สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ออลออนเอ้ก ใน กรุงเทพมหานคร
All-on-8 เป็นเทคนิคทันตกรรม โดยฝังรากฟันเทียมจำนวน 8 ซี่ ซึ่งเป็นการฝังรากฟันเทียมที่เหมาะสำหรับคนที่สูญเสียฟันธรรมชาติไปแล้วเป็นจำนวนมากกว่า 80% ในช่องปาก เพื่อเป็นการซัพพอร์ต หรือช่วยยึดฟันปลอม และสะพานฟันให้มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ทั้งยังมีความสวยงามใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด
ผู้ที่เหมาะกับการทำรากฟันเทียมทั้งปาก All-on-8
-
คนที่มีปัญหามาจากการทำฟันปลอมชนิดอื่น ๆ และมีฟันโยกคลอนในขั้นที่จำเป็นต้องถอนออก
-
คนที่มีปัญหาสูญเสียกระดูกรองรับฟัน
-
คนที่มีปัญหาโรคเหงือก และภาวะสูญเสียฟันในขั้นรุนแรง
-
คนที่สูญเสียฟันแบบทั้งปาก รวมถึงการสูญเสียเฉพาะฟันบน หรือ ฟันล่าง
-
ใช้ฟันปลอมแล้วรู้สึกหลวม ใส่ได้ไม่พอดี ไม่กระชับ ที่อาจมีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
ผู้ที่ไม่เเนะนำให้รักษาด้วยการทำรากฟันเทียมทั้งปาก All-on-8
-
สตรีมีครรภ์ ควรทำหลังคลอดเสร็จเรียบร้อยเเล้ว
-
คนไข้ที่มีโรคประจำตัวแต่ควบคุมไม่ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็งที่ต้องรับการรักษาด้วยการฉายรังสี ที่บริเวณใบหน้าเเละช่องปาก โรคปริทันต์อักเสบรุนเเรง โรคลูคิเมีย และ โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ เป็นต้น
-
ผู้ป่วยที่มีอาการอื่น ๆ ที่การรักษาอาจจะไม่ได้ผลดี เช่น ผู้ป่วยที่ต้องรับยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ป่วยที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนเเรง เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียมทั้งปาก
-
ต้องได้รับการตรวจและประเมินโดยละเอียดจากทันตแพทย์เฉพาะทาง หรือทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษาในภายหลัง
-
ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเลือกรากเทียมที่เหมาะสมกับคนไข้ มีความเข้าใจในขั้นตอนของการทำทั้งหมด
-
ต้องแจ้งทันตแพทย์ให้ทราบ ก่อนทำการผ่าตัด ในกรณีที่ผู้เข้ารับการรักษามีโรคประจำตัว มียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ หรือมีประวัติการแพ้ยา
-
กรณีที่มีประวัติเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ หรือเปลี่ยนข้อเทียม ในบางกรณีจำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะ ดังนั้นก่อนการรักษา จึงควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบล่วงหน้า
-
วางแผนการรักษาร่วมกับทันตแพทย์ทั้งเรื่องชนิดของรากฟันเทียม หรือฟันเทียมที่เลือกใช้ในแผนการรักษา เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจะทำการตรวจสภาพช่องปากอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษา หลังจากนั้น จะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำครอบฟัน ก่อนทำการฝังรากฟันเทียมจำนวน 8 ราก ลงบนกระดูกขากรรไกรด้านบน หรือ ด้านล่าง ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อนำมายึดติดแน่นกับฟันปลอมต่อไป
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ภายหลังจากการรักษา All-on-8 ควรหลีกเลี่ยงการทำงานหนัก หรือหักโหมในช่วง 2 - 4 วันแรก และอาจใช้เวลา 6 - 8 สัปดาห์ เพื่อให้รากฟันเทียมประสานกันกับกระดูกขากรรไกร
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 2-3 วันแรก หรือพักผ่อนให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมต่างๆที่หักโหม เช่น การออกกำลังกาย การงดทานอาหารบางชนิด
- หมั่นดูแลรักษาสุขภาพอนามัยในช่องปากอยู่เสมอ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมด้วยการใช้ไหมขัดฟัน (โดยทันตแพทย์จะทำการแนะนำวิธีการใช้ไหมขัดฟันให้) และใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียทุกครั้ง
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
จากการศึกษาพบว่า มีอัตราความสำเร็จจากการฝังรากฟันเทียมอย่างมีประสิทธิภาพได้เหมือนกับการฝังรากฟันเทียมชนิดซี่เดียว สี่ซี่ หรืออื่น ๆ สูงสุดถึง 90% แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เกิดขึ้นได้ เช่น เหงือกบวม เหงือกเปลี่ยนสี อาการเลือดออกไม่หยุด ปากแห้ง เจ็บคอ เหน็บ ชา และรากเทียมไม่ประสานกับกระดูก เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง