Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก

เดอร์มาพลัส คลินิก
เดอร์มาพลัส คลินิก
เดอร์มาพลัส คลินิก
เดอร์มาพลัส คลินิก
เดอร์มาพลัส คลินิก
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
4.77 จาก 5
13 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย โรคผิวหนัง เสริมความงาม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ฟรี Wi-fi การนำเที่ยวในท้องถิ่น
เดอร์มาพลัส คลินิก เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญ ในการดูแลผิวพรรณ มีผู้ใช้บริการประมาณ 600 คน ต่อปี พนักงานบริการสามารถพูดได้สองภาษาคือ ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย พวกเขาเหล่านั้น มาจากประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ คลินิกแห่งนี้เปิดให้คำปรึกษาทางการแพทย์กับผู้เชี่ยวชาญได้ฟรี แก่ผู้ใช้บริการที่ต้องการออ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก
สอบถามกับทางคลินิก
Derma Plus Clinic Phuket
Derma Plus Clinic Phuket
Derma Plus Clinic Phuket
Derma Plus Clinic Phuket
Derma Plus Clinic Phuket
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง เสริมความงาม
***Please contact us via e-mail for your convenience. *** Skin care clinic in Phuket Town. For those interested in modifying the structure of the face. Reduce wrinkles and tighten sagging skin. Glowing skin to be bright always. Outstanding service with a warm friendly in an atmosphere of comfort and... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ศัลยกรรมตกแต่งเสริมริมฝีปาก ใน ภูเก็ต

การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก เป็นการเสริมริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม เซ็กซี่ และได้รูปทรงที่สวยงาม สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์ ศัลยกรรมปาก

ฟิลเลอร์ปาก นับว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และได้รับความนิยมมากที่สุด ข้อดี คือ ทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และมีโอกาสเขียวช้ำได้น้อย ข้อเสีย คือ ต้องไปฉีดบ่อย ๆ ทำให้สิ้นเปลืองเวลา และค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีโอกาสแพ้สาร Hyaluronic Acid ได้อีกด้วย

ศัลยกรรมปาก คือ การตกแต่งหรือการผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากให้เหมาะสมกับใบหน้า หรือตกแต่งแก้ไขตามความต้องการของผู้เข้ารับการทำศัลยกรรม ซึ่ง การทำศัลยกรรมปาก จะแก้ปัญหาเกี่ยวกับรูปปากโดยเฉพาะ เช่น ปากหนา ปากบาง ปากคว่ำ ปากห้อย ปากไม่เข้ารูป เป็นต้น ซึ่งการศัลยกรรมจะมีทั้งการตกแต่งริมฝีปากให้บางลง การตกแต่งริมฝีปากให้เป็นรูป ปากกระจับ ยกริมฝีปาก หรือ การยกมุมปาก ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำ เพื่อให้ได้รูปปากที่เหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด

ปัญหารูปปากที่นิยมแก้ไขหรือตกแต่งด้วยการทำศัลยกรรมปาก

1. ริมฝีปากใหญ่และหนา

2. ปากไม่ได้รูป ไม่เป็นทรง

3. รูปปากเป็นทรงคว่ำ มุมปากตก ทำให้ดูเหมือนคนหน้าบึ้งตลอดเวลา

4. ริมฝีปากบางเกินไป

การทำศัลยกรรมปากมีกี่ประเภท

การทำศัลยกรรมปากที่นิยม มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

1. ศัลยกรรมริมฝีปากให้บาง

หรือการทำปากบาง เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อลดขนาดริมฝีปากบนหรือล่างให้เล็ก หรือบางลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากหนา หรือปากห้อย ศัลยแพทย์จะใช้วิธีตัดริมฝีปากส่วนเกินออก และเย็บด้วยไหมละลาย โดยที่แผลจะอยู่ด้านในริมฝีปาก การทำศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากบนนั้น จะเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาริมฝีปากบนที่ตกลงมาปิดฟันบนจนหมด โดยการศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากนี้ศัลยแพทย์จะตัดหนังส่วนเกินบริเวณใต้ฐานจมูก ประมาณ 3 - 4 มิลลิเมตร โดยตัดโค้งไปตามรูปของปีกจมูก หลังจากนั้นจะเย็บดึงผิวหนัง และกล้ามเนื้อบริเวณใต้รูจมูกขึ้นไป ทำให้รูปปากสมส่วนกับใบหน้ายิ่งขึ้น 

2. การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงของปาก

การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากยอดนิยมในปัจจุบันคือ ศัลยกรรมปากกระจับ เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งริมฝีปากให้ได้รูป และริมฝีปากให้มีหยักนูนสวย ซึ่งการผ่าตัดมี 2 รูปแบบด้วยกันคือ การตัดริมฝีปากด้านข้างออกเพื่อให้บริเวณตรงกลางนูนขึ้น แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ ผู้ที่ปากบางอยู่แล้วอาจทำให้ปิดปากได้ไม่สนิท จึงได้มีการพัฒนาการศัลยกรรมปากเพิ่มเติมเป็นอีกหนึ่งรูปแบบคือ การตัดริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อย และใช้วิธีการเย็บบริเวณตรงกลางให้นูนขึ้นเป็นรูปทรง ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดเรื่องปากบางลงไปได้ 


3. การผ่าตัดยกมุมปาก

ศัลยกรรมปากแบบยกมุมปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก หรือปากคว่ำ ซึ่งทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง หรือใบหน้าดูเหมือนไม่ยิ้มตลอดเวลา  เพราะเป็นการผ่าตัดเพื่อยกมุมปากให้สูงขึ้น โดยการผ่าตัดนี้ ศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคหลายอย่าง ขึ้นกับรูปแบบปากเดิม และรูปทรงที่ผู้ทำศัลยกรรมต้องการ ไม่ว่าจะเย็บแผลด้านในหรือด้านนอก หรือการทำให้ปากยกขึ้น และ กว้างขึ้น หรือมุมยกขึ้น แต่ปากเล็กลง 

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมปาก

  1. ผู้ทำศัลยกรรมจะต้องเข้าพบแพทย์ก่อนทำศัลยกรรม เพื่อประเมินรูปแบบปากที่ต้องการ และความเป็นไปได้ในการผ่าตัด ซึ่งขึ้นกับรูปปากเก่าของผู้ทำศัลยกรรม โดยศัลยแพทย์จะสอบถามอาการและวางแผนการผ่าตัด 

  2. ไม่ควรรับประทานยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือด ก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์ เช่น แอสไพริน รวมถึงวิตามิน หรืออาหารเสริมต่าง ๆ อย่าง วิตามิน C และ น้ำมันตับปลา เพราะอาจทำให้มีอาการบวมช้ำของแผลหลังผ่าตัดได้

  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และห้ามสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์

  4. ถ้ามีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบโดยละเอียดล่วงหน้า

สัดส่วนริมฝีปากที่สวยงาม

การทำศัลยกรรมปาก เพื่อให้ริมฝีปากมีสัดส่วนที่สวยงามตามโหงวเฮ้ง  หรือเพื่อให้รับกับจุดอื่น ๆ บนใบหน้า โดยที่ขนาดของปากนั้น ต้องได้มาตรฐาน เมื่อลากเส้นจากกึ่งกลางลูกตาดำขณะมองตรง มาจนถึงมุมปากทั้ง 2 ข้าง หากกว้างเสมอกึ่งกลางลูกตาดำทั้ง 2 ข้างพอดี ถือว่าปากกว้าง ส่วนปากที่มีลักษณะดี ต้องมีขอบ มีหยัก มุมปากทั้ง 2 ข้าง ตรงหรือช้อนขึ้นเล็กน้อย และได้รูปเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า

ริมฝีปากกว้าง จะทำให้สามารถทำงานใหญ่ได้ดี มีวาสนาดี มีผู้ให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์ กระตือรือร้นสูง มีความซื่อสัตย์ กล้าคิดกล้าทำ ตำแหน่งงานดี เจริญดี ทำงานใหญ่สำเร็จ เป็นผู้หญิงหัวแข็งไม่ยอมใคร หากินเก่งกว่าผู้ชาย ไม่ชอบจำเรื่องในอดีต

