน ทำให้ดูโตขึ้น โค้งแบบฟุ้ง ๆ ทำให้หน้าดูอ่อนหวาน ใบหน้ายาว เหมาะกับคิ้วที่ฟุ้ง ใบหน้าสั้น เหมาะกับคิ้วที่มีความโค้งขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ารูปเพชรหรือใบหน้าเหลี่ยม ควรมีคิ้วที่ฟุ้งไม่ชัดมาก ใบหน้ารูปเพชรแต่หน้าสั้น ให้เพิ่มเส้นโค้งตรงคิ้วเล็กน้อย

3. หางคิ้ว มีความยาวที่พอดี คิ้วยาว เหมาะกับคิ้วทรงโค้ง คิ้วสั้น เหมาะกับคิ้วทรงตรง

4. ความหนาของคิ้ว ความหนาของคิ้ว สามารถวัดได้จากความกว้างของคิ้วด้านบน จนถึงขอบหน้าผาก ที่ติดกับไรผม สามารถทำคิ้วหนา หรือยกทรงคิ้วให้สูงขึ้นกว่าเดิมได้หากคุณมีหน้าผากที่กว้าง แต่ไม่ควรให้คิ้วติดกับดวงตามากจนเกินไป

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การปรับเปลี่ยนทรงคิ้ว (Eyebrow Adjustment) ด้วยวิธีต่าง ๆ มีดังนี้

1. ฝังสีคิ้ว (Eyebrow Embroidery) คือการแต่งเสริมเติมคิ้ว โดยใช้เทคโนโลยีในการฝังสีลงไป ช่วยทำให้ชัดเจนมากขึ้น
 

ข้อดี ประหยัดเวลาในการแต่งหน้า แก้ข้อบกพร่องของคิ้ว เช่น คิ้วบาง หรือคิ้วไม่เท่ากัน ไม่ต้องคอยกังวลว่าสีคิ้วจะหลุดเมื่อเหงื่อออก หรือโดนน้ำ ช่วยให้ใบหน้าสวยและคมชัดมากขึ้น
ข้อเสีย ไม่สามารถแต่งหน้าที่บริเวณคิ้วได้ อาจเกิดการอักเสบ และระคายเคือง
 

2. กันคิ้ว (Trim the eyebrows) หรือ ถอนขนคิ้ว (Pluck the eyebrows) เป็นวิธีกำจัดขอบคิ้วที่รก และปรับรูปทรง ตกแต่งขอบคิ้วให้เข้ารูปได้ด้วยวิธีง่าย ๆ สามารถทำเองได้ที่บ้าน โดยการใช้อุปกรณ์ อย่างใบมีดกันคิ้ว และแหนบไว้สำหรับถอนคิ้ว มีความเจ็บเล็กน้อย และต้องคอยทำเรื่อย ๆ เมื่อขนคิ้วเริ่มงอกยาวขึ้น

ข้อดี ง่าย สามารถทำเองได้ที่บ้าน ราคาประหยัด เลือกทรงได้ตามต้องการ
ข้อเสีย การถอนขนบ่อย ๆ อาจทำลายรูขุมขนได้ และขนคิ้วอาจไม่งอกกลับมา ดังนั้นควรมั่นใจว่าไม่ถอนบ่อยจนเกินไป รวมถึงอาจผิดหวังกับทรงคิ้วได้ หากมีการผิดพลาด เพราะไม่ชำนาญ
 

3. เขียนคิ้ว (Draw on the eyebrows) เป็นอีกหนึ่งวิธี เพิ่มความชัดของคิ้ว และปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ง่าย ๆ ตามความชอบ สามารถแก้ไขได้จนกว่าจะพอใจ เหมาะกับคนที่มีคิ้วบาง คิ้วน้อย มีสี และรูปแบบให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบแปรง แบบดินสอ หรือแบบมาสคาร่า เป็นต้น

ข้อดี สะดวก ปรับแต่งทรง และสีเองได้รายวัน แก้ไขได้หากไม่พอใจ มีรูปแบบให้เลือกเยอะ
ข้อเสีย อยู่ไม่นาน ไม่ถาวร ต้องเขียนใหม่ทุก ๆ วัน ยากสำหรับคนที่ไม่ถนัด คิ้วอาจออกมาไม่เท่ากัน โดนน้ำหรือเหงื่อ อาจจะลบเลือนหายไปได้

 

