Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ปลูกผม ใน ไทย

การปลูกผม เป็นการย้ายผมที่แข็งแรงจากแนวผมบริเวณท้ายทอยหรือส่วนอื่น แล้วปลูกเข้าไปยังบริเวณที่มีศรีษะล้าน ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาจะเจ็บตัวน้อย โดยการใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนทำการรักษา เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะศรีษะล้านแบบผู้ชายโดยทั่วไป

และยังสามารถใช้เทคนิคนี้ในการปลูกคิ้ว ปลูกขนตา ปลูกหนวด เพื่อปกปิดแผลเป็นได้ด้วย การปลูกผมแต่ละครั้งแพทย์อาจจะใช้เวลาประมาณ 4-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณในการปลูก

ผมร่วงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุซึ่งโดยส่วนใหญ่จากกรรมพันธุ์ และเมื่ออายุมากขึ้นก็เป็นปัจจัยหลักอันดับหนึ่งของปัญหาศรีษะล้านจากกรรมพันธุ์

วิธีการ ปลูกผมมี 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ

  1. การปลูกผม แบบถาวร ไม่ต้องผ่าตัด เป็นวิธีการ ที่นำเอา ผมจากบริเวณ หนังศีรษะ ของผู้ที่ ต้องการปลูกผม มาฝังลงบน หนังศีรษะ ซึ่งวิธีนี้ จะแบ่งออก เป็นอีก 2 ประเภทย่อย ๆ ได้แก่ การปลูกโดยใช้ รากผม จำนวนมาก ประมาณ 4-10 รากผม ต่อหลุมผม ในแต่ละหลุม และการปลูก โดยใช้รากผม จำนวนน้อย ประมาณ 1-2 รากผมต่อหลุมผม ในแต่ละหลุม เนื่องจากเป็น วิธีที่ ได้ผลดี อีกทั้งยัง ไม่ทำให้ มีแผลเป็น จากการปลูกผม อีกด้วย
  2. การปลูกผม แบบตัด หนังศีรษะ เป็นวิธีการ ผ่าตัดนำ หนังศีรษะ ในบริเวณ ที่มีผม มาเย็บติดกับ หนังศีรษะ บริเวณ ที่ไม่มีผม ซึ่งจะเป็น บริเวณท้ายทอย ของศีรษะ ที่ได้ทำ การผ่าตัด เอาหนังศีรษะ ออกมา จะถูกเย็บ ปิดแผล และกลายเป็น แผลเป็น

ข้อห้าม ในการ ปลูกผม

  1. คนที่มี จำนวนผม ที่จะใช้ ในการปลูก ไม่พอต่อ การปลูกผม
  2. คนที่มี ศีรษะล้าน อันมีสาเหตุ มาจากการ รักษา ทางการแพทย์ เช่น เคมีบำบัด
  3. ในผู้หญิง ที่มีการล้าน ของศีรษะ ที่มี บริเวณกว้าง หรือศีรษะล้าน แบบกระจัด กระจาย
  4. คนที่เป็นแผลเป็น ได้ง่าย หรือคีลอยด์ เมื่อผ่าตัด หรือได้รับ บาดเจ็บ

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

เส้นผมของเราจะร่วง 100 เส้นโดยประมาณต่อวัน และจะมีผมใหม่งอกขึ้นมาแทนที่ ผมร่วงอาจมีการเกิดขึ้นในทันทีหรือค่อยๆกับหนังศรีษะหรือส่วนอื่นของร่างกาย ขึ้นอยู่กับหลายสาเหตุ ดังนี้

- ภาวะเครียด หลายๆคนอาจเคยเจอปัญหาผมบางจากความผิดปกติของร่างกายหรือภาวะเครียดเฉียบพลัน แต่ก็เป็นเพียงสาเหตุชั่วคราวเท่านั้น

- การทำผมหรือทรีทเม้นท์ การมัดผมที่แน่นเกินไปทำให้เกิดผมร่วงจากการดึงรั้ง การใช้เคมี ความร้อน และทรีทเม้นท์ต่างๆ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมร่วง เพราะรูขุมขนอาจเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดแผล และผมร่วงถาวรได้

- การได้รับรังสี เช่น การใช้ยาเคมีบำบัดสำหรับโรคมะเร็ง

- โรคประจำตัวและปัญหาฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน หรือโรคไทรอยด์ สามารถทำให้ผมร่วงได้ทั้งดดยชั่วคราวและถาวร ซึ่งทำให้เกิดอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ หรือติดเชื้อที่บริเวณหนังศรีษะ

ผมร่วงโดยเฉียบพลันอาจเป็นสัญญาณของโรคประจำตัวที่ควรเข้ารับการรักษา โดยการปรึกษาแพทย์หากพบการผมร่วงที่ผิดปกติขณะที่ทำการสระผมหรือผมร่วงโดยเฉียบพลัน

หลังจาก รู้สาเหตุแล้ว และทั้งผู้ป่วย และแพทย์ ตกลงกันแล้ว ว่าจะใช้ การปลูกผม เพื่อการรักษา ศัลยแพทย์ จะให้คำ แนะนำต่าง ๆ และอธิบาย ขั้นตอน ในการเตรียมตัว เพื่อเข้ารับ การปลูกผม ผู้เข้ารับ การปลูกผม จึงต้องทำ ตามอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยง การเกิดปัญหา ในระหว่าง การปลูกผม และเพื่อ ป้องกัน ภาวะแทรกซ้อน ที่อาจ พบภายหลัง

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ควรวางแผนการ เดินทางไป-กลับ ในวันที่ ทำการปลูกผมด้วย และควรมี คนขับรถ หรือเพื่อนมาด้วย เพราะผู้ป่วย ไม่ควรขับรถเอง และยังควร ลางาน ประมาณ 1 อาทิตย์

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

การดูแล หลังปลูกผม

หลังจาก การปลูกผม อาจมี อาการบวม อย่างมาก ที่บริเวณ หนังศีรษะ ซึ่งอาจต้อง ใช้ยาแก้ปวด เพื่อบรรเทา อาการจนกว่า จะทุเลาลง ศัลยแพทย์ จะให้ผู้ป่วย ปิดผ้าพันแผล ที่บริเวณ หนังศีรษะ อย่างน้อย 1-3 วัน และยังอาจมีการสั่ง ให้ใช้ ยา ยาปฏิชีวนะ หรือยาต้าน อักเสบต่อเนื่องหลายวัน หลังจาก ปลูกผมเสร็จแล้ว จะสามารถ กลับไปทำงาน ได้ภายใน 2-5 วัน

เมื่อผ่านไป ประมาณ 2-3 อาทิตย์ หลังการ ปลูกผม ผมจะเริ่มร่วง ซึ่งไม่ใข่ ความผิดปกติ แต่อย่างใด เพราะจะมี ผมเส้นใหม่ เริ่มขึ้นมา ภายในเวลา ไม่กี่เดือน โดยเฉลี่ย 60 เปอร์เซ็น ของผู้ป่วย ที่เข้ารับ การปลูกผม จะใช้เวลา ขึ้นประมาณ 6-9 เดือน ซึ่งศัลยแพทย์ บางท่าน อาจให้ยาเร่งผมยาว เพื่อช่วยให้ ผมงอกเร็วขึ้น

ภาวะ แทรกซ้อน จากการปลูกผม

  1. หนังศีรษะบวม
  2. รู้สึกชา หรือไม่มี ความรู้สึก บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำการ ปลูกผม
  3. เลือดออกมาก ผิดปกติ
  4. เกิดการติดเชื้อ บนหนังศีรษะ
  5. มีรอยช้ำ บริเวณ รอบดวงตา
  6. มีแผลตกสะเก็ด หรือน้ำเหลือง ที่บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำ การปลูกผม หรือบริเวณ ที่ผมถูกย้าย ไปปลูกที่อื่น
  7. มีอาการคัน
  8. แผลเป็นบน หนังศีรษะ จากการปลูกผม
  9. เกิดการติดเชื้อ หรืออาการ อักเสบ
  10. เกิดอาการ ผมร่วง ที่เกิดขึ้น ได้ชั่วคราว เพราะหลังจากนั้น ผมจะเริ่มขึ้น ใหม่อีกครั้ง แต่หากเวลา ผ่านไปแล้ว ยังไม่มี ผมขึ้น มีอาการ ติดเชื้อ เกิดรุนแรง หรือมี อาการอักเสบ ควรจะรีบ กลับไป พบแพทย์

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การปลูกผมมีอัตราความสำเร็จของการงอกใหม่ของเส้นผมสูงถึง 98% ซึงถือว่าเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

แผลเป็นบน หนังศีรษะ จากการปลูกผม ถือเป็นผลข้างเคียงจาก FUT เท่านั้น ผลข้างเคียงอื่นๆก็อาจเป็นเช่น หนังศีรษะบวม รู้สึกชา หรือไม่มี ความรู้สึก บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำการ ปลูกผมเลือดออกมาก ผิดปกติ เกิดการติดเชื้อ บนหนังศีรษะ มีรอยช้ำ บริเวณ รอบดวงตา มีแผลตกสะเก็ด หรือ น้ำเหลืองที่บริเวณ หนังศีรษะ ที่ทำ การปลูกผม หรือบริเวณ ที่ผมถูกย้าย ไปปลูกที่อื่น มีอาการคัน เกิดการติดเชื้อ หรืออาการ อักเสบ เกิดอาการ ผมร่วง ที่เกิดขึ้น ได้ชั่วคราว เพราะหลังจากนั้น ผมจะเริ่มขึ้น ใหม่อีกครั้ง แต่หากเวลา ผ่านไปแล้ว ยังไม่มี ผมขึ้น มีอาการ ติดเชื้อ เกิดรุนแรง หรือมี อาการอักเสบ ควรจะรีบ กลับไป พบแพทย์

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น