Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร ใน จอมทอง, เชียงใหม่

ปัจจุบัน คนไทยกำลังเผชิญกับโรคอ้วนมากขึ้น และบางคนก็ได้พยายาม ที่จะลดความอ้วน ด้วยหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหาร การออกกำลังกาย เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่า โรคอ้วนนั้นเป็นสาเหตุของอีกหลาย ๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคหัวใจ ดังนั้น การผ่าตัดเพื่อลดความอ้วน ไม่ใช่วิธี ที่จะทำให้เกิดความสวยงาม เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับสุขภาพ ของคนกลุ่มนี้ เป็นอย่างมาก

การผ่าตัดลดความอ้วน โดยการใช้วิธี ลดขนาดกระเพาะอาหาร จะมีด้วยกัน 2 วิธี คือ Gastric band และ Gastric bypass ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ต่างก็มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ แต่วิธีที่รวดเร็ว และใช้เวลาในการพักฟื้น น้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็นการผ่าตัดแบบ Gastric bypass

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร (Gastric Band Surgery) ก็คือ การผ่าตัดเพื่อลดขนาด ของกระเพาะอาหาร  โดยใช้การใส่ห่วง รัดกระเพาะอาหารแบบปรับได้ ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดลดความอ้วน อีกหนึ่งทางเลือก สำหรับคนที่เป็นโรคอ้วน โดยขั้นตอนในการผ่าตัดนั้น แพทย์จะทำการวางยาสลบ และฉีดยาชา เพื่อให้คุณไม่รู้สึกเจ็บปวด ในขณะที่ทำการผ่าตัด แพทย์จะใช้วิธีการเจาะแผลเล็ก ๆ ที่หน้าท้อง เพื่อใส่กล้องพร้อมอุปกรณ์ผ่าตัดขนาดเล็ก หลังจากนั้นก็จะใช้อุปกรณ์ ที่มีลักษณะคล้ายเข็มขัด สอดเข้าไปเพื่อทำการ รัดกระเพาะอาหารตอนบน จะทำให้กระเพาะอาหาร มีขนาดเล็กลง รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น วิธีนี้เป็นการผ่าตัดที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี  เมื่อคุณลดน้ำหนักตัวได้คงที่แล้ว สามารถที่จะกลับมาแก้ไข นำสายรัดกระเพาะอาหาร ออกได้ในภายหลัง

ข้อดีของการผ่าตัดแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหารคือ

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยกว่า จึงถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า
  • สามารถปรับเปลี่ยนได้ หรืออาจจะเปลี่ยนใจไปใช้วิธีการผ่าตัดแบบอื่น ในภายหลังก็ทำได้ไม่มีปัญหา
  • ไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมประจำทุก ๆ วัน
  • ใช้เวลาในการพักฟื้นในโรงพยาบาลหลังการผ่าตัดน้อยกว่า
  • สามารถที่จะปรับสายห่วงรัดกระเพาะอาหารได้ตามความเหมาะสม

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

 การผ่าตัดลดความอ้วนแบบใช้เข็มขัดรัดกระเพาะอาหาร โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที ซึ่งผู้เข้ารับบริการ จะเข้ารับการผ่าตัด แบบผู้ป่วยนอก เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้ว ก็จะให้นอนพักเพื่อรอให้ ฟื้นจากยาสลบและรู้สึกตัวดีแล้ว ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ในวันเดียวกัน ในช่วงระยะเวลา 14 วันแรกนั้น หมอจะนัดเพื่อมาติดตามอาการหลังการผ่าตัด 

ดังนั้น การผ่าตัดแบบนี้ จะใช้เวลาในการฟื้นตัวที่เร็วมาก คุณสามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิต ได้ตามปกติภายใน 2 วันแต่ถ้าจะให้ดีนั้น คุณควรจะหยุดงานสัก 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ยิ่งถ้างานของคุณ เป็นงานที่ต้องใช้กำลังด้วยแล้ว อาจจะต้องหยุดงานไปก่อน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กลับสู่สภาวะปกติ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการผ่าตัด แพทย์จะจัดการวางแผน ทางด้านโภชนาการของคุณใหม่ ในช่วง 2-3 วันแรก คุณสามารถทานได้ เฉพาะอาหารเหลว เช่น น้ำ น้ำผลไม้ และนม เป็นต้น คุณต้องกินอาหารแบบนี้ไปจนถึง สัปดาห์ที่ 4 เลยทีเดียว ช่วงระยะเวลา 4-6 สัปดาห์ คุณก็จะสามารถกินอาหารอ่อน ๆ ได้ และสามารถกินอาหารได้ตามปกติ ตั้งแต่ 6 สัปดาห์เป็นต้นไป

 นอกจากนั้น คุณจะต้องกินยาและปฏิบัติตัว ตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด หมั่นดูแลแผล ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ห้ามยกของหนัก เป็นอันขาด อีกเรื่องที่จำเป็นมากก็คือ คุณอาจจะต้องปรึกษา นักโภชนาการเกี่ยวกับอาหาร ของคุณในแต่ละมื้อ เพื่อที่จะทำให้คุณนั้น แน่ใจได้ว่าได้รับสารอาหาร ที่ครบถ้วนทุกมื้อ ไม่กินอาหารมากจนเกินไป เพราะถ้าคุณกินอาหาร ในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะทำให้เกิดการอาเจียนได้ เพื่อสุขภาพที่ดีจะต้องมีการ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ เพื่อที่จะได้ประสบความสำเร็จ ในการลดน้ำหนัก ตามที่คุณต้องการ

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

โดยทั่วไปแล้วหลังการผ่าตัด คุณก็จะสามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 40-60% บางคนน้ำหนักจะลดไปสัปดาห์ละ ประมาณ 0.5 - 1 กิโลกรัม เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าผ่านไป 1 ปี น้ำหนักคุณก็จะหายไปถึง 22-45 กิโลกรัม อย่างรวดเร็ว สิ่งสำคัญสำหรับการลดน้ำหนัก ในระยะยาวนั้น คุณจะต้องมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมีสุขภาพที่ดี จริงจัง และใส่ใจ เกี่ยวกับอาหารการกิน หมั่นออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

สิ่งที่ไม่ควรลืม และควรตระหนักก่อนเข้ารับการผ่าตัด ก็คือความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด เช่น 

  • อาการแทรกซ้อนหรืออาการข้างเคียงจากการดมยาสลบ เช่น อาจจะเกิดปัญหาหายใจติดขัด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เกิดอาการแพ้
  • ปัญหาการลดน้ำหนักลดลงอย่างช้า ๆ กว่าปกติ
  • การบาดเจ็บในอวัยวะส่วนอื่น ๆ ในช่วงท้อง
  • เป็นแผลในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหาร
  • อาจจะเกิดรอยแผลได้ในทางเดินอาหาร

สิ่งเหล่านี้ อาจจะเกิดขึ้นได้สำหรับทุกคน หรือบางคนเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด จะต้องศึกษาและทำความเข้าใจ ให้ดีก่อนตัดสินใจ ควรได้รับคำปรึกษาที่ดีจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น