เดอร์มาพลัส คลินิก ให้อะไรกับคนไข้บ้าง
เดอร์มาพลัส คลินิกได้รับการรับรองมาตรฐานอะไรบ้างและมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกี่ท่าน
ที่Mor Dee, เราทำให้การได้รับข้อมูลและเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่าย. คุณสามารถ ค้นหา, เปรียบเทียบราคา, แลกเปลี่ยนความคิดเห็น, และ ทำการนัดหมาย สำหรับศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณสนใจได้ในที่เดียวกัน. เราทำให้คุณเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลก, ให้คุณได้ประหยัดแรง ประหยัดเวลา ,และเป็นบริการที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย ฟรี, ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง, การันตี ไม่มีการบวกราคาเพิ่ม. แล้วคุณจะมัวรออะไร?
การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก เป็นการเสริมริมฝีปากให้มีความอวบอิ่ม เซ็กซี่ และได้รูปทรงที่สวยงาม ซึ่งผู้ป่วยสามารถใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาสาว ๆ ซึ่งวิธีนี้จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียบางประการ นั่นคือ
ข้อดี คือ ทำได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และมีโอกาสช้ำเขียวได้น้อย
ข้อเสีย คือ ต้องไปฉีดบ่อย ๆ ทำให้สิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีโอกาสแพ้สาร Hyaluronic Acid ได้อีกด้วย
ศัลยกรรมปากคือ การตกแต่งหรือการผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากให้เหมาะสมกับใบหน้า หรือตกแต่งแก้ไขตามความต้องการของผู้ทำศัลยกรรม ซึ่งการทำศัลยกรรมปากจะแก้ปัญหาเกี่ยวกับรูปปากโดยเฉพาะ เช่น ปากหนา ปากบาง ปากคว่ำ ปากห้อย ปากไม่ได้รูป เป็นต้น ซึ่งการศัลยกรรมจะมีทั้งการตกแต่งริมฝีปากให้บางลง การตกแต่งริมฝีปากให้เป็นรูปกระจับ ยกริมฝีปากหรือการยกมุมปาก หรือการฉัดสารเติมเต็ม (Filler) เพื่อให้ปากดูอวบอิ่ม ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำ เพื่อให้ได้รูปปากที่เหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด
ปัญหารูปปากที่นิยมแก้ไขหรือตกแต่งด้วยการทำศัลยกรรมปาก
1. ริมฝีปากใหญ่และหนา
2. ปากไม่ได้รูป ไม่เป็นทรง
3. รูปปากเป็นทรงคว่ำ มุมปากตก ทำให้ดูเหมือนคนหน้าบึ้งตลอดเวลา
4. ริมฝีปากบางเกินไป
การทำศัลยกรรมปากมีกี่ประเภท
การทำศัลยกรรมปากที่นิยม มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้
1. ศัลยกรรมริมฝีปากให้บาง หรือการทำปากบาง
เป็นการทำศัลยกรรมเพื่อลดขนาดริมฝีปากบนหรือล่างให้เล็กหรือบางลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาปากหนาหรือปากห้อย ศัลยแพทย์จะใช้วิธีตัดริมฝีปาก่วนเกินออกและเย็บด้วยไหมละลาย โดยที่แผลจะอยู่ด้านในริมฝีปาก โดยที่การทำศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากบนนั้นจะเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาริมฝีปากบนตกลงมาปิดฟันบนจนหมด ซึ่งบางคนอาจไม่พึงพอใจ โดยการศัลยกรรมปากแบบยกริมฝีปากนี้ศัลยแพทย์จะตัดหนังส่วนเกินบริเวณใต้ฐานจมูกประมาณ 3-4 มิลลิเมตร โดยตัดโค้งไปตามรูปของปีกจมูก หลังจากนั้นจะเย็บดึงผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใต้รูจมูกขึ้นไป ทำให้รูปปากสมส่วนกับใบหน้ายิ่งขึ้น
2. การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงของปาก
การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงปากยอดนิยมในปัจจุบันคือ ศัลยกรรมปากกระจับ เป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแต่งริมฝีปากให้ได้รูป และริมฝีปากมีหยักนูนสวย ซึ่งการผ่าตัดมี 2 รูปแบบด้วยกันคือ การตัดริมฝีปากด้านข้างออกเพื่อให้บริเวณตรงกลางนูนขึ้น แต่วิธีนี้มีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ ผู้ที่ปากบางอยู่แล้วอาจทำให้ปิดปากไม่สนิทได้ จึงได้มีการพัฒนาการศัลยกรรมปากเพิ่มเติมเป็นอีก 1 รูปแบบคือ การตัดริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยและใช้วิธีการเย็บบริเวณตรงกลางให้นูนขึ้นเป็นรูปทรง ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดเรื่องปากบางลงไปได้
3. การผ่าตัดยกมุมปาก
ศัลยกรรมปากแบบยกมุมปาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก หรือปากคว่ำซึ่งทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง หรือใบหน้าดูเหมือนไม่ยิ้มตลอดเวลา เพราะเป็นการผ่าตัดเพื่อยกมุมปากให้สูงขึ้น โดยการผ่าตัดนี้ศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคหลายประการ ขึ้นกับรูปแบบปากเดิมและรูปทรงที่ผู้ทำศัลยกรรมต้องการ ไม่ว่าจะเย็บแผลด้านในหรือด้านนอก หรือการทำให้ปากยกขึ้นและกว้างขึ้น หรือมุมยกขึ้นแต่ปากเล็กลง
ราคาและคลินิกหรือโรงพยาบาลที่แนะนำสำหรับการทำศัลยกรรมปาก
ราคาของการทำศัลยกรรมปากถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับการทำศัลยกรรมส่วนอื่นๆของร่างกาย สำหรับราคาโดยประมาณของการทำศัลยกรรมปากแต่ละชนิดจะไม่เท่ากัน ซึ่งจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
ตกแต่งริมฝีปากบนเป็นรูปกระจับ 16,000 บาท
แก้ไขปากบางสำหรับผู้ที่เคยทำศัลยกรรมปากมาแล้ว 30,000 บาท
ยกริมฝีปากบน 30,000 บาท
ผ่าตัดเสริมริมฝีปากให้หนาขึ้น 20,000 บาท
แก้ไขยิ้มเห็นเหงือก 25,000 บาท
ยกมุมปาก 20,000 บาท
เมื่อทราบว่าราคาในการทำศัลยกรรมปากแต่ละอย่างอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว ต่อมาก็ให้เลือกคลินิคหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานและดูน่าเชื่อถือ เพราะว่าจะมีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการศัลยกรรมปากให้กับเรา และโอกาสที่การทำศัลกรรมปากจะประสบความสำเร็จจะมากกว่าอีกด้วย ซึ่ง Mordee.co มีคลินิกหรือโรงพยาบาลที่คุณสามารถไปทำศัลยกรรมปากได้แบบปลอดภัยมาอยู่ 3 แห่ง
โรงพยาบาลยันฮี มีชื่อเสียงการทำศัลยกรรมเพื่อความงามอยู่แล้ว โดยเฉพาะการศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปาก โดยที่ผู้เข้ารับศัลยกรรมส่วนใหญ่พึงพอใจกับผลลัพธ์ของการทำปาก และพร้อมด้วยศัลยแพทย์ตกแต่งริมฝีปากที่มีประสบการณ์สุงมาก เพราะโรงพยาบาลยันฮีเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งที่เปิดให้บริการยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ภายใต้สโลแกน “โรงพยาบาลเพื่อสุขภาพและความงามอย่างครบวงจร” และพร้อมให้การดูแลรักษาตลอด 24 ชั่วโมง
ภูณิศาคลินิก เป็นคลินิกย่านปิ่นเกล้าที่มีผู้คนนิยมไปทำศัลยกรรมปากกันเป้นอันดับต้นๆ โดยภูณิศาคลินิกจะมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการทำปากกระจับ โดยศัลยแพทย์ที่คลินิกนี้ทำปากกระจับออกมาสวยเป็นธรรมชาติ จนได้ฉายาว่า 'หมอภู ปากบาง' ซึ่งศัลยแพทย์สามารถแก้ปัญหารูปปากให้เข้ากับรูปหน้าของคนไข้ได้ เช่นแก้ไขปากห้อยริมฝีปากหนา โดยศัลยแพทย์จะทำการออกแบบทรงปากใหม่ เป็นปากกระจับทรงสวยถูกใจผู้ทำศัลยกรรม และการเย็บแผลของศัลยแพทย์ที่ภูณิศาคลินิกก็ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียด เพราะเย็บแผลได้สวย จึงทำให้แผลแผลหายไว
Aesthe Clinic ที่คลินิกนี้ศัลยแพทย์จะวิเคราะห์และออกแบบรูปทรงปากให้ตรงกับความต้องการของผู้ทำศัลยกรรมมากที่สุด ซึ่งคลินิกนี้จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการใช้เทคนิคพิเศษในการทำปากกระจับ และไม่ใช้เลเซอร์ในการผ่าตัดและเย็บแผล โอกาสในการเกิดรอยแผลเป็นจึงมีน้อย และศัลยแพทย์ของที่คลินิกนี้มีประสบการณ์และได้พัฒนาเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรรมปากมากกว่า 10 ปี จึงทำให้ผู้ทำศัลยกรรมมีความมั่นใจว่า เมื่อมาทำศัลยกรรมปากกับ Aesthe Clinic แล้วไม่ต้องแก้ซ้ำอีก