4. แว็กซ์คิ้ว (Eyebrow Wax) เป็นวิธีกำจัดขนคิ้วชั่วคราว ถอนออกมาได้ถึงรากถึงโคน โดยสามารถแบ่งได้เป็น แว็กซ์คิ้วร้อน จะมีประสิทธิภาพในการถอนขนสูง และ แว็กซ์คิ้วเย็น ซึ่งทำได้ง่าย และประหยัดเวลา

ข้อดี มีประสิทธิภาพสูง สามารถกำจัดขนให้สะอาดได้ในคราวเดียว ใช้เวลาขึ้นค่อนข้างนาน ประมาณ 1 เดือน และขนที่ขึ้นใหม่จะเป็นขนอ่อน ๆ ไม่เป็นตอแข็ง รวมถึงมีบริการออกแบบทรงคิ้ว

ข้อเสีย อาจส่งผลให้เกิดการเคือง ผิวบวมแดงและแสบร้อนได้ ค่อนข้างเจ็บ ไม่แนะนำให้ทำด้วยตัวเอง
 

5. สักคิ้ว (Eyebrow Tattoo) เป็นการปรับรูปทรง ตกแต่งทรงคิ้วของผู้ที่ไม่มีขนคิ้ว มีขนคิ้วน้อย คิ้วไม่เป็นระเบียบ หรือไม่เป็นทรงสวยงาม สามารถทำได้ทั้งแบบดั้งเดิม แบบ 3 มิติ และแบบ 6 มิติ

ข้อดี เห็นผลทันที เห็นผลอยู่นาน ปราศจากความยุ่งยากจากการเขียนคิ้ว ช่วยประหยัดเวลา มั่นใจมากขึ้น
ข้อเสีย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ การดูแลหลังการทำค่อนข้างลำบาก ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
 

6. การลิฟคิ้ว (Eyebrow Lifting) คือการจัดระเบียบขนคิ้ว ให้ขนคิ้วยกขึ้น โดยไม่ต้องใช้มาสคาร่า ช่วยให้คิ้วเต็มกรอบ และดูหนาขึ้น

ข้อดี ช่วยให้คิ้วมีระเบียบ ดูเข้มสวยขึ้น

ข้อเสีย เป็นเพียงการเสริมให้คิ้วดูมีมิติ ต้องทำอย่างอื่นร่วมด้วยถึงจะครบสูตรคิ้วสวย

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ฝังสีคิ้ว (Eyebrow Embroidery) หลังฝังสีคิ้วเสร็จใหม่ ๆ คิ้วจะดูเข้ม และชัด ซึ่งจะจางลง ได้สีคิ้วที่แท้จริง ภายในระยะไม่เกิน 2 อาทิตย์ โดยสีจะจางลงประมาณ 40-50% 

กันคิ้ว (Trim the eyebrows) หรือ ถอนขนคิ้ว (Pluck the eyebrows) สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้แบบปกติ แต่งหน้า ออกแดดได้ แต่อาจจะต้องเลี่ยงสารเคมี หรือเครื่องสำอางที่เป็นกรด 1-2 วัน เพราะอาจมีการอักเสบบริเวณที่ทำการกำจัดขนคิ้วออก

เขียนคิ้ว (Draw on the eyebrows) ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น เพียงแต่ล้างให้สะอาด แล้วทาซ้ำใหม่เมื่อต้องการ

แว็กซ์คิ้ว (Eyebrows Wax) สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้แบบปกติ แต่อาจจะต้องเลี่ยงสารเคมี หรือเครื่องสำอางที่เป็นกรด 1-2 วัน เพราะอาจมีการอักเสบบริเวณที่ทำการกำจัดขนคิ้วออก ในบางคนอาจมีอาการระคายเคือง มีรอยแดง และบวมได้

สักคิ้ว (Eyebrow Tattoo) สามารถไปไหนมาไหนได้เลย หลังจาทำการสักคิ้ว แต่ให้งดการโดนน้ำบริเวณคิ้ว ประมาณ 5-7 วัน รอให้แผลแห้งตกสะเก็ด และลอกออก

การลิฟคิ้ว (Eyebrow Lifting) สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติหลังทำ แต่ให้งดการโดนน้ำ และน้ำมัน หลังจากการทำในระยะเวลาสั้น ๆ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

การดูแลหลังเข้ารับการฝังสีคิ้ว (Eyebrow Embroidery)

  • ห้ามแต่งหน้าบริเวณคิ้ว จนกว่าสะเก็ดจะหลุดลอกหมด

  • ห้ามแกะเกาเด็ดขาด เพราะอาจเกิดแผลเป็นได้

  • ห้ามโดนน้ำ 5-7 วัน เพื่อสีจะได้ไม่หลุดและแผลแห้งสนิท

  • ให้ใช้วิธีเช็ดรอบ ๆ คิ้วแทนทายาแก้อักเสบบาง ๆ บริเวณคิ้ว วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ไม่ควรทามากเกินไป เพราะจะทำให้สะเก็ดหลุดเร็ว และสีจะติดไม่ทน

  • งดทานไข่ อาหารหมักดอง อาหารเผ็ด ๆ อาหารทะเลทุกชนิด จนกว่าสะเก็ดจะหลุดหมด

  • ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ทำการรักษา

 

การดูแลหลังเข้ารับการกันคิ้ว (Trim the eyebrows) หรือ ถอนขนคิ้ว (Pluck the eyebrows) 

  • ใช้โลชั่นทาบริเวณคิ้วเพื่อลดความเจ็บปวดและอาการแดง

  • ทาครีมว่านหางจระเข้หรือออยล์เพื่อลดอาการแดง

  • ใช้น้ำแข็งประคบเพื่อลดการระคายเคืองและอาการแดง

การดูแลหลังเข้ารับการเขียนคิ้ว (Draw on the eyebrows)

  • ในกรณีที่ไม่ได้ใช้แบบกันน้ำ ให้ระวังการโดนน้ำ และเหงื่อ 

  • ล้างออกให้สะอาดก่อนเข้านอน

การดูแลหลังเข้ารับการแว็กซ์คิ้ว (Eyebrows Wax) 

  • ห้ามสัมผัส ถู ขยี้ หรือเช็ดผิวบริเวณที่แว็กซ์ด้วยความรุนแรง

  • งดการทำหัตถการต่าง ๆ บนผิวหน้า 1-2 สัปดาห์

  • งดการว่ายน้ำ อบซาวน่า

  • หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด

  • เลี่ยงกิจกรรมที่ต้องสัมผัสกับบริเวณที่แว็กซ์คิ้ว

การดูแลหลังเข้ารับการสักคิ้ว (Eyebrow Tattoo)

  • ใช้ผ้าเย็นประคบเพื่อลดอาการบวม และใช้ยาปฏิชีวนะแบบครีม ทาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

  • หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และห้ามทาครีมกันแดดหลังการสักเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์

  • หลีกเลี่ยงไม่ให้รอยสักโดนน้ำ ไม่แช่ตัวในอ่างอาบน้ำนานเกินไป และไม่ว่ายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำในสระว่ายน้ำที่มีส่วนผสมของคลอรีนสูง เป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังสัก หรือจนกว่ารอยสักจะเข้าที่ เพื่อป้องกันสีที่สักหลุดลอกออก และป้องกันการอักเสบติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้นได้

  • เมื่อรอยสักเข้าที่และอาการข้างเคียงต่าง ๆ หายสนิทประมาณ 2 สัปดาห์หลังสัก ผู้ที่สักจะสามารถกลับไปใช้ชีวิต ทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมไปถึงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงเสริมความงามได้ตามปกติ

การดูแลหลังเข้ารับการการลิฟคิ้ว (Eyebrow Lifting)

  • หลีกเลี่ยงการโดนน้ำ 5 ชั่วโมง

  • ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน 1-2 วัน

  • บำรุงด้วยวิตามินอี 1 สัปดาห์ เช้าเย็น

  • งดสครับผิวบริเวณคิ้ว 1-2 วัน

  • ใช้แปรงปัดเซ็ตขนคิ้วบ่อยครั้ง

  • ไม่ควรขยี้เส้นขนคิ้ว

  • กลับมาทำซ้ำอีกครั้ง เมื่อผ่านไป 4-6 สัปดาห์

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การปรับเปลี่ยนทรงคิ้ว (Eyebrow Adjustment) ในทุกรูปแบบวิธี จะไม่คงทน ถาวร จะต้องไปทำซ้ำอีก โดยวิธีที่อยู่ได้นานที่สุด คือการสักคิ้ว ที่ต้องไปทำซ้ำอีกครั้ง หลังจากผ่านไปประมาณ 4-6 สัปดาห์ โดยคิ้วจะจางลง เมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 ปี และการฝังสีคิ้ว 1-3 ปี ส่วนวิธีอื่น ๆ มักจะอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน ก็จะเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิม ต้องมีการทำซ้ำเรื่อย ๆ และทุกวิธีการสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยหลังทำ ต่างกันแค่วิธีการดูแลรักษา และระยะเวลารอคอยให้คิ้วออกมาสมบูรณ์แบบ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน