สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า (ACL) ใน ภูเก็ต
ข้อเข่า นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอวัยวะ ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย และหนึ่งในอาการบาดเจ็บ ของนักกีฬาฟุตบอล รองจากข้อเท้า ก็คือ เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ซึ่งเป็นการเกิดอุบัติเหตุขณะเล่นฟุตบอล ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรม ที่มีการเคลื่อนไหว แบบบิดหมุนตัว แล้วเกิดการเสียหลักหกล้ม ซึ่งก็จะทำให้เอ็นไขว้หน้าเข่าขาดได้ จะต้องใช้เวลาในการรักษานานหลายเดือน ดังนั้น หากเกิดการบาดเจ็บ หรือสงสัยว่าเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด ให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะหาแนวทางในการรักษา โดยเร็วที่สุด
เอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament - ACL) เป็นเอ็นหลักของเข่า อยู่ลึกเข้าไปในส่วนกลางของข้อเข่า ช่วยรักษาความมั่นคงของข้อเข่า ในการเคลื่อนไหว ทำหน้าที่ป้องกันการบิดหมุนของข้อเข่า เมื่อเอ็นไขว้หน้าขาด จะได้ยินเสียงลั่นในข้อ มีอาการเข่าบวม และเลือดออกในหัวเข่า ต้องรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้อาจจะส่งผลให้เข่าเสื่อมก่อนวัยอันสมควร
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีภาวะเอ็นไขว้หน้าขาด ก็จะยังใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจจะมีอาการเจ็บบ้าง ในทุกครั้งที่จะต้องมีการบิดหมุนของหัวเข่า และที่สำคัญ ผู้ที่มีภาวะเอ็นไขว้หน้าขาด จะก่อให้เกิดเป็นปัจจัยเสี่ยง ให้เกิดการบาดเจ็บต่อหมอนรองเข่า และกระดูกอ่อนหัวเข่า ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะข้อเข่าเสื่อม ก่อนวัยอันควรได้ การรักษาด้วยการผ่าตัด ก็จะเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องใช้เข่าในการทำกิจกรรมหนัก ๆ ส่วนการรักษาโดยการผ่าตัด ก็จะเหมะสำหรับผู้ป่วยอายุน้อย และต้องการที่จะกลับ ไปใช้ชีวิตประจำวัน และเล่นกีฬาได้เหมือนเดิม
เอ็นไขว้หน้าฉีกขาด ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเย็บให้ติดกันใหม่ได้ จึงต้องสร้างเอ็นใหม่ โดยแพทย์จะใช้เส้นเอ็นจากบริเวณอื่นที่ใช้งานน้อย มาปลูกถ่ายแทนเส้นเอ็นที่ขาดไป ซึ่งเป็นโครงสร้างใหม่ให้เซลล์ได้ยึดเกาะ เพื่อจะเติบโตเป็นเอ็นไขว้หน้าต่อไป
ปัจจุบัน การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า จะใช้วิธีการส่องกล้องผ่าตัดสร้างเอ็นไขว้หน้า (Arthroscopic ACL reconstruction) และใช้เส้นเอ็นจากตำแหน่งอื่นมาทำเอ็นไขว้หน้าใหม่ โดยเอ็นที่นิยมได้แก่ เอ็นลูกสะบ้า เอ็นหลังหัวเข่า เอ็นเหนือหัวเข่า เป็นต้น
การผ่าตัดรักษาเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า สามารถทำได้ 3 วิธีด้วยกัน คือ
- Single-bundle ACL reconstruction แพทย์มักเลือกใช้วิธีนี้ ในบริเวณที่ไม่จำเป็นต้องมีการหมุน หรือเมื่อสภาพร่างกายผู้ป่วยมีข้อจำกัด เช่น ผ่านการผ่าตัดซ้ำสอง หลังจากที่การผ่าตัดเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าครั้งแรกไม่ประสบผลสำเร็จ
- Double-bundle ACL reconstruction วิธีนี้เป็นมาตรฐานใหม่ของการรักษา มีหลักฐานสนับสนุนจากงานวิจัยที่แสดงว่า สามารถทำให้ส่วนที่ต้องหมุน มีความแข็งแรงขึ้นมากกว่าวิธี single-bundle
- Selective bundle reconstruction ในกรณีที่มีหลายส่วนได้รับบาดเจ็บ ไม่จำเป็นจะต้องนำเอาเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าออกทั้งหมด แต่จะเป็นเพียงส่วนที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการรักษาเส้นใยธรรมชาติเอาไว้ จะมีส่วนช่วยรักษาตำแหน่งของหน้าแข็ง และการทำงานของกล้ามเนื้อให้สัมพันธ์กับกระดูกขา
ก่อนการเข้ารับการผ่าตัดจะต้องเลิกสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากจะทำให้เส้นเอ็นหลวม ติดช้า หรือไม่ติดเลยก็ได้ ภายหลังจากการผ่าตัด จะต้องมีการทำกายภาพบำบัดด้วยตนเอง อย่างต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงกิจกรรม ที่ต้องมีการบิดหมุนหัวเข่าแบบรุนแรง ไปจนกว่าแพทย์ผู้ผ่าตัดจะอนุญาต
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การรักษาหลังการผ่าตัด ส่วนใหญ่จะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 6-9 เดือน ในช่วงหลังการผ่าตัดระยะแรก ๆ อาจจะมีอาการบวกที่หัวเข่า และหน้าแข้งได้ หรืออาจจะมีเลือดออกจากข้อต่อ ที่ได้ผ่านการผ่าตัดมา ถ้ามีอาการแบบนี้ แนะนำว่า ให้รีบไปพบแพทย์โดยทันที และช่วงนี้ก็ยังไม่เหมาะสำหรับการเล่นกีฬา แต่ก็สามารถที่จะทำงานได้ตามปกติได้ ตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด แต่ถ้าลักษณะงานของคุณต้องออกกำลัง ใช้กำลัง มากกว่างานในออฟฟิศ อาจจะต้องลาพักงานยาวถึง 2-3 เดือน เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี อาการต่าง ๆ ก็เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
โดยปกติหลังการผ่าตัด ให้ปฏิบัติตัวดังนี้
- 1 เดือน ให้ใช้ไม้เท้าและสนับเข่า
- 1.5 เดือน หยุดใช้ไม้เท้าและสนับเข่า
- 3 เดือน เริ่มเดินเร็วได้
- 6-9 เดือน ต้องหมั่นทำกายภาพบำบัด ให้เหมาะสมกับกีฬาแต่ละประเภท
- ประมาณ 1 ปี หลังการผ่าตัด จึงจะสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
สิ่งสำคัญมากที่สุดหลังการพักฟื้น ก็จะเป็นในส่วนของการทำกายภาพบำบัด ซึ่งจะสามารถทำได้ทันที หลังการผ่าตัดในวันถัดไป หลังจากระยะเวลาผ่านไปประมาณ 4-6 เดือน คุณสามารถที่จะออกกำลังกายเบา ๆ ได้ และต้องหมั่นไปตามนัดของแพทย์ เพื่อทำการติดตามอาการ และประเมินผลการผ่าตัด
- ไปพบแพทย์ตามที่มีการนัดหมายทุกครั้ง และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- อาจจะต้องมีคนอยู่ใกล้ชิดกับคุณในระยะที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพื่อลดการกระแทก
- เวลานอนให้วางเข่าไว้เหนือข้อเท้า โดยใช้หมอนรองไว้ก็ได้
- เลือกกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ ก็จะทำให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- สามารถใช้น้ำแข็งเพื่อประคบเย็น ลดอาการบวมได้เป็นอย่างดี
- พยายามใช้ไม้ค้ำหรือยันเพื่อช่วยประคองเวลาเดิน จนกว่าจะหายเป็นปกติ
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ เนื่องจากจะทำให้บาดแผลเปียกชื้น แผลอาจติดเชื้อได้
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือยกของหนัก ๆ ในช่วงนี้
- สามารถที่จะเริ่มทำกายภาพบำบัดได้ หลังจากตัดไหมที่แผลออกแล้ว แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแล และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยรักษาผู้ป่วยที่ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก เกี่ยวกับการศัลยกรรมกระดูก จากผลสำรวจพบว่ามีอัตราความสำเร็จมากถึง 85-90% เลยทีเดียว หลังจากการผ่าตัดผ่านไป ผู้ป่วยก็สามารถที่จะกลับมาใช้ชีวิต ได้ตามปกติ สามารถที่จะกลับไปเล่นกีฬา อย่างฟุตบอลได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการผ่าตัดจะต้องใช้เวลานาน ก็อาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียง หรืออาการแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น
- ความเสี่ยงจากการได้รับยาสลบ
- อาการขาชาหรืออ่อนแรง จากการอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน
- เลือดออกระหว่างผ่าตัดและหลังผ่าตัด
- อันตรายที่อาจเกิดกับอวัยวะใกล้เคียงระหว่างผ่าตัด เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และข้อเข่า
- การติดเชื้อที่กระดูกหรือข้อ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทันทีหรือในภายหลัง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต
หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต
การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต
ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
อื่น ๆ
ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน