สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การรักษามะเร็งช่องปาก ใน เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
โรคมะเร็งช่องปาก คือ เป็นโรคที่มีความผิดปกติ ของเนื้อเยื่อที่เจริญเติบโตไปเรื่อย ๆ และกระจายไปทำลายเนื้อปกติบริเวณรอบ ๆ เป็นโรคที่เกิดขึ้นที่บริเวณ ลิ้น ริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม เนื้อพื้นปาก เพดานปาก เป็นต้น เป็นโรคที่ต้องได้รับการตรวจรักษา เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันทวงที อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
1. พบมีก้อนเนื้อ มีก้อนโต หรือมีแผล บริเวณ เหงือก ริมฝึปาก หรือบริเวณอื่น ๆ ในช่องปาก
2. มีความเจ็บปวด หรือ ชา โดยไม่ทราบสาเหตุที่บริเวณใบหน้า ปาก และคอ
3. มีอาการ พูด เคี้ยว หรือ กลืนลำบาก หรือ เหมือนมีก้อนติดอยู่ในลำคอ
4. พบรอยโรคสีแดง สีขาว หรือสีแดงปนขาวในปาก
5. มีเลือดออกผิดปกติ ที่หาสาเหตุไม่ได้
6. น้ำหนักลด
7. มีแผลในช่องปากคล้ายร้อนใน แต่อาการกลับไม่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การรักษาโรคมะเร็งช่องปาก เหมือนการรักษามะเร็งชนิดอื่น ๆ ทั่วไป คือ การผ่าตัด การรักษาด้วยการฉายแสง การทำเคมีบำบัด และการรักษาด้วยยา ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็งและสุขภาพโดยรวมของคนไข้ หากแพทย์ให้คุณรับการรักษาด้วยการผ่าตัด การผ่าตัดนั้นคุณจะได้รับยาชาทั่วไป และแพทย์จะผ่าตัดเอามะเร็งออก แล้วคุณจะได้รักษาต่อด้วยการฉายรังสี เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง หรือคุณอาจได้รับเคมีบำบัด ที่ใช้สารเคมี เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง หรือแพทย์อาจแนะนำการรักษาด้วยการใช้ยา หรืออาจใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด เพื่อต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
การรักษาโรคมะเร็งช่องปาก นั้นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น เป็นเวลานาน ซึ่งต้องพักฟื้นประมาณ 4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม คุณสามารถกลับไปทำงานได้ภายใน 6 ถึง 8 สัปดาห์
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ภายหลังการผ่าตัด คุณอาจต้องใช้หลอดเพื่อช่วยในการกินให้อาหารลงไปในท้องของคุณ การฟื้นฟูร่างกายนั้นควบคุมไปถึง การจัดการความเครียด การพักผ่อน การออกกำลังกาย และผู้ป่วยอาจได้รับการทำอรรถบำบัด เพื่อแก้ไข้การพูดภายหลังการผ่าตัด นอกจากนี้ คุณยังต้องพบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อติดตามอาการรักษาเรื่อย ๆ
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
อัตราความสำเร็จ ของการรักษาโรคมะเร็งในช่องปาก นั้นขึ้นอยู่กับว่า ผู้ป่วยได้รับการรักษา เร็วแค่ไหน สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับ การรักษาตั้งแต่ เนิ่น ๆ จะมีอัตราการรอดชีวิตมากกว่า 83% การผ่าตัด มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การติดเชื้อ การตกเลือด การบำบัดด้วยอรรถบำบัด ยังมีผลข้างเคียง เช่น แผลในปาก กรามแข็ง ไม่อยากอาหาร ไร้การรับรู้รสชาติ ผมร่วง ท้องเสีย และปวดศีรษะ เป็นต้น