สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ศัลยกรรมเพื่อคุณแม่ ใน กรุงเทพมหานคร
การทำศัลยกรรมคืนความงามให้กับคุณแม่หลังคลอด เพื่อเรียกคืนหุ่น และรูปร่างของผู้หญิงหลังคลอดบุตร เพราะในช่วงหลังคลอดบุตรนั้น คุณแม่หลายคนประสบปัญหาหลายอย่างเช่น หน้าท้องไม่ยุบ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น หน้าอกแฟบแบน หย่อนยาน หน้าท้องหย่อนคล้อย อีกทั้งผิวพรรณเริ่มมีริ้วรอย ซึ่งสูญเสียความยืดหยุ่นอย่างรวดเร็ว ทำให้คุณแม่ขาดความมั่นใจกันถ้วนหน้า การศัลยกรรมเพื่อคุณแม่จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยการทำศัลยกรรมตั้งแต่ใบหน้า, หน้าอก, หน้าท้อง, เอว, อวัยวะเพศและก้น เรียกได้ว่า ยกเครื่องใหม่กันเลยทีเดียว สำหรับการแปลงโฉมครั้งนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว การศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมของคุณแม่มากที่สุด จะประกอบด้วยการดูดไขมันหน้าท้อง, ยกกระชับหน้าท้อง, ยกกระชับหน้าอก และการเสริมหน้าอก เป็นต้น
การทำศัลยกรรมเพื่อคุณแม่นี้ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่หย่าการให้นมลูกเรียบร้อยแล้ว และเป็นผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบุรณ์ ไม่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การแปลงโฉมคุณแม่ครั้งใหญ่ คุณแม่สามารถเลือกความต้องการได้ ตั้งแต่การทำการเสริมความงามและการทำศัลยกรรม โดยทั่วไปแล้วคุณแม่ที่ทำศัลยกรรมไม่ว่าจะเลือกทำเพียงอย่างเดียวหรือ หลายอย่าง แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึก(ยาสลบ) ทางหลอดเลือดดำ หรือยาชาทั่วไป ดังนั้นคุณแม่จะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยขณะที่ทำการศัลยกรรม หรือไม่รู้สึกตัวขณะที่ผ่าตัด
การผ่าตัดและการศัลยกรรมของคุณแม่ที่ได้รับความนิยม ได้แก่
1. การเสริมหน้าอกและการยกกระชับหน้าอก เพราะในช่วงตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนของคุณแม่สูงมาก ทำให้มีหน้าอกเพิ่มมากขึ้น แต่ในช่วงหลังคลอดแล้วฮอร์โมนตัวนี้จะลดระดับลงอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการให้นมบุตร เป็นเหตุทำให้หน้าอกของคุณแม่หย่อนคล้อยและแบนแฟบลง ดั้งนั้นการเสริมหน้าอก และการยกกระชับ สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ทำให้คุณแม่กลับมามีหน้าอกที่เต่งตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์ เป็นสาว 18 อีกครั้ง
2. การดูดไขมัน เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ สำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถลดน้ำหนัก หรือควบคุมน้ำหนักได้ด้วยการคุมอาหาร ให้กลับมามีรูปร่างที่มั่นใจได้อีกครั้ง
3. การยกกระชับหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดเพื่อกำจัดผิวหนังส่วนเกินออกจากช่องท้องของคุณแม่ ซึ่งคุณแม่จะได้กลับมามีหน้าท้องที่แบนเรียบและกระชับอีกครั้ง สร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้และทั้งนั้น คุณแม่ยังสามารถเลือกทำศัลยกรรมอย่างอื่น เพิ่มเติมได้อีก ไม่ว่าจะเป็น การยกกระชับแขน, การยกกระชับก้น หรือการกระชับช่องคลอด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำศัลยกรรมคืนความงามแก่คุณแม่ทั้งสิ้น
นอกเหนือจากการศัลยกรรมแล้วการเสริมความงามสำหรับคุณแม่ที่มีความปลอดภัยและไม่เจ็บตัว ไม่ต้องใช้การผ่าตัดก็สามารถทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อกซ์, การฉีดฟิลเลอร์ และการลดเซลลูไลท์ เป็นต้น
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การศัลยกรรมเพื่อคุณแม่นี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาทำประมาณ 4-8 ชั่วโมง และภายหลังจากการผ่าตัดแล้ว คุณแม่จะต้องพักรักษาตัวเพื่อดูอาการในโรงพยาบาล เป็นเวลา 1-2 วัน หากอาการดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ จึงสามารถกลับบ้านมาพักฟื้นเป็นเวลาอีก 10-14 วัน และยังต้องหมั่นเข้ารับการตรวจร่างกายกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตามนัดหมายทุกครั้ง และต้องดูแลตัวเองด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ภายหลังการพักฟื้นแล้ว คุณแม่สามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมตามปกติได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามคุณแม่จะต้องพยามหลีกเลี่ยง กิจกรรมที่ต้องใช้กำลัง ไม่ว่าจะเป็นการยกของหนัก ๆ อย่างน้อย 8 สัปดาห์ โดยทั่วไปแล้วร่างกายจะกลับมาเป็นปกติหลังจากการพักฟื้นแล้วประมาณ 2-3 เดือน
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ภายหลังการศัลยกรรมเพื่อคุณแม่แล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองและยังต้องตรวจติดตามอาการเรื่อย ๆ จนกว่าแผลจะหายดี ดังนั้นคุณแม่จึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ และเพื่อผลลัพธ์แห่งความงามที่รอคุณแม่อยู่ อีกทั้งคุณแม่ยังต้องดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การศัลยกรรมเพื่อคุณแม่ มีกระบวนการทำที่ค่อนข้างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ สำหรับคุณแม่หลังคลอด โดยส่วนใหญ่แล้วคุณแม่ทุกท่านจะได้รับความพึงพอใจ ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นได้ยาก และมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่การศัลยกรรมบางประเภทผลลัพธ์อาจยังไม่ชัดเจน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจึงจะเห็นผล
ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้แก่ การมีเลือดออกบริเวณแผล การติดเชื้อบริเวณแผล ถุงเต้านมเทียมรั่ว มีลิ่มเลือดอุดตัน รวมไปถึงความผิดปกติของรูปร่าง และการแพ้ยา เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คุณแม่คุณเลือกศัลยแพทย์ที่ได้มีวุฒิบัตรรับรอง มีชื่อเสียง มีประสบการณ์ และคุณต้องดูแลรักษาตัวเอง พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดอีกด้วย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง