สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การเชื่อมเยื่อหุ้มปอด ใน บางแค, กรุงเทพมหานคร
Pleurodesis เป็นขั้นตอนการรักษา โดยการยึดปอด กับผนังหน้าอก ให้เข้ากัน ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่ปิดช่องว่างระหว่าง เยื่อบุด้านนอกของปอด กับผนังหน้าอก เพื่อป้องกัน ไม่ให้อากาศ และของเหลวต่าง ๆ สร้างขึ้นรอบ ๆ ปอดนั่นเอง
โดยการเชื่อมเยื่อหุ้มปอดนั้น จะรักษากับผู้ป่วย ที่มีปัญเกี่ยวกับ เยื่อหุ้มปอดไหล (เกิดการสะสมของเหลว รอบ ๆ ปอด มากเกินไป) หรือภาวะโพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ ซึ่งจะมีอาการปอดแฟบ เป็นต้น
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการเชื่อมเยื่อหุ้มปอด แบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ การผ่าตัด และการใช้สารเคมีเพื่อการรักษา ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ แพทย์จะเริ่มการรักษา โดยการฉีดยาชา หรือให้ยาระงับประสาท เพื่อช่วยให้ผู้ป่วย รู้สึกผ่อนคลาย และไม่มีอาการเจ็บ ในระหว่างการรักษานั่นเอง
การรักษาด้วยการผ่าตัด (Surgical Pleurodesis) แพทย์จะทำการเปิดแผล ที่ผนังหน้าอก และสอดหลอดพลาสติก เข้าไปในช่องอก จากนั้นแพทย์จะพ่น สารเคมีรอบ ๆ ปอดของผู้ป่วย ซึ่งจะทำให้เยื่อหุ้มปอด ติดแน่นกับผนังหน้าอก และป้องกันไม่ให้ของเหลว สะสมรอบ ๆ ปอดของผู้ป่วยได้ เมื่อเชื่อมเยื่อหุ้มปอดเสร็จแล้ว แพทย์จะทำการ เย็บปิดแผลทันที
สำหรับการรักษาโดยใช้สารเคมี (Chemical Pleurodesis) แพทย์จะฉีดสารเคมีเหล่านั้น เข้าไปในหน้าอกนั่นเอง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา การเชื่อมเยื่อหุ้มปอด จะใช้เวลาในการพักฟื้น เป็นเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ และสามารถกลับไปทำงาน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยบางราย อาจใช้เวลาพักฟื้น นานกว่าปกติ เนื่องจากขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการพักฟื้นนั้น ผู้ป่วยควรพักผ่อนให้เพียงพอ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ในระหว่างการพักฟื้น แพทย์จะให้คำแนะนำต่าง ๆ ด้านอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลแผล ซึ่งผู้ป่วยต้องปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำ และแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ
- ควรงดกิจกรรมทางน้ำ หรือกีฬาว่ายน้ำ จนกว่าแผลจะหายสนิท
- หลีกเลี่ยงการกลั้นหายใจ เนื่องจากอาจทำให้ มีอาการปวดหน้าอกได้
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
จากการสำรวจพบว่า อัตราความสำเร็จ ของการเชื่อมเยื่อหุ้มปอด กับผู้ป่วยที่มีภาวะปอดไหล โดยไม่มีโรคมะเร็งแทรกซ้อนนั้น อัตราประสบความสำเร็จ ในการรักษาอยู่ที่ 75-80% เลยทีเดียว แต่อาจมีผลข้างเคียง และความเสี่ยงอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งผู้ป่วยเอง ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยอาการดังกล่าวนั้น ได้แก่ เป็นไข้ หายใจถี่จนเกินไป อาการปวดแผล หนองในช่องเยื่อหุ้มปอด และอาการติดเชื้อ เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที