สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดเอ็นหัวเข่า (MCL) ใน ถลาง, ภูเก็ต
เมื่อใดที่เราได้รับบาดเจ็บ และมีอาการปวดเข่า จากการเคลื่อนไหว แพทย์ก็จะมีวิธี และขั้นตอนต่าง ๆ ในการวินิจฉัย ว่าจะต้องทำการรักษาในระดับใด เริ่มตั้้งแต่การรักษา แบบทั่วไปตามปกติ ไปจนถึงขั้นที่พบว่า มีอาการปวดอย่างรุนแรง และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าเป็นแบบนี้ แพทย์ก็มักที่จะแนะนำ ให้ทำการผ่าตัดเอ็นหัวเข่า ซึ่งในการผ่าตัดนั้น ก็จะต้องวินิจฉัย ให้ตรงกับโรคที่ผู้ป่วยกำลังประสบอยู่ เนื่องจาก ในหัวเข่านั้น มีเอ็นที่สำคัญหลายอย่าง เช่น เอ็นไขว้หน้า เอ็นประกับเข่าด้านนอก เอ็นประกับเข่าด้านใน และเอ็นไขว้หลัง เป็นต้น ซึ่งการบาดเจ็บของเส้นเอ็น และข้อเข่า จะมีหลายระดับด้วยกัน ขึ้นอยู่กับแรงที่มากระแทก และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ หัวเข่า รวมไปถึงความแข็งแรงของร่างกายด้วย
ข้อเข่า เป็นข้อต่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในร่างกาย และมีโครงสร้างที่มีความละเอียด ซับซ้อน ซึ่งก็จะประกอบไปด้วย ปลายกระดูกต้นขา และส่วนต้นของกระดูกหน้าแข้ง มีการเคลื่อนไหวในลักษณะ งอ เหยียด แบบบานพับ และหมุนได้เล็กน้อย โดยมีหมอนรองข้อ เพิ่มความมั่นคงของข้อ และลดแรงกระแทก ของกระดูกอ่อน ผิวข้อที่กระทบกัน ขณะเคลื่อนไหวในมุมต่าง ๆ มีกระดูกสะบ้าประกบวาง อยู่ทางด้านหน้า อีกทั้งยังมีเอ็นยึดกระดูกข้อต่อ เพื่อไม่ให้ข้อต่อ มีการหลุดแยกออกจากกัน ในขณะที่มีการเคลื่อนไหวของข้อ
เอ็นข้อเข่า ที่เราเรียกว่า เอ็นพับใน และพับนอก (Medial Collateral Ligament (MCL) เป็นเอ็นที่มีความสำคัญที่สุด ของข้อเข่า มีหน้าที่ในการเคลื่อนไหว และให้ความมั่นคงของหัวเข่า เมื่อได้รับอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บของเอ็นพับใน และพับนอกนี้ ก็อาจจะเกิดการฉีกขาด และมีอาการเจ็บปวด บวม จนเดินไม่ได้และมีเลือดออก ในหัวเข่า กรณีแบบนี้ ต้องรีบพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา และผ่าตัดตามคำแนะนำ ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเร็วที่สุด
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
เมื่อผู้ป่วยมีอาการบาดเจ็บ ในขั้นรุนแรง และแพทย์ก็ได้วินิจฉัย ในการรักษาด้วยการผ่าตัด เอ็นข้อเข่า ก็จะเริ่มด้วยการฉีดยาชา หรือวางยาสลบ เพื่อที่จะทำการผ่าตัด โดยเปิดแผลเพื่อส่องกล้อง ไปในหัวเข่า โดยใช้ arthroscope ซึ่งก็จะเป็นครื่องมือ ที่สามารถดูภายในข้อต่อ ของข้อเข่าได้ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบ ให้แน่ใจว่า จากการบาดเจ็บ ทำให้เอ็นข้อเข่าส่วนในฉีกขาด เพื่อที่จะประเมินขั้น ตอนในการรักษาต่อไป ผู้ป่วยจะได้รับการผ่าตัดรักษา โดยไม่รู้สึกเจ็บ มีการใช้แผ่นรัดห้ามเลือด บริเวณต้นขา เพื่อไม่ให้เลือดออกมาก ในระหว่างการผ่าตัด อาจจะด้วยวิธีการเย็บเอ็น เข้าด้วยกัน แต่ถ้าเกิดการเสียหาย จนยากที่จะเย็บได้ หมอก็จะต้องพิจารณาใน การผ่าตัดแทนการเย็บ และบางครั้งก็อาจจะต้อง ใช้เอ็นเทียมหรือเอ็นจากที่อื่น มาเชื่อมต่อใหม่ หากเกิดความเสียหาย จนยากที่จะต่อได้ เมื่อเสร็จขั้นตอนแล้ว แพทย์ก็จะทำการเย็บปิดแผล ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
อาการและความรุนแรงของการบาดเจ็บ มีดังนี้
- ปวดบวมบริเวณหัวเข่า
- กดเจ็บบริเวณที่เอ็นฉีกขาด บริเวณแนวข้อ ซึ่งเป็นตำแหน่งของหมอนรองข้อเข่า
- เดินลงน้ำหนักไม่ได้หรือเดินแล้วปวดเสียวมากกว่าปกติ
- การงอหรือเหยียดเข่าไม่ได้ เข่าติดในทาใดท่าหนึ่ง อาจจะเกิดจากหมอนรองเข่าขาด ไปขวางในข้อ
- รู้สึกว่าเข่าบวมหรือ ผิดรูปอาจจะเกิดจากเอ็นใหญ่ขาด หรือกระดูกแตก
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การผ่าตัดเอ็นหัวเข่า (MCL) จะใช้เวลาไม่นานโดยประมาณ 1-1.5 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้น ก็จะเฝ้าดูอาการในห้องอีกสักระยะ เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวดีแล้ว ก็จะย้ายไปพักฟื้นต่อ ในห้องของผู้ป่วยทันที หลังจากการผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยก็จะพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลต่ออีก 2-3 วัน หากว่าไม่มีอาการแทรกซ้อน หรือผิดปกติใด ๆ ก็จะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ทันที และแพทย์ก็จะทำการนัดหมาย เพื่อมาติดตามอาการหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่างเคร่งครัด
ระยะเวลาในการพักฟื้น หลังการผ่าตัดเอ็นหัวเข่า อาจจะต้องใช้ระยะเวลา พักฟื้นที่แตกต่างกัน แล้วแต่อาการบาดเจ็บ และวิธีการรักษาด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาฟื้นตัว โดยประมาณ 6 เดือน ก็จะหายเป็นปกติ เมื่อไปผ่านไปสัก 3-4 สัปดาห์ ก็สามารถที่จะกลับไปทำงานได้ตามปกติ เมื่อครบ 4 เดือน ก็สามารถที่จะออกกำลังกายเบา ๆ วิ่งเหยาะ ๆ ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวัง สำหรับบางกรณี ก็อาจจะใช้ระยะเวลา ในการพักฟื้นนานถึง 1 ปีก็ได้ ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น สภาพร่างกายของผู้ป่วย อาหารในแต่ละมื้อที่รับประทาน ครบตามที่ร่างกายต้องการหรือไม่ เป็นต้น
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
การดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
ผู้ป่วยจะได้รับการพันเข่าด้วยสำลีหนา ๆ แล้วรัดด้วยผ้ายืดให้แน่น เพื่อไม่ให้บวมประมาณ 3-4 วัน หลังจากนั้น ก็จะให้ผู้ป่วยเริ่มทำการบริหารกล้ามเนื้อหัวเข่าได้ โดยการบริหารกล้ามเนื้อ หรือการทำกายภาพบำบัดหลังการผ่าตัด ก็จะมีขั้นตอนดังนี้
- หลังจากแผลหายดี ผู้ป่วยเริ่มบริหารกล้ามเนื้อเหยียดหัวเข่าได้
- เริ่มการบริหารโดยท่าที่ไม่ให้เข่ารับน้ำหนักมากเกินไป เช่น การว่ายน้ำ การขี่จักรยาน เป็นต้น
- การบริหารกล้ามเนื้อโดยใช้น้ำหนัก
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และครบหมวดหมู่
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้แผลหายช้า
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ใช้เข่าเพราะอาจเกิดการช้ำ บวมได้
- ห้ามยกของหนักในระยะนี้
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
สำหรับในการผ่าตัดเอ็นหัวเข่า (MCL) โดยส่วนใหญ่ จะได้รับผลตอบรับ และประสบความสำเร็จ เป็นอย่างมาก คิดเป็นร้อยละ 85-90 เลยทีเดียว สำหรับบางกรณีเท่านั้น ที่อาจจะมีอาการแทรกซ้อน หรือผลข้างเคียง เช่น เกิดการติดเชื้อ และการลิ่มเลือดทำให้เลือดแข็งตัวช้า ก็จะเป็นอีกสาเหตุทำให้ การผ่าตัดเกิดความผิดพลาดได้ หลังการผ่าตัดและรักษาตัว หายดีแล้ว ผู้ป่วยก็สามารถที่จะกลับไปเดิน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ก็ไม่แนะนำสำหรับการ กลับไปเล่นกีฬาหนัก อย่างเช่น ฟุตบอล รักบี้ เป็นต้น