ริมฝีปากบนหนา จะเป็นผู้ให้ พูดตรง ซื่อสัตย์ ถ้าเป็นผู้หญิงจะอาภัพคู่ ต้องแก้ไขโดยการฉีด ฟิลเลอร์ปากล่าง ให้มีความหนาที่มากกว่าริมฝีปากบน

นอกจากนี้ปากที่ดี จะต้องมีเนื้อที่อวบอิ่ม ไม่มีริ้วรอย ไม่มีรอยยับย่น สำหรับผู้ที่ต้องใช้ริมฝีปากในการพูด การค้าขาย ริมฝีปากก็ควรจะมีความหนา และรับกันอย่างเหมาะสม เพื่อให้น้ำหนัก หรือว่าคำพูดมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการทำศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก

  • แพทย์จะทำการตรวจเช็คขนาดของริมฝีปาก และฆ่าเชื้อผิวหนังบริเวณที่ต้องการผ่าตัด

  • ฉีดยาชา เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด

  • ออกแบบริมฝีปากให้เหมาะสมกับรูปหน้าของผู้เข้ารับการรักษา

  • ทำการปรับตกแต่งแก้ไข ริมฝีปาก

  • เย็บแผลที่ผ่าตัด โดยการซ่อนแผลผ่าตัดไว้ด้านในปาก โดยขั้นตอนการผ่าตัดและเย็บแผลนั้น จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

  • ผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้

การตกแต่งรูปปากด้วยการฉีดสารเติมเต็ม (Filler)

เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดทำศัลยกรรมปาก แต่ต้องการมีรูปปากที่สวยงาม ดูอวบอิ่ม ก็สามารถทำการฉีดปากเพื่อตกแต่งปากให้ดูสวยงามได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งการฉีดปาก หรือการฉีดสารเติมเต็ม (filler) และไขมันที่ริมฝีปาก เป็นการแก้ไขข้อบกพร่อง และเสริมความอวบอิ่มให้รูปปาก สำหรับสารเติมเต็ม หรือ ฟิลเลอร์ ที่นิยมใช้ในปัจจุบันได้แก่ สารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง สารเติมเต็มชนิดนี้จะเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวริมฝีปาก ลดร่องลึก และริ้วรอยบนริมฝีปาก จึงทำให้ปากดูอวบอิ่มมากยิ่งขึ้น การฉีดปากเป็นการศัลยกรรมที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม เพราะไม่ต้องเปิดแผล จึงไม่มีรอยเย็บ แต่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้ประมาณ 6 - 12 เดือน หลังจากนั้นจะสลายไปเองตามธรรมชาติ หากต้องการมีรูปปากทรงเดิมก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ 

นอกจากสารฟิลเลอร์แล้ว โรงพยาบาลและคลินิกบางแห่ง ยังอาจใช้วิธีการฉีดไขมันได้ ซึ่งมีความปลอดภัยเช่นกัน แต่ต้องระวังเรื่องเซลล์ไขมันที่ยุบตัวลงด้วย

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากทำศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปากแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการริมฝีปากชาอยู่สักระยะโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งในช่วงนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายโดยกลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้านและต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งแพทย์จะยังไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยออกกำลังกายหลังจากผ่าตัดได้จนกว่าแผลจะหายดีและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อติดตามผลภายใน 5-7 วันหลังผ่าตัด หรือหากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที

หลังจากทำศัลยกรรมปากแล้วจะใชระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 เดือน เมื่อทำศัลกรรมแล้วควรประคบเย็นบริเวณริมฝีปากเพื่อลดอาการบวมต่อเนื่องตลอด 5 วันแรกหลังการผ่าตัด และผู้ทำศัลยกรรมจะต้องรักษาความสะอาดในช่องปาก และบริเวณแผลเย็บอย่างเคร่งครัด โดยบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์จ่ายให้หลังอาหารทุกมื้อเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากเศษอาหารที่ตกค้าง นอกจากนี้จะต้องหลีกเลี่ยงการพูดคุยนานๆ ควรรอให้แผลแห้งและหายสนิทก่อนประมาณ 1 เดือน ไม่ควทานอาหารรสจัดและของหมักดองต่างๆ ในช่วงนี้แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ ที่สำคัญที่สุด คือการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาตามเวลานัดอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

การดูแลบาดแผลหลังผ่าตัด นับว่าเป็นขั้นตอนที่ละเอียดและสำคัญมาก เพื่อให้แผลแห้งและฟื้นฟูอย่างเร็ว ซึ่งผู้ป่วยควรประคบถุงน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอการบวมของริมฝีปาก หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติก หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับริมฝีปาก นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังต้องงดอาหารที่ร้อนหรือเย็นจัด จนกว่าบาดแผลจะหายดี นอกจากนี้ ผู้ป่วยต้องดื่มน้ำ โดยใช้หลอดดูด เพื่อให้ริมฝีปากขยับน้อยมากที่สุด และหลังจาก 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด ผู้ป่วยสามารถใช้ลิปสติกได้ตามปกติ 

 

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

ปกติแล้ว เมื่อเข้ารับการศัลยกรรมปากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น ถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีอัตราความสำเร็จที่สูงถึง 60-70% โดยทันที หลังผ่าตัดแล้ว รูปปากที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้ทำศัลยกรรม 

แต่หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีความเสี่ยงมาก เพราะรูปปากที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ทุกเทคนิค เช่น ผู้ที่ปากบางไม่สามารถทำปากกระจับด้วยเทคนิคทั่วไปได้ เพราะเมื่อทำศัลยกรรมปากบางแล้ว มักจะพบปัญหาปากปิดไม่สนิท หรือยิ้มแล้วเห็นเหงือก ในบางรายอาจมีรูปปากเบี้ยวหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ เพราะเครื่องมือไม่สะอาด รวมถึงมีเชื้อโรคอื่น ๆ สำหรับการศัลยกรรมยกมุมปาก อาจจะทำให้เกิดแผลเป็นเด่นชัดและรักษาไม่หาย ทำให้เสียความมั่นใจได้  

การฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจจะฉีดไปไม่ถูกตำแหน่ง เครื่องมือไม่สะอาด หรือฉีดด้วยสารแปลกปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างร้ายแรงได้ ดังนั้นการเลือกศัลยแพทย์เฉพาะทางสำหรับการทำศัลยกรรมปาก จึงสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรม ควรปรึกษาเรื่องการศัลยกรรมปากจากศัลยแพทย์ในโรงพยาบาล หรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้วิเคราะห์และประเมินก่อนว่าการผ่าตัดรูปแบบใด สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด

การทำศัลยกรรมเสริมริมฝีปาก โดยใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์มีอัตราความสำเร็จสูง โดยผู้เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่ยืนยันว่า วิธีนี้สามารถทำให้เพิ่มภาพลักษณ์ และความมั่นใจในตนเองดีขึ้น หลังจาก 6 - 8 เดือน ผู้เข้ารับการรักษาจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่ได้นานขนาดไหน เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานถึง 9 - 12 เดือน 

แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและง่ายก็ตาม แต่ก็มีผลข้างเคียงอยู่เล็กน้อย และอาจไม่ได้ส่งผลอันตรายแต่อย่างใด โดยผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ จะแสดงอาการให้เห็นเพียงไม่กี่วัน และมักแสดงอาการดังต่อไปนี้ 

  1. มีเลือดออกตามบริเวณที่ฉีด

  2. มีอาการบวมช้ำ และแผลพุพอง

  3. มีรอยแดงตามบริเวณที่ฉีด

หากอาการดังกล่าวยังไม่บรรเทาลงภายใน 2 - 3 วัน ให้รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากบางกรณีอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมที่รุนแรง ริมฝีปากไม่สมส่วนกัน แผลเปื่อย เกิดอาการแพ้ และแผลติดเชื้อ เป็นต้น

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน