สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันหน้าอกในประเทศไทย
ถึงแม้ว่าอาจจะมีคนหลายคนต้องการเสริมหน้าอกให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่ยังมีคนอีกหลายคนที่ขาดความมั่นใจกับขนาดหน้าอกที่ใหญ่จนเกินไป ดังนั้นทางเลือกในการดูดไขมันหน้าอกคงเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการลดขนาดหน้าอกที่ใหญ่จนเกินไปให้มีขนาดที่เล็กลง เพื่อให้มีขนาดหน้าอกที่พอดีกับรูปร่าง ซึ่งผู้ที่มีหน้าอกที่ใหญ่เกินไปมักจะพบกับปัญหาได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาปวดหลัง ปวดไหล่ และไหนจะมีปัญหาการกดทับเส้นประสาทจากการใส่เสื้อยกทรง อาจจะมีผื่นคันบริเวณใต้ราวนมเนื่องจากมีเหงื่อไปสะสม อาจจะเกิดเชื้อราได้ นอกจากนี้คนที่หน้าอกใหญ่มากจะหาเสื้อผ้าใส่ลำบาก รู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกจะช่วยทำให้บุคลิกภาพดีขึ้นและรู้สึกสบายตัวขึ้นได้
ผู้ที่เหมาะสมจะทำศัลยกรรมลดขนาดหน้าอกควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ก่อนการเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อขอเข้าทำการรักษาการศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
- รู้สึกว่าตนเองมีหน้าอกใหญ่มาก ไม่สมส่วนกับรูปร่างของตัวเอง
- มีความคาดหวังในโลกของความเป็นจริง คือไม่คาดหวังเกินความเป็นจริงเพราะการศัลยกรรมตกการดูดไขมันนมนั้นอาจจะได้หน้าอกในรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ความสวยงามของรูปทรงนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะรูปร่างของแต่ละคน
- ก่อนการทำศัลยกรรมดูดไขมันหน้าออกนั้นต้องตรวจสุขภาพให้ละเอียดว่าผู้ที่รับการรักษานั้นมีสุขภาพที่ดี
- หยุดการสูบบุหรี่ก่อนและหลังผ่าตัด 2 อาทิตย์ และหยุดทานยาที่มีผลทำให้เลือดแข็งตัวก่อน 2 อาทิตย์
- รู้สึกเจ็บต้นคอ บ่า ไหล่ ซึ่งมาจากเต้านมที่ใหญ่เกินไปไม่สมส่วนกับรูปร่าง
- มีร่องจากการกดของสายเสื้อยกทรง ซึ่งมาจากเต้านมที่ใหญ่เกินไป
การดูดไขมันหน้าอกมีขั้นตอนอะไรบ้าง/เตรียมตัวอย่างไร ?
การเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก
- ปรึกษาแพทย์ เมื่อมีความต้องการลดขนาดหน้าอกให้เข้าปรึกษาศัลยแพทย์
- ตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพร่างกายก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 อาทิตย์
- หยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด งดทานยาที่มีผลทำให้เลือกแข็งตัว 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด งดทานวิตามิน อาหารเสริมที่มีผลต่อการบวมช้ำของผลได้เช่น วิตามิน A, E, น้ำมันตับปลา
- งดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด
ขั้นตอนการผ่าตัดลดขนาดไขมันหน้าอก
- ดมยาสลบ
- เวลาผ่าตัด 3-5 ชั่วโมง
- นอนพักฟื้น 2-3 คืน
- ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัด 1 เดือน
*หมายเหตุ : ทั้งนี้ข้อมูลเบื้องต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หรือตามคำแนะนำของแพทย์
รูปแบบการศัลยกรรมดูดไขมันหน้าอกมีอยู่สองรูปแบบด้วยกัน
1. การผ่าตัดลดขนาดเต้านมแบบ Keyhole –Scar
การผ่าตัด ลดขนาดเต้านมแบบนี้จะใช้กับคนไข้ที่หน้าอกไม่ใหญ่มากนักเอาเนื้อนมออกน้อยแล้วเย็บปรับรูปทรงใหม่ ให้กระชับแล้วตัดหนังส่วนเกินออก เย็บปิดแผล โดย แผลเป็นน้อยกว่า แบบ Inverted T-
Scar
2. การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกแบบแผลตัว T กลับด้าน ( Inverted T-scar)
ศัลยแพทย์จะผ่าตัดโดยเปิดแผล เป็นรูปตัวทีกลับด้าน ดังรูปที่ 2 เพื่อตัดเอาเนื้อนมออกบางส่วนเพื่อปรับรูปทรงเต้านมใหม่ที่มีขนาดเล็กลง จากนั้น ตัดเอาหนังที่เหลือออกให้พอดีกับรูปทรง คนไข้ก็จะได้หน้าอกใหม่ที่สวยงามมีขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่างดีขึ้น
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ?
การพักฟื้นหลังจากการดูดไขมันหน้าอก ระยะเวลานอนพักฟื้น 4-5 วัน และดูแลร่างกายหลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน อาจจะมีอาการบวมช้ำ ปวดแผล อาการชา อาจจะหายไปใช้เวลาประมาณหลายเดือน หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย และยกของหนักประมาณ 6 อาทิตย์ ให้ใส่เสื้อ สปอร์ตบาร์ตลอดเวลาเพื่อรักษารูปทรง ลดอาการบวมทำให้แผลหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ระยะเวลาพักฟื้นของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลและตามคำแนะนำของแพทย์
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ผู้ที่ต้องการดูดไขมันนมควรงดอาหารรสจัด ของหมักดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงงดสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดประมาณ 1 เดือน นอนยกตัวสูงเล็กน้อยเพื่อช่วยลดการบวมช้ำ การดูแลแผลหลังผ่าตัดลดขนาดหน้าอก รับประทานยาแก้ปวด เพื่อลดอาการปวด พบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ห้ามยกของหนัก หลังผ่าตัด อย่างน้อย 2 อาทิตย์ โดยสามารถปฏิบัติกิจกรรมอื่นต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ถ้าต้องทำงานที่ต้องออกแรงหนักควรรอหลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลแยกปริ แผลอักเสบ บวม แดง มีไข้สูง หน้าอกบวมผิดปกติ ปวดแผลมาก มีเลือดหรือน้ำเหลืองซึมออกจากแผล เป็นต้น ควรพบแพทย์ได้ก่อนวันนัด ควรใส่เสื้อชั้นในประคองเต้านมเอาไว้ด้วย มิเช่นนั้นหน้าอกก็จะกลับมาหย่อนยานได้อีก ส่วนขนาดของหน้าอกอาจโตขึ้นได้ถ้าน้ำหนักตัวมากขึ้นเนื่องจากมีไขมันเข้าไปสะสม
ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หลังผ่าตัดลดขนาดหน้าอก
- แผลเป็น
- เลือดออกหลังผ่าตัด
- ซ้ำบวม
- ปวดแผล
- แผลหายช้า
- หน้าอกสองข้างไม่เท่ากัน
- ติดเชื้อให้สังเกตอาการว่า มีแผลบวม แดง ร้อน ที่เต้านม แล้วรู้สึกเหมือนจะมีไข้ ให้ไปพบแพทย์ทันที
- มีอาการชาที่เต้านม หรือ ความรู้สึกน้อยลง
- มีโอกาสนมแข็งได้ ถ้ามีการเสริมเต้านมเทียมพร้อมกับยกกระชับหน้าอก
- ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ (ขึ้นอยู่กับแต่ละคน)
อัตราประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ?
การศัลยกรรมลดขนาดหน้าออกมีอัตราความสำเร็จสูงเกือบทั้งหมด โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะมีขนาดหน้าออกที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และรูปทรงหน้าออกก็มีความกระชับขึ้น แต่อาจมีข้อเสียอย่างหนึ่งคือการผ่าตัดแบบรูปตัวทีกลับด้วยจะทำให้ผู้ป่วยมีรอยแผลเป็นที่ใต้ราวนม แต่คนไข้ก็จะได้หน้าอกใหม่ที่สวยงามมีขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่างดีขึ้น และคนไข้ที่หน้าอกไม่ใหญ่มากนักเอาเนื้อนมออกน้อยแล้วเย็บปรับรูปทรงใหม่ก็จะทำให้ได้นมที่มีรูปทรงที่สมส่วนกับหุ่น
มีทางเลือกอื่นๆในการทำศัลยกรรมดูดไขมันหรือเปล่า
ผู้ที่มีปัญหาไขมันนมส่วนใหญ่ย่อมตามมาด้วยกับปัญหาไขมันเฉพาะจุดอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนเกินที่แขน ที่ไม่กระชับ ปัญหาส่วนเกินที่ปีกหลัง หรือก้อนไขมันที่หลัง ซึ่งผู้รักษาสามารถพิจารณาการดูดไขมันเฉพาะจุดต่างๆ ร่วมด้วยไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมันปีกหลัง, การดูดไขมันก้อนไขมันที่หลัง, การดูดไขมันที่เอว หรือการดูดไขมันหน้าท้อง เพื่อรักษาสมดุลส่วนเกินในจุดต่างๆให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง