สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ผ่าตัดถุงน้ำดี ใน วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
ถุงน้ำดี (Gallbladder) เป็นอวัยวะเล็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงท้อง มีรูปร่างคล้ายลูกแพร์ ทำหน้าที่ในการเก็บสะสมน้ำดี เพื่อช่วยย่อยอาหาร อยู่ติดกับตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ในการผลิตน้ำดี สำหรับโรคที่จะเกิดกับถุงน้ำดี ก็มีมากมายหลายโรค โดยที่อันตรายมากก็จะเป็น โรคนิ่วในถุงน้ำดี (Cholecystectomy) ซึ่งโรคนี้ เกิดจากภาวะไม่สมดุล ของสารประกอบในน้ำดี ก่อให้เกิดนิ่ว และจะมีอาการ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ถ้าหากนิ่วไปอุดท่อถุงน้ำดี ก็จะทำให้เกิดอาหารเจ็บปวด เป็นอย่างมาก ที่สำคัญถ้านิ่วไปอุดท่อน้ำดีใหญ่ ก็จะทำให้ผู้ป่วย มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง แต่สำหรับบางราย ตรวจพบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดี แต่ไม่แสดงอาการได้เช่นกัน
นิ่วในถุงน้ำดี ไม่สามารถรักษา แบบใช้เครื่องสลายนิ่วได้ บางรายแพทย์ก็จะให้รับประทานยาเป็นเวลานาน แต่เมื่อหยุดยา ก็อาจจะกลับมาเป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้อีก โดยส่วนใหญ่แล้ว แพทย์จะแนะนำวิธีการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก จะเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด ในการตัดถุงน้ำดี ก็ไม่มีผลกระทบต่อการย่อยอาหาร เพราะน้ำดีสร้างมาจากตับ ถุงน้ำดีมีหน้าที่เพียงแค่เก็บพักน้ำดีเท่านั้น
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ปัจจุบัน การผ่าตัดถุงน้ำดี สามารถทำได้ 2 วิธี ก็คือ การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบผ่านกล้อง (laparoscopic cholecystectomy) และ ผ่าตัดแบบเปิดแผลหน้าท้องแบบธรรมดา วิธีแรกเป็นวิธีที่แพทย์ แนะนำมากที่สุด ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่า การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง แต่ถ้าหากผู้ป่วยที่เป็นขั้นรุนแรง เช่น ถุงน้ำดีบวมมาก หรือมีพังพืดล้อมมาก ๆ แพทย์ก็จะใช้วิธี การผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ด้วยวิธีการเปิดแผล หน้าท้องแบบธรรมดา เพราะจะให้ความแม่นยำ และชัดเจนกว่า การผ่าตัดผ่านกล้อง
การผ่าตัดถุงน้ำดีแบบผ่านกล้อง ผู้ป่วยจะต้องทำการงดน้ำ และอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง หลังจากนั้น จะเริ่มดมยาสลบ เพื่อให้การผ่าตัด ผ่านไปอย่างปลอดภัย โดยแพทย์ จะทำการเจาะแผลเล็ก ๆ มีขนาดเพียง 0.5 เซนติเมตร บริเวณสะดือและชายโครงขวา เพื่อสอดกล้องขยายขนาดเล็ก และเครื่องมือเข้าไปตรวจดู นิ่วในถุงน้ำดี หลังจากนั้น ก็จะทำการตัดเลาะถุงน้ำดีออก เมื่อเสร็จแล้ว ก็จะดึงเครื่องมือและกล้องออก สุดท้ายก็จะทำการเย็บปิดแผล ก็จะเป็นการเสร็จสิ้น ขั้นตอนในการรักษา โดยจะใช้เวลาประมาณ 45-90 นาที เสร็จแล้วก็จะย้ายผู้ป่วย ออกมาสังเกตอาการ ในห้องพักฟื้น ก่อนที่จะย้ายขึ้นสู่ตึกผู้ป่วย
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
โดยทั่วไป หลังการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ผู้ป่วยจะต้องนอนพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน ก็สามารถที่จะกลับไปพักฟื้น ที่บ้านได้ สำหรับระยะเวลาในการพักฟื้น ผู้ป่วยที่ผ่าตัดแบบส่องกล้อง จะใช้เวลาน้อยกว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งการผ่าตัดแบบส่องกล้อง จะใช้เวลาในการฟื้นตัว เพียง 2 สัปดาห์ ก็สามารถที่จะ กลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
การดูแลหลังการผ่าตัด ถุงน้ำดี
- ผู้ป่วยอาจจะมีการการปวดแผล ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อขอรับยาแก้ปวด หากมีอาการปวดแผลมาก ท้องอืดแข็งตึง หรือมีไข้ ให้เจ้าหน้าที่โดยทันที
- การรับประทานอาหาร หลังการผ่าตัดในช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก ควรจะเน้นอาหารที่มีไขมันน้อย และแคลอรี่สูง เช่น เนื้อสัตว์ แป้ง เป็นต้น หลังจากนั้น ก็สามารถรับประทานอาหาร ได้ตามปกติ
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้อง มีไข้หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน จะต้องรีบกลับมา พบแพทย์โดยเร็วที่สุด
- ออกกำลังกายเบา ๆ ตามความเหมาะสมของร่างกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก หลังการผ่าตัด 3 เดือน
