Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ยาเฉพาะสลายไขมันส่วนเกิน (Meso Fat)

คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา
คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา
คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา
คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา
คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
4.5 จาก 5
14 รีวิว
2024 เสริมความงาม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง
คลินิกเด็กและความงามหมอพิมพิกา โดยพ.ญ. พิมพิกา ตันติธรรมวงศ์ หรือหมอแอม กุมารแพทย์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีประสบการณ์มากกว่า 5 ปี ที่นี่เป็นทั้งคลินิกเด็ก ความงาม และการฝังเข็มแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต ภายในพื้นที่กว้างขวาง สะอาดสะอ้าน การเลือกใช้ยาและเครื่องมือต่าง ๆ ได้มาตรฐาน... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ยาเฉพาะสลายไขมันส่วนเกิน (Meso Fat)
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ยาเฉพาะสลายไขมันส่วนเกิน (Meso Fat) ใน ภูเก็ต

Meso Fat คืออะไร ?

การฉีด Meso Fat นั้นคือการนำตัวยาเฉพาะ ซึ่งมีฤทธิ์ในการสลายไขมันมาฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง ในบริเวณที่มีไขมันอยู่มากและเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยาก เช่น แก้ม ต้นแขน ต้นขา สะโพก เหนียง โดยเป็นวิธีที่สามารถได้ผลมากยิ่งขึ้นเมื่อทำร่วมกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกาย หรือการใช้ตัวยาตัวอื่น เช่น การใช้โบท็อก 

Meso Fat แบ่งออกเป็น 4 ประเภท  

ในปัจจุบันตัวยาที่นำมาใช้ในการทำ Meso Fat สามารถแบ่งได้ 4 ประเภทหลัก ๆ คือ

  • Mesostabyl  ทำหน้าที่คอยับยั้ง และช่วยลดการเกิดไขมัน ในชั้นเนื้อเยื่อ

  • L-carnitine ทำหน้าที่ช่วยสลายไขมันในจุดต่าง ๆ และเผาผลาญไขมัน มาใช้เป็นพลังงาน

  • Tyrosine  ทำหน้าที่เร่งระบบเผาผลาญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น ตัวยา Theophylline 

  • Artichoke extract ซึ่งสามารถลดการสร้างกรดไขมันและระดับไขมัน ซึ่งสารตัวนี้สามารถลดไขมันเฉพาะจุดได้ และเป็นที่นิยมในการนำมาใช้ในการทำเมโสแฟต 

และนอกจากตัวยา 4 ประเภทนี้ ก็ยังมีตัวยาอื่น ๆ ที่สกัดมาจากธรรมชาติและมีประโยชน์ เช่น Daxpanthenol ที่สกัดมาจากไข่แดงและถั่วเหลือง ที่ในบางคลินิกนิยมนำยาใช้ เพราะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน รวมไปถึงตัวยาสามารถสลายออกไปได้เองหลังฉีด

ข้อดีของการใช้ Meso fat 

  • สามารถลดไขมันได้แบบเฉพาะจุด และเห็นผลได้ไว

  • ไม่ทิ้งรอยแผลหลังทำหัตถการ และไม่จำเป็นต้องพักฟื้น 

  • ไม่มีสารตกค้างภายใน และสะดวกในการประหยัดเวลา

  • ช่วยในการขจัดไขมันส่วนเกิน ในบริเวณที่ทำการฉีดเมโสแฟต 

  • ราคาไม่แพง และหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็จะมีความปลอดภัยสูง  

ข้อเสียของการใช้ Meso fat

  • อาจเกิดรอยแดง หรือมีอาการบวมบริเวณจุดที่ฉีดเป็นเวลา 1 ถึง 2 วันหลังจากที่ฉีดแล้ว

  • หากพบว่าตนเองมีโอกาสที่จะแพ้สารในยาที่ใช้ ควรขอคำปรึกษากับแพทย์ให้ดี รวมถึงตรวจคลินิกนั้น ๆ เพื่อความปลอดภัย 

  • ไม่สามารถกำจัดไขมันที่มีจำนวนมากเกินไปได้ เนื่องจากการฉีดเมโสแฟต 1 ครั้งจะสามารถกำจัดไขมันได้เพียง 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 

  • ตัวยา Meso fat บางตัวก็ยังไม่ได้รับ อย. ดังนั้นไม่ควรจะทำการสั่งมาทำเองจากอินเทอร์เน็ต และควรศึกษาให้ดีก่อนที่จะใช้

ยาต้องห้ามที่ไม่ควรจะนำมาใช้ในการทำ Meso fat เป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มยาบางประเภทก็สามารถใช้รถไขมันได้เช่นกัน แต่ก็มีความอันตรายและควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยหากรู้ว่าคลินิก หรือสถานพยาบาลที่กำลังจะเข้ารับบริการมีการใช้สาร 2 ชนิด ที่กำลังจะกล่าวถึงควรหลีกเลี่ยง และห้ามใช้บริการโดยทันที โดยยาดังกล่าวคือ

  • สเตียรอยด์ (Steroid)

สารสเตียรอยด์ (Steroid) นั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นยาที่สามารถส่งผลข้างเคียง ในระดับที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว โดยหากนำสเตียรอยด์มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในส่วนผสมของเมโสแฟต อาจจะทำให้หน้าบวมกว่าเดิม และกดภูมิคุ้มกันอีกด้วย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงควรขอดู ยี่ห้อเมโสแฟตก่อนฉีด และเช็คให้ละเอียดทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย

  • ยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase) 

ยา Hyaluronidase เป็นอีกหนึ่งตัวยาที่สามารถทำให้เนื้อยุบลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากตัวยานี้ทำให้ คอลลาเจนในผิวสลายไป แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาคือทำให้เกิดริ้วรอย และผิวหนังหย่อนยานลงก่อนวัยอันควร

ใครบ้างที่เหมาะแก่การฉีดเมโสแฟต

ก่อนอื่นผู้ที่ได้รับการฉีดเมโสแฟตนั้น ควรที่จะมีอายุ 20 ปีขึ้นไปเท่านั้น และผู้ที่เหมาะแก่การทำหัตถการประเภทนี้ ได้แก่ 

  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินในปริมาณเล็กน้อย ถึง ปานกลาง

  • ผู้ที่ไม่มีความมั่นใจในสัดส่วน และรูปร่างของตนเอง

  • ผู้ที่ไม่ต้องการลดไขมันด้วยวิธีการผ่าตัด 

  • ผู้ที่มีปัญหาในการลดน้ำหนักแม้พยายามแล้ว

ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต

กลุ่มคนที่ไม่ควรทำหัตถการประเภทนี้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ นั่นคือ

  • สตรีมีครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเกร็งและเครียด ในขณะที่เข้ารับการทำหัตถการ 

  • กลุ่มคนที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และทางเดินโลหิตทุกชนิด 

ซึ่งแม้ในปัจุบันยังไม่พบงานวิจัยหรือข้อบ่งชี้ว่าสามารถทำให้เกิดอันตรายโดยตรงได้ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการเช่นนี้ เพื่อความปลอดภัย 

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การทำ Meso fat นั้นสามารถทำรวมกับการทำหัตถการเพื่อความงานอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น การทำเมโสแฟตพร้อมกับการทำโบท็อก สามารถช่วยในการลดไขมันและกล้ามเนื้อส่วนเกินในเวลาเดียวกัน โดยจะนิยมทำให้จุดที่มีทั้งกล้ามเนื้อและไขมันในบริเวณเดียวกัน ได้แก่ กราม กรอบหน้า บริเวณน่องขา เป็นต้น

นอกเหนือจากนั้นยังมีการ ลิฟตืกรอบหน้า เพื่อให้เห็นกรอบหน้าที่ชัดเจน และการทำหัตถกรรมอีกหลาย ๆ รูปแบบ ที่สามารถเป็นไปได้ในการทำให้รูปร่าง และทรวดทรงของผู้เข้ารับการรักษา เป็นไปตามที่คาดหวังจนได้รับความพึงพอใจ

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

การฉีดแมโสแฟตมีขั้นตอนหลัก ๆ ในการปฏิบัติดังนี้ 

  • เข้ารับคำปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกิน และปัญหาผิวที่อยากยกกระชับกับแพทย์

  • เริ่มการประเมินการรักษาโดย เริ่มจากการกำหนดยี่ห้อ และปริมาณ  และอาจรวมไปถึงการจำหนดจำนวนครั้งเพื่อในการมาฉีด เพื่อให้เห็นผลในความต้องการของผู้เข้ารับบริการ 

  • เข้าสู่ขั้นตอนการฉีดโดยก่อนฉีดนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องทำความสะอาดผิวให้ หลังจากนั้นอาจจะมีการประคบเย็น หรือแปะแผ่นยาชา เพื่อเตรียมการฉีดเมโส 

  • แพทย์จะเป็นคนฉีดยาชาตามปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งโดยส่วนมากจะใช้เวลาไม่นานโดยไม่เกืน 15 นาที

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากได้รับการฉีดเมโสแฟต จะมีอาการบวมเข็มประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้นรอยจะค่อย ๆ หายไป ส่วนในบางรายอาจมีรอยช้ำซึ่งให้เวลา 1 ถึง 2 วัน โดยทั่วไปแล้วจะไม่ปรากฏอาการใดเพิ่มเติม 

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการรับเมโสแล้วมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้ 

  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่

  • งดการทำทรีทเมนต์ หรือสครับผิว เพื่ออาจจะทำให้แผลเปิดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ 

  • งดการโดนความร้อน หรือกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการบวมช้ำ

  • ออกกำลังกาย คู่กับการปรับพฤติกรรมการทานอาหาร 

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

อัตราความสำเร็จของเมโสแฟตนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เนื่องจากในคนไข้แต่ละรายล้วนแล้วแต่มีปริมาณไขมัน รวมไปถึงรูปร่างและสรีระที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงควรทำความแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เข้ารับบริการ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน