สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันน่องในประเทศไทย
การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นเทคนิคการศัลยกรรมรูปร่างเพื่อนำไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการออก การดูดไขมันนั้นช่วยลดปริมาณไขมันที่เกิดจากการสะสมตามอวัยวะต่างๆ ซึ่งเป็นไขมันที่สลายได้ยาก
สำหรับการดูดไขมันน่อง (calf liposuction) ก็เพื่อลดน่องที่ปูดใหญ่ ทำให้เกิดการเสียความมั่นใจ บางคนอยากจะอวดขาเรียวสวย แต่ติดปัญหาน่องปูดใหญ่ เพราะน่องเองก็เป็นจุดหนึ่งที่สามารถสะสมไขมันได้ บางคนอาจจะต้องดูดไขมันน่อง และดูดไขมันขาไปพร้อมกัน ส่วนประกอบของน่องหลักๆ ก็จะมีกระดูก กล้ามเนื้อประมาณ 90% ของตัวน่อง และไขมัน 10% ของตัวน่อง สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาน่องใหญ่ มีอยู่ 2 ปัจจัยหลักด้วยกัน คือ
- พันธุกรรม
- การใช้ชีวิตประจำวันของเรา เช่น เดินเยอะ ยืนเยอะ การใส่รองเท้าส้นสูง การออกกำลังกายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขย่ง การกระโดด การวิ่ง การปั่นจักรยาน
การรักษา หรือการแก้ไข ปัญหาไขมันสะสมบริเวณน่อง สามารถทำได้ดังนี้ คือ
- การฉีดสลายไขมัน
- การโบท็อกซ์ เห็นผลค่อนข้างสั้น ระยะเวลาจำกัด
- การดูดไขมันน่อง (calf liposuction)
การดูดไขมันน่อง ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ ทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่คลินิก
เดี๋ยวนี้การทำให้ขาเรียวเล็กลง การดูดไขมันลดน่อง ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากมาย อย่างเช่น การทำศัลยกรรมด้วยนวัตกรรม Dream Legs เป็นเทคนิคที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency) ผ่านเข็มขนาดเล็กเพื่อจี้ระงับการทำงานของเส้นประสาทเฉพาะจุด (Nerve Ablation) เพื่อให้กล้ามเนื้อหดตัวเป็นจุดเล็กๆ หลายจุด (Muscle Coagulation) ช่วยทำลายเส้นประสาทที่กระตุ้นให้กล้ามเนื้อโตได้อย่างแม่นยำโดยที่ไม่ต้องกระตุ้นจากด้านนอก นอกจากนี้ยังมีการดูดไขมันน่องด้วยเทคนิค MICP เป็นการสลายกล้ามเนื้อตัวการที่ทำให้น่องปูดใหญ่
การรักษาพยาบาล เตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนทำการดูดไขมันน่อง?
ขั้นตอนการเตรียมตัวดูดไขมันน่องก็เหมือนๆ กันกับการดูดไขมันทั่วๆ ไปที่ก่อนจะทำการดูดไขมันจะต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอ จะต้องเตรียมผลตรวจเลือด เพื่อให้แพทย์ทราบถึงความเข้มข้นของเกล็ดเลือด ลักษณะของเม็ดเลือด รวมถึงโรคติดเชื้อต่างๆ (ถ้ามี) งดยา-อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดดื่มชา กาแฟ รวมถึงน้ำอัดลมก่อนเข้ารับการดูดไขมันน่อง เพราะจะทำให้ปวดปัสสาวะขณะดูดไขมัน ก่อนดูดไขมันน่องอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ผู้รับการดูดไขมันน่องสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ และควรเตรียมเสื้อผ้าสีเข้มไว้ใส่ในวันดูดไขมันน่อง เพราะหลังจากดูดไขมันจะมีน้ำซึมออกมา ซึ่งอาจจะทำให้เห็นเป็นคราบได้
ระยะเวลาพักฟื้นหลังการดูดไขมันน่องนานแค่ไหน?
เนื่องจากการดูดไขมันน่องในปัจจุบัน ใช้วิธีการผ่าตัดตัดเล็ก ซึ่งเรียกว่าเทคนิค MICP ข้อดีของการใช้เทคนิคนี้ดูดไขมันน่อง คือ ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเลย เมื่อทำการดูดไขมันน่องเสร็จ สามารถกลับบ้านหรือเดินได้อย่างปกติหลังจากทำเสร็จแล้วทันที อาจจะรู้สึกเมื่อยเล็กน้อยประมาณ 1-2 อาทิตย์แรก แต่ว่าสามารถใช้ชีวิตอะไรได้ตามปกติเลย
การดูแลหลังเข้ารับการรักษาดูดไขมันน่อง?
