การผ่าตัดอัณฑะ ใน ดุสิต, กรุงเทพมหานคร

การผ่าตัดอัณฑะ เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคมะเร็งอัณฑะ มะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งการผ่าตัดนี้อาจจะผ่าตัดเอาอัณฑะ เพียงอันเดียวหรือทั้งสองอันก็ได้

การผ่าตัดเอาอัณฑะออก มีขั้นตอนการทำที่ง่าย ๆ ซึ่งผู้ป่วยจะต้องนอนบนเตียงผู้ป่วย พยาบาลจะทำการโกนขนบริเวณรอบ ๆ และทำการฆ่าเชื้อที่บริเวณที่จะผ่าตัด เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแพทย์ ในการผ่าตัด แพทย์จะให้ยาชา และให้ยาระงับความรู้สึก พร้อมทั้งยาแก้ปวด แล้วจึงทำการผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 30 นาที 

หลังจากที่ยาชาเริ่มออกฤทธิ์แล้ว ศัลยแพทย์จะกรีดแผลตรงกลางอัณฑะ และเอาเนื้อร้ายออกมา แล้วเย็บแผลผิวหนัง ด้วยไหมละลาย และไหมจะละลายเองภายในระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ โดยไม่ต้องถอดไหมออก คุณหมอจะใส่ลูกอัณฑะเทียมให้แก่คนไข้ได้ หากคนไข้ต้องการ เพื่อให้ดูสวยงามเป็นปกติ

การผ่าตัดนี้ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวด บริเวณแผลได้ในช่วง 2 สัปดาห์แรก และต้องใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 1 เดือน ผู้ป่วยไม่ควรออกกำลังกาย หรืองดการออกกำลังกายอย่างหนัก แพทย์จะจ่ายยาแก้ปวด เพื่อแก้อาการปวดของคนไข้ ผู้ป่วยควรลางาน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่

1. ผู้ป่วยควรดื่มน้ำ และพักผ่อนให้มาก ๆ งดน้ำอัดลม ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ จะไปกระตุ้นให้ปัสสาวะ และหากร่างกายสูญเสียน้ำมากเกินไป จะให้ทำให้ร่างกายขาดน้ำ

2. คนในครอบครัวใส่ใจ และช่วยดูแลคนไข้ในช่วง 2 วันแรก

3. หากมีอาการบวมสามารถให้น้ำแข็ง หรือถุงน้ำแข็งประคบเพื่อลดอาการบวม

4. หมั่นทำความสะอาด และดูแลบริเวณแผลให้แห้งเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

5. ผู้ป่วยจะได้ยาต้านการอักเสบ และยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดให้ดีขึ้น

6. ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก อย่างน้อย 2 สัปดาห์

7. ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีกากใยสูง เพื่อกระตุ้นให้อุจจาระ และช่วยให้อุจจาระนิ่มลง

8. ในช่วงแรกผู้ป่วยอาจมีฉี่ปนเลือดออกมาได้ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปภายในไม่กี่วัน

9. งดกิจกรรมทางเพศ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่

การผ่าตัดเอาอัณฑะออก มีอัตราประสบความสำเร็จสูง โดยส่วนใหญ่แล้ วผู้ป่วยจะพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา แต่อาจมีผลข้างเคียงจากการผ่าตัดเอาอัณฑะออก คือ การลดลงของฮอร์โมนแอนโดรเจน และมีฮอร์โมนเพศหญิงมากขึ้น และผลอื่น ๆ ที่ตามมา อย่างเช่น มีอาการร้อนวูบวาบ ร่างกายสูญเสียความสมดุล มีความต้องการทางเพศลดลง หย่อนสมรรถภาพทางเทศ โรคกระดูกพรุน โลหิตจาง เหนื่อยง่าย เกิดการเปลี่ยนแปลทางอารมณ์ แผลอักเสบมีรอยแดง เป็นห้อเลือดในถุงอัณฑะ สุญเสียความรู้สึกรอบถุงอัณฑะ เป็นต้น