หลังจากทำศัลยกรรมตกแต่งริมฝีปากแล้ว ผู้ป่วยจะมีอาการริมฝีปากชาอยู่สักระยะโดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งในช่วงนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องพักฟื้นร่างกายโดยกลับไปนอนพักรักษาตัวที่บ้านและต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งแพทย์จะยังไม่อนุญาตให้ผู้ป่วยออกกำลังกายหลังจากผ่าตัดได้จนกว่าแผลจะหายดีและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อติดตามผลภายใน 5-7 วันหลังผ่าตัด หรือหากมีอาการผิดปกติ รีบพบแพทย์ทันที
หลังจากทำศัลยกรรมปากแล้วจะใชระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์ จนถึง 1 เดือน เมื่อทำศัลกรรมแล้วควรประคบเย็นบริเวณริมฝีปากเพื่อลดอาการบวมต่อเนื่องตลอด 5 วันแรกหลังการผ่าตัด และผู้ทำศัลยกรรมจะต้องรักษาความสะอาดในช่องปาก และบริเวณแผลเย็บอย่างเคร่งครัด โดยบ้วนน้ำยาฆ่าเชื้อที่แพทย์จ่ายให้หลังอาหารทุกมื้อเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อจากเศษอาหารที่ตกค้าง นอกจากนี้จะต้องหลีกเลี่ยงการพูดคุยนานๆ ควรรอให้แผลแห้งและหายสนิทก่อนประมาณ 1 เดือน ไม่ควทานอาหารรสจัดและของหมักดองต่างๆ ในช่วงนี้แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ ที่สำคัญที่สุด คือการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดและมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาตามเวลานัดอย่างสม่ำเสมอ
ปกติแล้ว เมื่อเข้ารับการการศัลยกรรมปากโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้นถือว่าเป็นการทำศัลยกรรมที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีอัตราความสำเร็จที่สูงถึง 60-70% โดยทีหลังผ่าตัดแล้ว รูปปากที่ได้เป็นที่น่าพึงพอใจของผู้ทำศัลยกรรม แต่หากไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะรูปปากที่แตกต่างกันไปของแต่ละคนทำให้ไม่สามารถผ่าตัดได้ทุกเทคนิค เช่น ผู้ที่ปากบางไม่สามารถทำปากกระจับด้วยเทคนิคทั่วไปได้ เพราะเมื่อทำศัลยกรรมปากบางแล้วมักจะพบปัญหาปากปิดไม่สนิท หรือยิ้มแล้วเห็นหงือก ในบางรายที่อาจมีรูปปากอาจจะเบี้ยวหรือเสี่ยงต่อการติดเชื้อเพราะเครื่องมือไม่สะอาดและเชื้อโรคอื่นๆได้ สำหรับการศัลยกรรมยกมุมปากอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นเด่นชัดและรักษาไม่หาย ทำให้เสียความมั่นใจได้ หรือการฉีดฟิลเลอร์ปากที่ฉีดไปไม่ถูกตำแหน่ง เครื่องมือไม่สะอาด หรือฉีดด้วยสารแปลกปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างร้ายแรงได้ ดังนั้นการเลือกศัลยแพทย์เฉพาะทางสำหรับการทำสัลยกรรมปากจึงสำคัญที่สุดในการทำศัลยกรรมปาก ดังนั้นคนไข้ควรปรึกษาเรื่องการศัลยกรรมปากจากศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลหรือคลินิกที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้วิเคราะห์และประเมินก่อนว่าการผ่าตัดรูปแบบใดสามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด
การทำศัลยกรรมเสริมริมฝีปากโดยใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์มีอัตราความสำเร็จสูง โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ยืนยันว่าวิธีนี้สามารถทำให้เพิ่มภาพลักษณ์และความมั่นใจในตนเองดีขึ้นเลยทีเดียว
หลังจาก 6-8 เดือน ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์อีกครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นอยู่ได้นานขนาดไหน เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานถึง 9-12 เดือน
แม้ว่าการฉีดฟิลเลอร์ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและง่ายก็ตาม แต่ก็มีผลข้างเคียงอยู่เล็กน้อย และอาจไม่ได้ส่งผลอันตรายแต่อย่างใด โดยผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์ จะแสดงอาการให้เห็นเพียงไม่กี่วัน และมักแสดงอาการดังต่อไปนี้
หากอาการดังกล่าวยังไม่บรรเทาลงภายใน 2-3 วัน รีบพบแพทย์ทันที เนื่องจากบางกรณีอาจมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นอาการบวมที่รุนแรง ริมฝีปากไม่สมส่วนกัน แผลเปื่อย เกิดอาการแพ้ และแผลติดเชื้อ เป็นต้น หากมีอาหารเหล่านี้ รีบพบแพทย์ เพื่อปรึกษาทันที
ดูรายละเอียด
ติดต่อเรียบร้อย