Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การผ่าตัดผนังกั้นช่องจมูกคด

โรงพยาบาลกมล
โรงพยาบาลกมล
โรงพยาบาลกมล
โรงพยาบาลกมล
โรงพยาบาลกมล
Mordee วังทองหลาง, กรุงเทพมหานคร
4.15 จาก 5
59 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ฟื้นฟูสภาพผม ศัลยกรรมทั่วไป รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ร้านกาแฟ ที่พักสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลกมล เป็นโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ในเขตวังทองหลาง ทางด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพฯ มีชื่อเสียง ในด้านการทำศัลยกรรมตกแต่ง และมีความเชี่ยวชาญในด้านการแปลงเพศ นับตั้งแต่ได้รับการรับรองจาก JCI ในปี 2558 โรงพยาบาลกมลกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหา การทำศัลยกรรมตกแต่งที่มีคุณภาพสูงส... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การผ่าตัดผนังกั้นช่องจมูกคด
ราคา ฿125,976 - ฿209,960

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดผนังกั้นช่องจมูกคด ใน ไทย

การที่มีผนังกั้นช่องจมูกคด หรือขยับไปด้านใดด้านหนึ่ง ของจมูกมากกว่าอีกข้างหนึ่ง ส่งผลให้เกิดปัญหามากมาย เช่น อาจเป็นสาเหตุ ของการปวดในโพรงจมูก ไซนัสอักเสบเรื้อรัง โรคริดสีดวงจมูก เลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนกรน และเกิดภาวะหยุดหายใจ ขณะหลับชนิดอุดกั้นได้

การผ่าตัดแก้ไขในส่วนนี้ แพทย์จะผ่าตัดผ่านช่องจมูก และเย็บด้วยไหมละลาย จึงทำให้ ไม่เห็นรอยแผลด้านนอก หรืออาจมีแผลเล็ก ๆ ที่ผิวหนังบริเวณกั้นช่องจมูก จากทางด้านหน้า ซึ่งแทบจะมองไม่เห็น

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

ผู้ป่วยที่ต้องการผ่าตัด แก้ไขปัญหาดังกล่าว ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจติดเชื้อ เพราะหากมีอาการทางระบบทางเดินหายใจแล้ว แพทย์จำเป็นต้องเลื่อน การผ่าตัดออกไป นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรหยุดยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน หรือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอีกด้วย 

ก่อนเข้าผ่าตัด ผู้ป่วยควรพบแพทย์ เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วย ตรวจเลือด และวัดคลื่นหัวใจ นอกจากนี้ก่อนผ่าตัด ผู้ป่วยต้องงดดื่มน้ำ และอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน จากการดมยาสลบ หลังจากนั้น ผู้ป่วยจะได้รับการโกนขนจมูก บริเวณที่ต้องการผ่าตัด

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ผู้ป่วยจะได้กลับบ้าน หลังการผ่าตัด 3-4 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ในระหว่างนี้ ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ และหลังจากนั้น แพทย์อาจนัดมาตรวจอีก 1 เดือน หรือทุก ๆ 3-6 เดือน

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรปฏิบัติตาม คำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด และสิ่งที่ผู้ป่วยพึงทราบ มีดังนี้

  • ผู้ป่วยจะได้รับยาแก้ปวด ยาต้านจุลชีพ ยาหยอดจมูกเพื่อห้ามเลือด ยาลดอาการคัน จาม น้ำมูกไหล โดยทั่วไปแล้ว หมออนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังผ่าตัด 3-4 วัน หากไม่มีโรคแทรกซ้อนใด ๆ
  • หลังผ่าตัดใหม่ ๆ ผู้ป่วยอาจจะต้องหายใจทางปากร่วมด้วย จนกว่าแพทย์จะเอาวัสดุ ออกจากจมูก 
  • ผู้ป่วยควรล้างจมูก โดยใช้น้ำเกลืออุ่น อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 
  • หลังการผ่าตัด 1 สัปดาห์ ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวัน ได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ หรือ ถ้ามีเลือดออกจากจมูก หรือไหลลงคอ ควรนอนพักโดยการยกศรีษะให้สูง หยอดยาเพื่อห้ามเลือด ตามที่แพทย์ได้สั่งไว้ หากเลือดยังไหลไม่หยุด ควรรีบพบแพทย์ทันที

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจ ต่อการผ่าตัดแก้ไขผนังกั้นช่องจมูกคด ถึง 85% เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยเองต้องหมั่นสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา เพราะอาจมีภาวะแทรกซ้อน และผลข้างเคียงขึ้นมา ซึ่งภาวะแทรกซ้อนดังกล่าว คือ 

  • มีเลือดออกเล็กน้อย แต่ในบางกรณีเลือดอาจออกมากเกินไป
  • ภาวะการติดเชื้อ

ดังนั้น ผู้ป่วยควรทำตามคำแนะนำ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยการดูแลและรักษาจมูก ให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา และหมั่นล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ อีกด้วย

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น