- ต้องมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัด นิ่วในถุงน้ำดีแบบผ่านกล้อง จะมีโอกาสสำเร็จสูงถึง 90% และอาจจะมีแค่ 10% เท่านั้น ที่อาจจะต้องผ่าตัด แบบเปิดแผลหน้าท้อง เช่น ผู้ป่วยที่ภาวะถุงน้ำดีอักเสบ เฉียบพลันนานกว่า 3 วัน รวมไปถึงผู้ป่วย ที่มีโรคประจำตัว อาจจะมีโอกาส ที่จะผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่สำเร็จ แพทย์จะเป็นคนพิจารณา ในแต่ละกรณี
ผู้ป่วยจะต้องระมัดระวัง และสังเกตผลข้างเคียง หลังการผ่าตัด ซึ่งอาจจะมีอาการแทรกซ้อน เกิดขึ้นได้ เช่น มีอาการบวมบริเวณผ่าตัด มีเลือดออก จะต้องรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขตวัฒนา
เขตวัฒนา เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า การบริการ และการทูต ตั้งอยู่ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ นับว่าเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตและการขยายตัวของสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างรวดเร็ว มีการคมนาคมและระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือโดยสารและรถโดยสาร โดยมีถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี ถนนทองหล่อ ถนนเอกมัย และถนนปรีดีพนมยงค์ เป็นถนนสายหลักเชื่อมโยงแหล่งธุรกิจพาณิชยกรรมในพื้นที่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง รวมถึงสถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามต่าง ๆที่เป็นที่นิยมและรู้จักเป็นอย่างดีของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บางกอกสไมล์ คลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลสุขุมวิท เป็นต้น
สถานที่ยอดนิยมในเขตวัฒนา
วัดธาตุทอง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา วัดธาตุทองแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อพระบรมวงศานุวงศ์ไทยหลายพระองค์ และสามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายเพราะเป็นวัดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเอกมัย สามารถเข้าไปไหว้พระทำบุญได้ทุกวันตั้งแต่ 6.00-17.00 น.
ซอยคาวบอย เป็นย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร เป็นซอยสั้นๆ ประกอบไปด้วยบาร์ต่าง ๆ กว่า 40 บาร์ การบริการเน้นไปที่ลูกค้านักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย บาร์เกือบทั้งหมดในซอยคาวบอยจะเป็นรูปแบบบาร์อะโกโก้ สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก และรถไฟฟ้า สถานีสุขุมวิท ใกล้กับโรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยงหรือ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง เป็นเรือนเครื่องสับแบบล้านนาไทยดั้งเดิมหรือที่รู้จักกันว่า "เรือนกาแล" เป็นเรือนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้และศิลปวัตถุของชาวล้านนาตามวิถีชุมชนเกษตรกรรมในชนบทเมื่อครั้งอดีต ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 21 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศก
การเดินทางในเขตวัฒนา
มีตัวเลือกที่หลากหลายในการสัญจรภายในเขตวัฒนา ทั้งโดยทางรถยนต์เพียงแต่ว่าจะมีความหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นในตอนเช้ากับช่วงหัวค่ำ, รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท สถานีเอกมัย-สถานีทองหล่อ-สถานีพระโขนง-สถานีอโศกและสถานีพร้อมพงษ์ของรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สถานีสุขุมวิทของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล, รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ทั้งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ในจุดที่ใช้บริการทางพิเศษได้ง่ายอีกด้วย
ประชากรหรือผู้คนในเขตวัฒนา
ประชากรหรือผู้คนส่วนใหญ่ในเขตวัฒนามีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมระดับปานกลางถึงระดับสูง มีการผสมผสานกันในด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมเพราะในอดีตหลังจากมีการตัดถนนการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาซื้อที่ดินและอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามา ทำให้มีการผสานชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่ตามแนวความเจริญของถนนสายหลัก
สภาพภูมิอากาศในเขตวัฒนา
สภาพอากาศทั่วไปในกรุงเทพมหานครจะไม่แตกต่างกันมากนัก มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม