Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์

Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Lyfe Medical Wellness
Mordee ถลาง, ภูเก็ต
5 จาก 5
8 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย เวชศาสตร์ทั่วไป โรคภูมิแพ้ เสริมความงาม ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ บริการจองโรงแรม
Lyfe Medical Wellness – A Partner to Your Optimal Health With our focus in prevention, personalization and rejuvenation our services and treatments are customized to suit individual aim to bring you the optimal performance – Inner health, youthful and perfect look – Youth &... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์
ราคา ฿24,995 - ฿49,991

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ ใน ภูเก็ต

รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ หรือ Wrinkle Treatment with stem Cells คืออะไร ?

รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ (Wrinkle Treatment with stem Cells) หรือการทำทรีทเมนท์ชะลอวัยด้วยสเต็มเซลล์ คือการทำหัตถการชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหน้าโดยการใช้ส่วนประกอบหลักก็คือ สเต็มเซลล์ (stem Cells) นั่นเอง 

Stem Cells สำคัญแค่ไหน และมีหน้าที่อย่างไร ?  

สเต็มเซลล์ (Stem Cells) นั้นจริง ๆ แล้วคือ องค์ประกอบภายในของร่างกายของเรานั่นเอง ซึ่งลักษณะของสเต็มเซลล์มีความพิเศษที่สามารถเปลี่ยนรูปร่าง เพิ่มจำนวน และพัฒนา รวมถึงปรับเปลี่ยนเป็นเซลล์อื่น ๆ ได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดการฟื้นฟูร่างกาย ทำให้สเต็มเซลล์นั้นถูกนำมาใช้ในการทำทรีทเมนท์ชะลอวัย 

โดยปกติแล้วสเต็มเซลล์ของร่างกายจะอยู่ในไขกระดูก และเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาใช้งานด้วย สัญญานเตือนจากโปรตีนไซโตไคน์ในระบบภูมิคุ้มกัน 

หลังจากที่ถูกปล่อยออกมานั้นสเต็มเซลล์จะทำหน้าที่ แบ่งตัวกลายเป็นเซลล์เฉพาะ ต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ ณ ขณะนั้น เพื่อทำการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย

วิธีการทำการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ Wrinkle Treatment with stem Cells  

ในขั้นตอนแรกศัลยแพทย์จะต้องเก็บสเต็มเซลล์จากผู้เข้ารับการบริการ และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดสเต็มเซลล์ ทำการบำบัดและตรวจสอบ จากนั้นก็ส่งคนให้กลับผู้เข้ารับบริการ พร้อมด้วยการบอกปัญหาหลักที่สำคัญ และตามด้วยการประเมินชนิดของสเต็มเซลล์ที่จำเป็น และเริ่มทำการฉีดเสต็มเซลล์ ซึ่งหากเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความแม่นยำอาจมีการนำอุลตร้าซาวด์มาระบุตำแหน่งอีกด้วย 

ประโยชน์ของการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ (Wrinkle Treatment with stem Cells) 

นอกจากริ้วรอยต่าง ๆ ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มพลังในร่างกาย ระบบการทำงานภายใน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเกิดจากการพัฒนาของสเต็มเซลล์ที่ได้รับเพิ่มเข้าไปในร่างกายอีกด้วย เช่น ช่วยลดการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ ข้อต่อและหลัง รวมถึงการเพิ่มภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย 

ตำแหน่งของการฉีดสเต็มเซลล์ 

ตำแหน่งของการฉีดสเต็มเซลล์ที่นิยม สำหรับการลดริ้วรอยและชะลอความอ่อนวัยนั้น แบ่งออกเป็น 2 ตำแหน่ง นั่นคือ 

1.ผิวหน้าที่ประสบปัญหาอย่างเด่นชัด

เป็นการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง เพื่อลดริ้วรอย และร่องลึกต่าง ๆ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส รวมไปถึงบริเวณใกล้เคียง เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หน้าผาก และคอ เป็นต้น 

ซึ่งต้องใช้จำนวนสเต็มเซลล์เริ่มต้นถึง 5 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า และการประเมินของแพทย์ 

2. หลอดเลือดดำเพื่อเป็นทางผ่านสู่ร่างกาย

การฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อทำให้ผิวพรรณกลับมากระชับ แลดูอ่อนวัย พร้อมความขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง เรียบเนียนทั่วเรือนร่าง 

ซึ่งต้องใช้จำนวนสเต็มเซลล์ เริ่มต้นตั้งแต่ 15 ถึง 20 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ 

การใช้สเต็มเซลล์แตกต่างกับการใช้ยาอย่างไร ?

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการใช้ยา และการใช้สเต็มเซลล์บำบัด นั่นคือ ยา ถูกใช้อย่างจำเพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มอาการใดอาการหนึ่ง ในขณะที่สเต็มเซลล์คือ การใช้เซลล์บำบัดในศาสตร์ของเวชศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ อีกทั้งยังไม่ต้องรอให้มีอาการเจ็บป่วยก่อนที่จะใช้สเต็มเซลล์อีกด้วย

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

โดยสรุปแล้วการรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ Stem Cells ในการซ่อมแซมฟื้นฟูผิวหน้า และผิวกายให้มีความอ่อนวัยโดย  Stem Cells ที่นิยมนำมาใช้นั้นได้มาจากหลายรูปแบบ เช่น เซลล์ของตัวเอง (autologous) เซลล์ของคนอื่น (allogeneic) หรือเซลล์ของสัตว์ (xenotherapy) เช่น  embryonic stem cell ซึ่งได้มาจากตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันนอกจากความสวยงาม สเต็มเซลล์ยังถูกนำมาใช้รักาาโรคอีกหลายโรค เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ข้อเข่าเสื่อม ดรคเบาหวาน เป็นต้น

ในด้านความงามนั้นเซลล์ที่นิยมนำมาใช้นั่นคือ เซลล์ต้นกำเนิดของร่างกาย หรือ Mesenchymal Stem Cells (MSCs) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ได้มาจากไขมัน รก และไขกระดูก ซึ่งสามารถใช้เป็นเซลล์บำบัดได้อย่างกว้างขวาง

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากทำการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์แล้ว ผู้เข้ารับบริการจะสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ในทันที แต่ก็ต้องมีการดูแลเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ดีเช่นกัน

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการเข้ารับ Wrinkle Treatment with stem Cells สิ่งควรปฏิบัติเพื่อรักษามีดังนี้

  • งดอาหารรสจัด หลังทำเซลล์บำบัด 14 วัน

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในปริมาณอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน 

  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ หลังได้รับสเต็มเซลล์

  • งดการออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไป

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

โดยส่วนใหญ่แล้วหลังจากได้รับสเต็มเซลล์ก็จะสามารถเห็นผลได้ภายในทันที โดยจะค่อย ๆ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 2 ถึง 3 วันแรก และสามารถเห็นผลชัดเจนได้ภายใน 1 ถึง 2 เดือน ซึ่งผลการรักาาจะเห็นชัดเพียงใดขึ้นอยุ่กับแต่ละบุคคล และควรรับบริการทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน