สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ใน วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
อวัยวะในร่างกายของเรา มีมากมายหลายชิ้นด้วยกัน แต่ก็ถือว่าทุกส่วน ย่อมมีความสำคัญและจำเป็น ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างเช่น เข่า ก็เหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นเพียงส่วนประกอบ ของร่างกายที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่รู้หรือไม่ว่า ข้อเข่า มีบทบาทต่อการเคลื่อนไหว ของร่างกายมาก บางครั้งหลายคนอาจจะ มีพฤติกรรมในการใช้ข้อเข่า ที่ไม่เหมาะสม จนอาจจะทำให้ข้อเข่าเกิดภาวะเสื่อม ก่อนวัยอันสมควร
ข้อเข่า จะมีการเชื่อมระหว่างหัวกระดูกต้นขา และเบ้ากระดูกหน้าแข้ง โดยจะมีกระดูกอ่อนปกป้องไว้ และมีน้ำคอยหล่อลื่น ช่วยลดแรงกดกระแทก ขณะที่เราเคลื่อนไหว และเมื่อไร ที่มีการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อน นั่นก็จะเป็นสาเหตุหลัก ที่จะทำให้เข่าติดขัด จนเกิดการอักเสบ บวม และปวดขึ้นมาทันที ซึ่งเรียกว่า "ข้อเข่าเสื่อม"
สาเหตุหลักที่จะทำให้เกิดข้อเข่าเสื่อม ก็จะมี
- อายุที่มากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะพบมากในกลุ่มผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
- เพศ สำหรับเพศหญิง จะมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน
- น้ำหนักตัว เป็นสาเหตุสำคัญมาก เพราะยิ่งมีน้ำหนักตัวที่มาก ก็จะยิ่งเพิ่มแรงกดดันในข้อเข่า ให้แบกรับน้ำหนักมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้กระดูกอ่อนผิวข้อเข่าชำรุด สึกหรอ และเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร
- การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า เช่น จากการเล่นกีฬา บางประเภท เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล หรือการเกิดอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า ทำให้ความแข็งแรงลดน้อยลง
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
สำหรับปัจจุบัน ที่มีวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ก็ได้มีสถานพยาบาลหลายแห่งด้วยกัน ที่สามารถรักษาข้อเข่าเสื่อมได้ และทำได้หลายวิธี ซึ่งแพทย์จะพิจารณาจาก อาการของแต่ละคน และความรุนแรง ถ้าอาการยังไม่รุนแรงมากนัก ก็อาจจะใช้วิธีการรักษาด้วยการฉีดน้ำหล่อลื่นผิวข้อเข่า เพื่อลดการเสียดสีเวลามีการเคลื่อนไหว แต่ถ้าหากมีอาการปวด ที่รุนแรงเรื้อรังมานาน ส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วย ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เพื่อทดแทนข้อเข่าที่เสื่อม
ผู้ป่วยจะต้องนอนโรงพยาบาล เพื่อเตรียมความพร้อม หลังจากนั้น วิสัญญีแพทย์จะมาแนะนำวิธีการระงับความรู้สึก ระหว่างการผ่าตัด ซึ่งจะมี 2 วิธี คือ การดมยาสลบ และการฉีดยาเข้าไขสันหลัง โดยวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของวิสัญญีแพทย์ การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นการผ่าตัดเอาผิวข้อ ที่เสื่อมสภาพออกไป แล้วใส่ผิวข้อใหม่ซึ่งทำมาจาก วัสดุพิเศษทางการแพทย์ ที่มีความแข็งแรงทนทาน เข้าไปใส่แทน แพทย์จะต้องปรับความตึง หรือหย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า เพื่อให้ขามีรูปร่างปกติ ไม่โก่ง ผิดรูป ตำแหน่งของข้อเข่าที่ถูกต้อง จะช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ดี หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องอยู่ในห้องพักฟื้นเป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง เมื่อฟื้นตัวจากยาสลบ จึงจะทำการย้ายไปพักในห้องพักของผู้ป่วย ซึ่งการเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จะได้ผลดีมากน้อยเพียงใดนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัด
- สภาพของข้อเข่าของผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด ถ้าหากข้อเข่าติดแข็งหรือผิดรูปมาก ๆ ก็จะต้องใช้วิธีการบริหารข้อเข่า หลังผ่าตัดเพื่อช่วยฟื้นฟู