สำหรับการดูแลรักษาหลังจากการดูดไขมันน่อง ต่อให้เราไม่ต้องทำการพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ แต่ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกอาจส่งผลให้รู้สึกเมื่อยเล็กน้อย และช่วง 1-3 วันแรก อาจมีน้ำหรือเลือดซึมออกจากแผลได้ถือเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษและอย่างต่อเนื่อง เช่น ดูแลเรื่องความสะอาดบริเวณแผล ต้องทำแผลอย่างน้อย 1-2 ครั้ง/วัน สามารถอาบน้ำได้ตามปกติแต่ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำถ้าแผลโดนน้ำให้เช็ดแผลให้แห้ง แนะนำให้ปิดแผลด้วยปลาสเตอร์กันน้ำ ทางที่ดีไม่ควรให้แผลโดนน้ำ 7 วัน, รับประทานยาให้ครบตามที่แพทย์กำหนด เช่น ยาลดบวม ยาฆ่าเชื้อ รับประทานต่อเนื่อง 7 วัน, ไม่รับประทานอาหารที่เป็นของแสลง 2 อาทิตย์ เพราะแผลมีโอกาสติดเชื้อได้ ดังนั้นควรงดอาหารจำพวกหมักดอง เหล้าและบุหรี่, งดการออกกำลังกายหรือทำงานหนักที่จะทำให้เกิดการกระทบกระเทือนในบริเวณที่ดูดไขมันน่อง อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์, หลังดูดไขมันน่อง ผิวหนังและคอลลาเจนบริเวณนั้นยังไม่เล็กตามในทันทีจึงควรใส่ถุงน่องเพื่อช่วยซัปพอร์ตน่องไว้เพื่อที่จะได้หดรัดไปด้วยกัน ควรใส่ทุกวัน วันละ 8 ชั่วโมงหรือมากกว่า ยิ่งใส่ไว้นานๆ ยิ่งกระชับเร็ว, หลังจาก 2-4 สัปดาห์แล้ว ถ้าต้องการออกกำลังกาย ไม่ควรออกกำลังที่เน้นน่อง เพื่อไม่ให้น่องกลับมาใหญ่ได้อีก หรือเพื่อให้การดูดไขมันประสบผลสำเร็จได้ระยะเวลายาวนานที่สุด
การดูดไขมันเอวมีอัตราสำเร็จมากแค่ไหน?
สำหรับการดูดไขมันน่องด้วยเทคนิค MICP จะใช้เครื่องมือพิเศษที่มีขนาดเล็กเท่ากับหนวดกุ้ง ใส่เข้าไปในบริเวณกล้ามเนื้อมัดที่เราต้องการทำให้มันเล็กลง จากนั้นก็ปล่อยคลื่นสัญญาณลงไป เพื่อระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ แล้วก็สลายกล้ามเนื้อไปพร้อมๆ กัน ดังนั้นหลังจากการทำก็จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีว่ากล้ามเนื้อที่น่องของเรามีขนาดเล็กลง แต่ว่าขนาดจะเล็กลงที่สุดในระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากว่าตัวคอลลาเจนและตัวผิวหนังต้องใช้เวลาในการหดตัวไปให้พร้อมๆ กันกับกล้ามเนื้อที่หดตัวเล็กที่สุด หลังการทำเสร็จสามารถเดินได้ปกติ
นอกจากเทคนิค MICP แล้วก็มีการทำ Dream Legs ขั้นตอนการทำนั้น เริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์รูปแบบกล้ามเนื้อน่องและฉีดยาชา หลังจากนั้นคุณหมอจะใช้เข็มขนาดเล็กเพื่อเป็นสื่อ นับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัย ได้ผลยืนยาว และใช้เวลาเพียงแค่ 30 - 60 นาทีเท่านั้น ส่วนมัดกล้ามเนื้อส่วนที่ถูกทำให้หยุดการทำงานนั้นไม่มีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันแต่อย่างใด จริงๆแล้วน่องจะประกอบด้วยกล้ามเนื้อเป็นหลักและไขมันเป็นรอง การทำ Dream Legs จึงตอบโจทย์เช่นกันกับการทำให้น่องเรียวเล็ก และสวยงาม
ทางเลือกอื่นๆ ในการทำศัลยกรรมดูดไขมัน
ต่อให้การสะสมไขมันบริเวณน่องมีปริมาณเพียง 10% แต่ถ้ากล้ามเนื้อน่องใหญ่ก็ทำให้น่องของเราใหญ่ปูดไม่สวยงามได้ นอกจากการทำให้น่องกลับมาเล็กสวยงามด้วยการดูดไขมันน่องแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่บริเวณน่องเท่านั้นที่สามารถทำการลดขนาดได้ บริเวณอื่นที่มีการสะสมของไขมันก็สามารถทำการลดขนาดหรือดูดไขมันได้เช่นกัน ดังนั้นนอกจากการดูดไขมันน่องแล้ว mymeditravel ยังมีตัวเลือกของ Medical Tourism ในการดูดไขมันบริเวณส่วนอื่นๆ อีก เช่น การดูดไขมันแขน , การดูดไขมันขา, การดูดไขมันหน้าท้อง, การดูดไขมันก้น , การดูดไขมันเอว นอกจากนี้การดูแลตัวเองในเรื่องอื่นๆ หลังการดูดไขมันไปแล้วก็จะทำให้คุณรักษารูปร่างได้นานยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย อาหารที่มีไขมันน้อย งดของหวานต่างๆ รวมถึงการออกกำลังนอกจากทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังทำให้รูปร่างดีและกระชับเฟิร์มขึ้นด้วย แต่สำหรับคนที่กลัวว่าน่องจะกลับมาใหญ่ ก็แค่ไม่ออกกำลังกายที่เน้นส่วนน่องเท่านั้นเอง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต
หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต
การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต
ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
อื่น ๆ
ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน