
กับ Mor Dee คุณสามารถค้นหา 13 สถานพยาบาลที่ให้บริการ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก ใน กรุงเทพ. ราคาที่ดีที่สุดตอนนี้คือ ฿23,156 - รีบจองด่วน!
นิรันดา คลินิก ตั้งอยู่ที่ คลองเตย, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 70 แบบการรักษา แยกเป็น 4 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก นี้อยู่ที่ระหว่าง ฿34,700 บาท ถึง ฿47,300 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท โดยการรักษาในคลินิกนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 13 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
คลินิกศัลยกรรมตกแต่งกรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ดินแดง, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 53 แบบการรักษา แยกเป็น 5 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก นี้เริ่มต้นที่ ฿63,700 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท โดยการรักษาทั้งหมดในคลินิก จะเป็นความรับผิดชอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพียงท่านเดียวเท่านั้น และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
แคลริต้า คลินิกเวชกรรม ตั้งอยู่ที่ บางบอน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 3 แบบการรักษา แยกเป็น 2 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก นี้เริ่มต้นที่ ฿23,149 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท โดยการรักษาในคลินิกนี้ จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งมีแพทย์จำนวนกว่า 5 ท่าน ให้การรักษาอยู่ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
ชาเมอร์คลินิก สาขาอุดมสุข ตั้งอยู่ที่ บางนา, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 14 แบบการรักษา แยกเป็น 3 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ ชาเมอร์คลินิก สาขาอุดมสุข ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
เทียร่าคลีนิค ตั้งอยู่ที่ ลาดกระบัง, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 8 แบบการรักษา แยกเป็น 4 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ เทียร่าคลีนิค ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
ลา กราซ คลินิก ตั้งอยู่ที่ บางบอน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 11 แบบการรักษา แยกเป็น 4 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ ลา กราซ คลินิก ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
บีอีคิว คลินิก ตั้งอยู่ที่ บางรัก, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 7 แบบการรักษา แยกเป็น 4 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ บีอีคิว คลินิก ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
Surgery Expert Thailand ตั้งอยู่ที่ บางบอน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 23 แบบการรักษา แยกเป็น 2 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ โดยราคาสำหรับการรักษา ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก นี้อยู่ที่ระหว่าง ฿26,260 บาท ถึง ฿52,520 บาท ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ซึ่งการรักษาทั้งหมดในโรงพยาบาล จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันดูแล ซึ่งมีทั้งหมด 2 ท่าน และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
บีอีคิว คลินิก สยามสแควร์วัน ตั้งอยู่ที่ ปทุมวัน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 15 แบบการรักษา แยกเป็น 6 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ บีอีคิว คลินิก สยามสแควร์วัน ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ยังไม่มีข้อมูลสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่คลินิกแห่งนี้ และ ยังไม่ได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลใดๆ
เวอร์เทค คลินิก ตั้งอยู่ที่ บางบอน, กรุงเทพ, ประเทศไทย ให้การรักษาด้าน ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก โดยมีทั้งหมด 71 แบบการรักษา แยกเป็น 5 ประเภทความเชี่ยวชาญเฉพาะ ขณะนี้ที่ เวอร์เทค คลินิก ยังไม่มีข้อมูลราคาสำหรับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก แต่คุณสามารถขอใบเสนอราคาได้ ซึ่งในขณะที่ราคาเฉลี่ยของทุกสถานพยาบาลในประเทศอยู่ที่ประมาณ ฿22,463 บาท ซึ่งการรักษาทั้งหมดในคลินิก จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันดูแล ซึ่งมีทั้งหมด 2 ท่าน และ โดยได้รับมาตรฐานการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จากหลายองค์กร โดยมีดังต่อไปนี้ ICOI - International Congress of Oral ImplantologistsThe Dental Council of ThailandThe Dental Association of ThailandMedical Council of ThailandRoyal College of Surgeons of Thailand
ที่Mor Dee, เราทำให้การได้รับข้อมูลและเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่าย. คุณสามารถ ค้นหา, เปรียบเทียบราคา, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, และ ทำการนัดหมาย สำหรับศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณสนใจได้ในที่เดียวกัน. เราทำให้คุณเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลก, ให้คุณได้ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ,และเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ฟรี, ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง, การันตี ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม. แล้วคุณจะมัวรออะไร?
การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก เป็นการเสริมริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม เซ็กซี่ และได้รูปทรงที่สวยงาม ซึ่งผู้ป่วยสามารถใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาสาว ๆ ซึ่งวิธีนี้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียบางประการ นั่นคือ
ข้อดี คือ ทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และมีโอกาสช้ำเขียวได้น้อย
ข้อเสีย คือ ต้องไปฉีดบ่อย ๆ ทำให้สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีโอกาสแพ้สาร Hyaluronic Acid ได้อีกด้วย
ศัลยกรรมปากคือ การตกแต่งหรือการผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากให้เหมาะสมกับใบหน้า หรือตกแต่งแก้ไขตามความต้องการของผู้ทำศัลยกรรม ซึ่งการทำศัลยกรรมปากจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับรูปปากโดยเฉพาะ เช่น ปากหนา ปากบาง ปากคว่ำ ปากห้อย ปากไม่ได้รูป เป็นต้น ซึ่งการศัลยกรรมจะมีทั้งการตกแต่งริมฝีปากให้บางลง การตกแต่งริมฝีปากให้เป็นรูปกระจับ ยกริมฝีปากหรือการยกมุมปาก หรือการฉัดสารเติมเต็ม (Filler) เพื่อให้ปากดูอวบอิ่ม ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำ เพื่อให้ได้รูปปากที่เหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด
ปัญหารูปปากที่นิยมแก้ไขหรือตกแต่งด้วยการทำศัลยกรรมปาก
1. ริมฝีปากใหญ่และหนา
2. ปากไม่ได้รูป ไม่เป็นทรง
3. รูปปากเป็นทรงคว่ำ มุมปากตก ทำให้ดูเหมือนคนหน้าบึ้งตลอดเวลา
4. ริมฝีปากบางเกินไป
การทำศัลยกรรมปากมีกี่ประเภท
การทำศัลยกรรมปากที่นิยม มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้
1. ศัลยกรรมริมฝีปากให้บาง หรือการทำปากบาง
เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อลดขนาดริมฝีปากบนหรือล่างให้เล็กหรือบางลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากหนาหรือปากห้อย ศัลยแพทย์จะใช้วิธีตัดริมฝีปาก่วนเกินออกและเย็บด้วยไหมละลาย โดยที่แผลจะอยู่ด้านในริมฝีปาก โดยที่การทำศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากบนนั้นจะเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาริมฝีปากบนตกลงมาปิดฟันบนจนหมด ซึ่งบางคนอาจไม่พึงพอใจ โดยการศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากนี้ศัลยแพทย์จะตัดหนังส่วนเกินบริเวณใต้ฐานจมูกประมาณ 3-4 มิลลิเมตร โดยตัดโค้งไปตามรูปของปีกจมูก หลังจากนั้นจะเย็บดึงผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใต้รูจมูกขึ้นไป ทำให้รูปปากสมส่วนกับใบหน้ายิ่งขึ้น
2. การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงของปาก
การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากยอดนิยมในปัจจุบันคือ ศัลยกรรมปากกระจับ เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งริมฝีปากให้ได้รูป และริมฝีปากมีหยักนูนสวย ซึ่งการผ่าตัดมี 2 รูปแบบด้วยกันคือ การตัดริมฝีปากด้านข้างออกเพื่อให้บริเวณตรงกลางนูนขึ้น แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ ผู้ที่ปากบางอยู่แล้วอาจทำให้ปิดปากไม่สนิทได้ จึงได้มีการพัฒนาการศัลยกรรมปากเพิ่มเติมเป็นอีก 1 รูปแบบคือ การตัดริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยและใช้วิธีการเย็บบริเวณตรงกลางให้นูนขึ้นเป็นรูปทรง ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดเรื่องปากบางลงไปได้
3. การผ่าตัดยกมุมปาก
ศัลยกรรมปากแบบยกมุมปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก หรือปากคว่ำซึ่งทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง หรือใบหน้าดูเหมือนไม่ยิ้มตลอดเวลา เพราะเป็นการผ่าตัดเพื่อยกมุมปากให้สูงขึ้น โดยการผ่าตัดนี้ศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคหลายประการ ขึ้นกับรูปแบบปากเดิมและรูปทรงที่ผู้ทำศัลยกรรมต้องการ ไม่ว่าจะเย็บแผลด้านในหรือด้านนอก หรือการทำให้ปากยกขึ้นและกว้างขึ้น หรือมุมยกขึ้นแต่ปากเล็กลง
ราคาและคลินิกหรือโรงพยาบาลที่แนะนำสำหรับการทำศัลยกรรมปาก
ราคาของการทำศัลยกรรมปากถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมส่วนอื่นๆของร่างกาย สำหรับราคาโดยประมาณของการทำศัลยกรรมปากแต่ละชนิดจะไม่เท่ากัน ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
ตกแต่งริมฝีปากบนเป็นรูปกระจับ 16,000 บาท
แก้ไขปากบางสำหรับผู้ที่เคยทำศัลยกรรมปากมาแล้ว 30,000 บาท
ยกริมฝีปากบน 30,000 บาท
ผ่าตัดเสริมริมฝีปากให้หนาขึ้น 20,000 บาท
แก้ไขยิ้มเห็นเหงือก 25,000 บาท
ยกมุมปาก 20,000 บาท
เมื่อทราบว่าราคาในการทำศัลยกรรมปากแต่ละอย่างอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว ต่อมาก็ให้เลือกคลินิคหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและดูน่าเชื่อถือ เพราะว่าจะมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการศัลยกรรมปากให้กับเรา และโอกาสที่การทำศัลกรรมปากจะประสบความสำเร็จจะมากกว่าอีกด้วย ซึ่ง Mordee.co มีคลินิกหรือโรงพยาบาลที่คุณสามารถไปทำศัลยกรรมปากได้แบบปลอดภัยมาอยู่ 3 แห่ง
โรงพยาบาลยันฮี มีชื่อเสียงการทำศัลยกรรมเพื่อความงามอยู่แล้ว โดยเฉพาะการศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก โดยที่ผู้เข้ารับศัลยกรรมส่วนใหญ่พึงพอใจกับผลลัพธ์ของการทำปาก และพร้อมด้วยศัลยแพทย์ตกแต่งริมฝีปากที่มีประสบการณ์สุงมาก เพราะโรงพยาบาลยันฮีเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งที่เปิดให้บริการยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ภายใต้สโลแกน “โรงพยาบาลเพื่อสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร” และพร้อมให้การดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง
ภูณิศาคลินิก เป็นคลินิกย่านปิ่นเกล้าที่มีผู้คนนิยมไปทำศัลยกรรมปากกันเป้นอันดับต้นๆ โดยภูณิศาคลินิกจะมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการทำปากกระจับ โดยศัลยแพทย์ที่คลินิกนี้ทำปากกระจับออกมาสวยเป็นธรรมชาติ จนได้ฉายาว่า 'หมอภู ปากบาง' ซึ่งศัลยแพทย์สามารถแก้ปัญหารูปปากให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้ได้ เช่นแก้ไขปากห้อยริมฝีปากหนา โดยศัลยแพทย์จะทำการออกแบบทรงปากใหม่ เป็นปากกระจับทรงสวยถูกใจผู้ทำศัลยกรรม และการเย็บแผลของศัลยแพทย์ที่ภูณิศาคลินิกก็ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียด เพราะเย็บแผลได้สวย จึงทำให้แผลแผลหายไว
Aesthe Clinic ที่คลินิกนี้ศัลยแพทย์จะวิเคราะห์และออกแบบรูปทรงปากให้ตรงกับความต้องการของผู้ทำศัลยกรรมมากที่สุด ซึ่งคลินิกนี้จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการใช้เทคนิคพิเศษในการทำปากกระจับ และไม่ใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดและเย็บแผล โอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นจึงมีน้อย และศัลยแพทย์ของที่คลินิกนี้มีประสบการณ์และได้พัฒนาเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรรมปากมากกว่า 10 ปี จึงทำให้ผู้ทำศัลยกรรมมีความมั่นใจว่า เมื่อมาทำศัลยกรรมปากกับ Aesthe Clinic แล้วไม่ต้องแก้ซ้ำอีก
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมปาก
1. ผู้ทำศัลยกรรมจะต้องเข้าพบแพทย์ก่อนทำศัลยกรรม เพื่อประเมินรูปแบบปากที่ต้องการ และความเป็นไปได้ในการผ่าตัดซึ่งขึ้นกับรูปปากเก่าของผู้ทำศัลยกรรม โดยศัลยแพทย์จะสอบถามอาการและวางแผนการผ่าตัด
2. ไม่ควรรับประทานยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือดก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน รวมทั้งวิตามิน หรืออาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามิน C น้ำมันตับปลา เพราะอาจทำให้มีอาการบวมช้ำของแผลหลังผ่าตัดได้
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และห้ามสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์
4. ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบโดยละเอียดล่วงหน้า
สัดส่วนริมฝีปากที่สวยงาม
การทำศัลยกรรมปากเพื่อให้ริมฝีปากมีสัดส่วนที่สวยงามตามตำราโบราณ หรือที่เรียกกันว่า “โหวงเฮ้งปาก” เพื่อให้รับกับจุดอื่นๆบนใบหน้า สะท้อนเจตนาและกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่หลายๆคนคิดเอาไว้เช่นกัน ซึ่งเราได้นำลักษณะปากที่สวยงามมาเพื่อประกอบการตัดสินใจทำศัลยกรรมปาก
ริมฝีปาก ลักษณะเด่น ขนาดของปากที่ได้มาตรฐาน ลากเส้นจากกึ่งกลางลูกตาดำขณะมองตรง มาจนถึงมุมปากทั้ง 2 ข้าง หากกว้างเสมอกึ่งกลางลูกตาดำทั้ง 2 ข้าง พอดีถือว่าปากกว้าง ปากที่มีลักษณะดี ต้องมีขอบ มีหยัก มุมปากทั้ง 2 ข้าง ตรงหรือช้อนขึ้นเล็กน้อยและได้รูปเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า
• ริมฝีปากกว้าง จะทำให้สามารถทำงานใหญ่ได้ดี มีวาสนาดี มีผู้ให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์ กระตือรือร้นสูง มีความซื่อสัตย์ กล้าคิดกล้าทำ ตำแหน่งงานดี เจริญดี ทำงานใหญ่สำเร็จ หญิงหัวแข็งไม่ยอมใคร หากินเก่งกว่าชาย ไม่ชอบจำเรื่องในอดีต
• ริมฝีปากบนหนา จะเป็นผู้ให้ พูดตรง ซื่อสัตย์ ถ้าเป็นหญิงอาภัพคู่ ต้องแก้ไขโดยการฉีด ฟิลเลอร์ปาก ล่างให้มีความหนาที่มากกว่าริมฝีปากบน
สัดส่วนทองคำของริมฝีปากที่สวยงามนั้น จะมีสัดส่วนของความหนาระหว่างปากบนและความหนาปากล่าง จะอยู่ที่ประมาณ 1 ต่อ 1.6 สำหรับความกว้างของปากผู้หญิง จะอยู่ที่บริเวณช่วงขอบในของตาดำ แล้วประกอบกันกับมุม 45 และ 90 องศา เส้นลากต่อบริเวณช่วงจมูก ปาก แล้วก็บริเวณปลายคาง ก็จะสัมพันธ์กัน ทำให้ใบหน้าของคนไข้ที่มีลักษณะรูปปากดังกล่าวจะดูมีมิติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ปากที่ดีจะต้องมีเนื้อที่อวบอิ่ม ไม่มีริ้วรอย ไม่มีรอยยับย่น สำหรับผู้ที่ต้องใช้ริมฝีปากในการพูด การค้าขาย ริมฝีปากก็ควรจะมีความหนา และเหมาะสม เพื่อให้น้ำหนักหรือว่าคำพูดของผู้พูดมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการทำศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก
การตกแต่งรูปปากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (Filler)
เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดทำศัลยกรรมปาก แต่ต้องการมีรูปปากที่สวยงาม ดูอวบอิ่ม ก็สามารถทำการฉีดปากเพื่อตกแต่งปากให้ดูสวยงามได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งการฉีดปากหรือการฉีดสารเติมเต็ม (filler) หรือไขมันที่ริมฝีปากเป็นการแก้ไขข้อบกพร่องและเสริมความอวบอิ่มให้รูปปาก ซึ่งสารเติมเต็มหรือ ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง โดยสารชนิดนี้จะเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวริมฝีปาก รวมทั้งลดร่องลึกและริ้วรอยบนริมฝีปาก จึงทำให้ปากดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น การฉีดปากเป็นการศัลยกรรมที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม เเพราะไม่ต้องเปิดแผล จึงไม่มีรอบเย็บ แต่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน หลังจากนั้นจะสลายไปเองตามธรรมชาติ หากต้องการมีรูปปากทรงเดิมก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ นอกจากสารฟิลเลอร์แล้วโรงพยาบาลและคลินิกบางแห่ง ยังอาจใช้วิธีการฉีดไขมันได้ ซึ่งมีความปลอดภัยเช่นกัน แต่ต้องระวังเรื่องเซลล์ไขมันที่ยุบตัวลงด้วย โดยที่ราคาในการฉีดปากจะเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 บาท
หลังจากทำศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปากแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการริมฝีปากชาอยู่สักระยะโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งในช่วงนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายโดยกลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้านและต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งแพทย์จะยังไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยออกกำลังกายหลังจากผ่าตัดได้จนกว่าแผลจะหายดีและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อติดตามผลภายใน 5-7 วันหลังผ่าตัด หรือหากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที
หลังจากทำศัลยกรรมปากแล้วจะใชระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 เดือน เมื่อทำศัลกรรมแล้วควรประคบเย็นบริเวณริมฝีปากเพื่อลดอาการบวมต่อเนื่องตลอด 5 วันแรกหลังการผ่าตัด และผู้ทำศัลยกรรมจะต้องรักษาความสะอาดในช่องปาก และบริเวณแผลเย็บอย่างเคร่งครัด โดยบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์จ่ายให้หลังอาหารทุกมื้อเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากเศษอาหารที่ตกค้าง นอกจากนี้จะต้องหลีกเลี่ยงการพูดคุยนานๆ ควรรอให้แผลแห้งและหายสนิทก่อนประมาณ 1 เดือน ไม่ควทานอาหารรสจัดและของหมักดองต่างๆ ในช่วงนี้แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ ที่สำคัญที่สุด คือการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาตามเวลานัดอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลบาดแผลหลังผ่าตัด นับว่าเป็นขั้นตอนที่ละเอียดและสำคัญมาก เพื่อให้แผลแห้งและฟื้นฟูอย่างเร็ว ซึ่งผู้ป่วยควรประคบถุงน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอการบวมของริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติก หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับริมฝีปาก นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังต้องงดอาหารที่ร้อนหรือเย็นจัด จนกว่าบาดแผลจะหายดี นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องดื่มน้ำ โดยใช้หลอดดูด เพื่อให้ริมฝีปากขยับน้อยมากที่สุด และหลังจาก 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถใช้ลิปสติกได้ตามปกติ
ปกติแล้ว เมื่อเข้ารับการการศัลยกรรมปากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้นถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีอัตราความสำเร็จที่สูงถึง 60-70% โดยทีหลังผ่าตัดแล้ว รูปปากที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้ทำศัลยกรรม แต่หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะรูปปากที่แตกต่างกันไปของแต่ละคนทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ทุกเทคนิค เช่น ผู้ที่ปากบางไม่สามารถทำปากกระจับด้วยเทคนิคทั่วไปได้ เพราะเมื่อทำศัลยกรรมปากบางแล้วมักจะพบปัญหาปากปิดไม่สนิท หรือยิ้มแล้วเห็นหงือก ในบางรายที่อาจมีรูปปากอาจจะเบี้ยวหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะเครื่องมือไม่สะอาดและเชื้อโรคอื่นๆได้ สำหรับการศัลยกรรมยกมุมปากอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นเด่นชัดและรักษาไม่หาย ทำให้เสียความมั่นใจได้ หรือการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ฉีดไปไม่ถูกตำแหน่ง เครื่องมือไม่สะอาด หรือฉีดด้วยสารแปลกปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างร้ายแรงได้ ดังนั้นการเลือกศัลยแพทย์เฉพาะทางสำหรับการทำสัลยกรรมปากจึงสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรมปาก ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษาเรื่องการศัลยกรรมปากจากศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้วิเคราะห์และประเมินก่อนว่าการผ่าตัดรูปแบบใดสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด
การทำศัลยกรรมเสริมริมฝีปากโดยใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์มีอัตราความสำเร็จสูง โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยืนยันว่าวิธีนี้สามารถทำให้เพิ่มภาพลักษณ์และความมั่นใจในตนเองดีขึ้นเลยทีเดียว
หลังจาก 6-8 เดือน ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่ได้นานขนาดไหน เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานถึง 9-12 เดือน
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและง่ายก็ตาม แต่ก็มีผลข้างเคียงอยู่เล็กน้อย และอาจไม่ได้ส่งผลอันตรายแต่อย่างใด โดยผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ จะแสดงอาการให้เห็นเพียงไม่กี่วัน และมักแสดงอาการดังต่อไปนี้
หากอาการดังกล่าวยังไม่บรรเทาลงภายใน 2-3 วัน รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากบางกรณีอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมที่รุนแรง ริมฝีปากไม่สมส่วนกัน แผลเปื่อย เกิดอาการแพ้ และแผลติดเชื้อ เป็นต้น หากมีอาหารเหล่านี้ รีบพบแพทย์ เพื่อปรึกษาทันที
ถึงแม้ว่าข้อมูลที่ได้นำเสนอนี้ได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว แต่ทางเราขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ ก่อนเข้ารับการการบริการ/รักษาจากผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่ท่านเลือก เนื้อหานี้อัปเดตล่าสุดเมื่อ 05/01/2021
สอบถามตอนนี้