Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การบำบัดด้วยความเย็น

APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
Mordee ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร
4.31 จาก 5
16 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ฟื้นฟูสภาพผม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จอดรถ
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - พารากอน ชั้น 2 ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าพารากอนซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS ภายในร้านได้ถูกออกแบบให้มีความโล่ง โปร่ง มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง มีพื้นที่รับรองด้านหน้าไว้สำหรับลูกค้านั่งพักผ่อนเพื่อรอพบแพทย์ แพทย... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การบำบัดด้วยความเย็น
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การบำบัดด้วยความเย็น ใน ไทย

การบำบัดด้วยความเย็น หรือ Cryotherapy เป็น การบำบัดรักษาร่างกาย ให้สัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวจัดเป็นเวลาหลายนาทีด้วยความเย็นจัดจากไนโตรเจนเหลว ซึ่งเป็นวิธีการทางกายภาพบำบัด ที่นำมาใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อภายในร่างกาย ทั้งในระยะเฉียบพลัน และระยะเรื้อรัง ด้วยการใช้ความเย็นมาทำให้หลอดเลือดหดตัว และลดการซึมผ่านที่ผนังหลอดเลือดฝอย ช่วยลดการบวม หรือเสียเลือดจากการที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ มีการไหลเวียนของเลือดลดลง นอกจากนี้ ความเย็นยังช่วยลดความเร็วของการนำกระแสประสาท ลดปวดเฉพาะที่ได้ชั่วคราว และเพิ่มระดับกั้นความเจ็บปวดได้อีกด้วย

Cryotherapy สามารถรักษาตรงจุดเดียว หรือทั้งตัวก็ได้ มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น 

1. Cold pack ถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นเจลสำเร็จรูป ใช้เพื่อประคบบริเวณหรือต้องการรักษา ช่วยลดอาการปวดและอักเสบ

2. Ice massage เป็นการนำน้ำแข็งมาถูนวดผิวบริเวณที่ต้องการรักษา

3. Vapocoolant spray เป็นการฉีดสเปรย์ที่มีสารให้ความเย็น เช่น Fluoromethane หรือ Ethyl Chloride ฉีดไปที่บริเวณผิวหนัง เพื่อช่วยในการลดอุณหภูมิของผิวในบริเวณนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดอาการปวด ที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยรักษาการบาดเจ็บจากกีฬาระยะเฉียบพลันได้

4. Cryotherapy ห้องที่สามารถส่งไอเย็นได้ 3 ระดับ คือ -10, -60 และ -110 ° C โดยผู้เข้ารับการบำบัดจะต้องเดินผ่านห้องแรกและห้องที่สอง เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย และอยู่ในห้องที่ 3 (-110° C) เป็นเวลา 3 นาที ภายใต้การดูแลของผู้ชำนาญการด้านการบำบัดด้วยความเย็น

ผลข้างเคียงในการทำ Cryotherapy ที่พบบ่อยที่สุดคือ การรู้สึกเสียวซ่า อาการชา อาการแดง และการระคายเคืองต่อผิวหนัง และจะหายไปภายในระยะเวลา 1 วัน และไม่ควรทำ cryotherapy เป็นเวลานานกว่าที่แนะนำ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเคยผ่าตัดใส่โลหะเข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะใด ๆ ที่ส่งผลต่อเส้นประสาทของตนเอง ก็ไม่ควรใช้ cryotherapy ห้องส่งไอเย็น เช่นเดียวกัน

สำหรับ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 คืน เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม และ ควรงดเว้นการทาเครื่องสำอางในวันที่เข้ารับการทำทรีทเมนต์

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

Cryotherapy คือ การแช่ร่างกายในอากาศหนาวเย็นเป็นเวลาหลายนาทีในห้องที่ปิดล้อม หรือตู้แชมเบอร์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยที่อุณหภูมิในตู้จะลดลงระหว่างลบ 10 - 110 ° C ในระยะเวลา 2 - 4 นาที

หากได้รับการรักษาด้วยความเย็น ให้สวมเสื้อผ้าแห้งสนิท และหลวม ๆ ให้นำถุงเท้าและถุงมือมาด้วย เพื่อป้องกันอาการบวมเป็นน้ำเหลือง ในระหว่างการรักษาให้เคลื่อนไปรอบ ๆ เพื่อให้เลือดไหล รวมถึงการไม่รับประทานอาหารหรือดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง

ประโยชน์ หรือ ข้อดีของ cryotherapy

1. ลดอาการไมเกรน การรักษาด้วยความเย็น สามารถช่วยรักษาไมเกรนได้ เพราะเป็นการระบายความร้อนของระบบประสาทตรงบริเวณคอ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า หากเราประคบน้ำแข็งที่คอ จะทำให้หลอดเลือดตรงคอเกิดการหดตัว ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้

2. Cryotherapy ลดการระคายเคืองของกล้ามเนื้อ เป็นการใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เพิ่งเกิดขึ้นประมาณ 24 - 48 ชั่วโมง หลังจากได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีมาเนิ่นนาน นิยมในกลุ่มของนักกีฬา ความหนาวเย็น จะสามารถช่วยรักษาอาการปวดเรื้อรัง หรืออาการบาดเจ็บเฉียบพลันได้ เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ ลดอาการบวมอักเสบของเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อยึด อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และ บาดแผลไฟไหม้ เป็นต้น

3. ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ อุณหภูมิที่เย็นจัดทั่วทั้งร่างกาย อาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมน ช่วยในการหลั่งอะดรีนาลีน และ เอนโดรฟิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อผู้ที่ประสบปัญหาความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความวิตกกังวล หรือ ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น การทำ cryotherapy ทั้งร่างกาย มีประสิทธิภาพในการรักษาระยะสั้น สำหรับทั้งความคิดวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

4. ลดอาการปวดข้ออักเสบ เมื่อทำ cryotherapy ทั้งร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการปวดในผู้ที่มีโรคข้ออักเสบ ฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. cryotherapy อาจช่วยรักษาเนื้องอกที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยการแช่แข็งเซลล์มะเร็งและล้อมรอบไว้ด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ปัจจุบันมีการใช้เพื่อรักษาเนื้องอกที่มีความเสี่ยงต่ำ และมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

6. cryotherapy อาจช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้ เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพราะผลต้านการออกซิเดชั่นและต้านการอักเสบ สามารถช่วยต่อต้านการตอบสนองต่อความเครียดและการเกิดออกซิเดชันที่เกิดขึ้นกับโรคอัลไซเมอร์

7. ช่วยรักษาโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ผิวแห้งและคัน และสภาพผิวอื่น ๆ cryotherapy สามารถช่วยปรับปรุงระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด และสามารถลดการอักเสบได้ในเวลาเดียวกัน

ประโยชน์ของ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า

1. ช่วยลดการอักเสบของผิว ความเย็นทำให้ผิวบริเวณที่อักเสบทุเลาลง ลดการระคายเคือง และอาการคันได้ดี

2. ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้ ทำให้ผิวเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้นได้อีกด้วย

3. ลดความบวม นิยมใช้หลังการทำหัตถการต่าง ๆ

4. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี มีออกซิเจนมาเลี้ยงผิวได้มากขึ้น เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังช่วย ดีท็อกซ์ผิว ไปด้วยพร้อม ๆ กัน ผิวพรรณจึงดูสว่างใส และเปล่งปลั่ง

5. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี

6. ฟื้นฟูบาดแผลผ่าตัด ให้ฟื้นตัวไวขึ้นหลังการทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมตาสองชั้น หรือ เสริมจมูก เป็นต้น

7. ความเย็นช่วยส่งผ่านสารอาหารที่มีประโยชน์ตรงเข้าสู่ผิวได้ ใช้ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวไปได้อย่างล้ำลึก

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ไม่ต้องพักฟื้น สำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บจากกีฬา ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

สำหรับ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า

1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

2. ดูแลรักษาความสะอาดของใบหน้า เพื่อป้องกันการเกิดสิว

สำหรับ Cryotherapy บำบัดร่างกาย ไม่ต้องดูแลอะไร ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ เป็นประจำ

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

เมื่อทำได้ประมาณ 3 นาที จะรู้สึกสดชื่น และอาการปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะหายไปตั้งแต่ครั้งแรก ส่วนอาการปวดที่หนักหนาอย่างอาการเรื้อรัง จะยังไม่เห็นผลในทันที แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 วัน จะพบว่าอาการปวดที่หนักจะเบาขึ้น สบายตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรักษาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น