- ความร่วมมือของผู้ป่วย หลังผ่าตัดในเรื่องของการทำกายภาพ หรือการบริหารข้อเข่า
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะต้องอยู่รักษาตัว และติดตามดูอาการในโรงพยาบาล 5-7 วัน หลังการผ่าตัด โดยในช่วงแรก ๆ ของการผ่าตัด
- จะมีสายสวนปัสสาวะ เพื่อให้แพทย์สามารถคุมปริมาณของเลือด และน้ำในร่างกายผู้ป่วยได้ถูกต้อง
- เข็มแทงที่เส้นเลือดดำ เพื่อเป็นการให้เลือด น้ำเกลือ และยาปฏิชีวนะ หลังการผ่าตัดใหม่ ๆ อาจจะมีอาการคลื่นไส้ จำเป็นที่จะต้องให้น้ำเกลือ
- จะมีการให้ยาปฏิชีวนะ 1/2 - 1 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด และให้ต่อไปอีก 1-2 วันหลังการผ่าตัด
- การผ่าตัดต้องตัดกระดูกและกล้ามเนื้อ อาจมีการเสียเลือดมาก จำเป็นจะต้องให้เลือดทดแทน
- มีท่อดูดเลือดที่ต่อออกจากบริเวณผ่าตัด และจะใส่ท่อไว้จนเลือดบริเวณผ่าตัดหยุด ปกติก็จะประมาณ 2-3 วัน
- หลังผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการหายใจแรง ไอบ่อย เพื่อให้ปอดขยายตัวได้ดีขึ้น เป็นการป้องกันภาวะปอดบวม อาจจะมีการใส่เครื่องช่วยขยับเข่า (Continuous Passive Motion - CCPM) วันที่ 2-3 หลังการผ่าตัด แพทย์จะให้เริ่มบริหารเข่า และเริ่มลุกนั่ง-ยืน และหัดเดิน โดยจะมีนักกายภาพบำบัดคอยช่วยเหลือ เมื่อผู้ป่วยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แผลผ่าตัดไม่มีอาการติดเชื้อ ก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาล 5-7 วัน
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ข้อควรปฏิบัติและการดูแลหลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
- พยายามให้ผู้ป่วยได้เดินบ้าง เท่าที่จะทนไหว หรือเท่าที่ไม่มีอาการปวด หรือบาดเจ็บ
- ถ้าหากมีน้ำหนักตัวเยอะ ก็ควรจะต้องลดน้ำหนักก่อน ค่อยเริ่มเดิน
- เฝ้าระวังการติดเชื้อในข้อเข่าหลังผ่าตัด เพราะข้อเข่าเทียมเป็นบริเวณที่ภูมิคุ้มกันเข้าไม่ถึง เมื่อมีการติดเชื้อจะรักษาได้ยาก ต้องหมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารถูกสุขลักษณะ หากไม่สบายก็ต้องรีบไปพบแพทย์
- ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ของข้อเข่าเทียม คือ หัตถการเกี่ยวกับช่องปาก และทางเดินปัสสาวะ เมื่อไปพบทันตแพทย์หรือแพทย์ ที่เกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ จะต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้ง ว่าเคยผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
ปัจจุบันพบว่า มากกว่า 90% ของผู้ป่วย ที่เข้ารับผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จะรู้สึกดีขึ้น และมีอาการเจ็บปวดน้อยลง สามารถที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ก็ยังจะต้องหลีกเลี่ยงบางกิจกรรม หลังการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม นั่นก็คือ กีฬาที่มีแรงกระแทก เช่น การวิ่ง กระโดด นอกจากนี้ก็จะเป็น การนั่งยอง ๆ การนั่งคุกเข่า ที่สำคัญ จะต้องหลีกเลี่ยงการนั่งส้วม แบบนั่งยอง ๆ โดยเด็ดขาด
จะมีแค่เพียง 2% เท่านั้นที่อาจจะมีการติดเชื้อของข้อเข่า หลังการผ่าตัดอย่างรุนแรง และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ รวมไปถึงเกิดภาวะการก่อตัวของลิ่มเลือด ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุ ของการเกิดเส้นเลือดอุดตันที่ปอด และอาจจะส่งผลให้เสียชีวิตได้
ในผู้ป่วย 80% พบว่าข้อเข่าเทียมจะสามารถอยู่ได้นานกว่า 20 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้งานของข้อเข่าของผู้ป่วย ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์กระดูก และคุณสมบัติของข้อเทียม สิ่งสำคัญผู้ป่วยจะต้องดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มมากขึ้น หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เสี่ยงต่อข้อเข่า ไม่ปล่อยให้ตัวเองติดเชื้อที่ใดที่หนึ่งนาน ๆ เช่น ไม่ปล่อยให้ตัวเองฟันผุ เหงือกอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือเป็นแผลที่เล็บเท้า เพียงแค่นี้ ก็จะช่วยยืดอายุให้ข้อเข่าเทียม มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขตวัฒนา
เขตวัฒนา เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า การบริการ และการทูต ตั้งอยู่ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ นับว่าเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตและการขยายตัวของสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างรวดเร็ว มีการคมนาคมและระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือโดยสารและรถโดยสาร โดยมีถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี ถนนทองหล่อ ถนนเอกมัย และถนนปรีดีพนมยงค์ เป็นถนนสายหลักเชื่อมโยงแหล่งธุรกิจพาณิชยกรรมในพื้นที่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง รวมถึงสถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามต่าง ๆที่เป็นที่นิยมและรู้จักเป็นอย่างดีของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บางกอกสไมล์ คลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลสุขุมวิท เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในเขตวัฒนา
วัดธาตุทอง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา วัดธาตุทองแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อพระบรมวงศานุวงศ์ไทยหลายพระองค์ และสามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายเพราะเป็นวัดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเอกมัย สามารถเข้าไปไหว้พระทำบุญได้ทุกวันตั้งแต่ 6.00-17.00 น.
ซอยคาวบอย เป็นย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร เป็นซอยสั้นๆ ประกอบไปด้วยบาร์ต่าง ๆ กว่า 40 บาร์ การบริการเน้นไปที่ลูกค้านักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย บาร์เกือบทั้งหมดในซอยคาวบอยจะเป็นรูปแบบบาร์อะโกโก้ สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก และรถไฟฟ้า สถานีสุขุมวิท ใกล้กับโรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยงหรือ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง เป็นเรือนเครื่องสับแบบล้านนาไทยดั้งเดิมหรือที่รู้จักกันว่า "เรือนกาแล" เป็นเรือนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้และศิลปวัตถุของชาวล้านนาตามวิถีชุมชนเกษตรกรรมในชนบทเมื่อครั้งอดีต ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 21 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศก
การเดินทางในเขตวัฒนา
มีตัวเลือกที่หลากหลายในการสัญจรภายในเขตวัฒนา ทั้งโดยทางรถยนต์เพียงแต่ว่าจะมีความหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นในตอนเช้ากับช่วงหัวค่ำ, รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท สถานีเอกมัย-สถานีทองหล่อ-สถานีพระโขนง-สถานีอโศกและสถานีพร้อมพงษ์ของรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สถานีสุขุมวิทของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล, รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ทั้งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ในจุดที่ใช้บริการทางพิเศษได้ง่ายอีกด้วย
ประชากรหรือผู้คนในเขตวัฒนา
ประชากรหรือผู้คนส่วนใหญ่ในเขตวัฒนามีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมระดับปานกลางถึงระดับสูง มีการผสมผสานกันในด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมเพราะในอดีตหลังจากมีการตัดถนนการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาซื้อที่ดินและอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามา ทำให้มีการผสานชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่ตามแนวความเจริญของถนนสายหลัก
สภาพภูมิอากาศในเขตวัฒนา
สภาพอากาศทั่วไปในกรุงเทพมหานครจะไม่แตกต่างกันมากนัก มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม