Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ

โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
3.55 จาก 5
214 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาเดนมาร์ก ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รังสีวินิจฉัย รักษาโรคหัวใจ ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และภาคใต้ของประเทศไทย ให้บริการทางการแพทย์แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาทางการแพทย์, ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษา การผ่าตัดทั่วไป และการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัย อีกทั้... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ
ราคา ฿169,968 - ฿169,968
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา
Mordee พัทยา, ชลบุรี
3.64 จาก 5
84 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ศัลยกรรมทั่วไป จักษุวิทยา ร้านกาแฟ รับรองเอกสาร การประสานงานด้านประกันสุขภาพ
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2533 ที่เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก อย่างพัทยา เป็นหนึ่งใน 30 โรงพยาบาล ที่บริหารงานโดยบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ของทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ที่นี้มีจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย 300 เตียง ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรค และรักษาพยาบาล ในโรคที่... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ ใน ไทย

การผ่าตัดรักษาภาวะสายตาผิดปกติ หรือ การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขค่าสายตาให้แก่ผู้ที่ไม่ต้องการใส่แว่น หรือคอนแทคเลนส์ ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย โดยสามารถแก้ไขได้หลายวิธี รวมไปถึงการผ่าตัดเพื่อทำให้กระจกตาเปลี่ยนแปลงรูปร่าง การใส่เลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งวิธีที่พบมากที่สุดในปัจจุบันคือ การใช้แสงเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer laser) มาปรับความโค้งของกระจกตาทำให้แสงที่ตกกระทบที่ผิวกระจกตาหักเหโฟกัสไปที่จอประสาทตาพอดี ซึ่งสามารถแก้ไขความผิดปกติของสายตาต่างๆ เช่น สายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง

การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ สามารถทำได้ในผู้ที่มีระดับสายตาผิดปกติที่ปานกลางและไม่มีปัญหาในการมองเห็นผิดปกติ ผู้ที่เหมาะสมสำหรับการรักษาควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีระดับค่าสายตาคงที่ในรอบปีที่ผ่านมา และไม่มีปัญหาอื่นๆเกี่ยวกับสายตา และโรคอื่นๆ เช่น มีแผลที่กระจกตา โรคเบาหวาน และต้อหิน เป็นต้น

ในผู้ป่วยบางรายยังคงต้องมีการใส่แว่นในขณะทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การขับรถในเวลากลางคืน หรือสวมใส่แว่นกันแดดเพื่อหลีกเลี่ยงแสงจัด โดยเมื่อคุณตัดสินใจทำการรักษาจะต้องผ่านการตรวจและได้รับการประเมินจากจักษุแพทย์แล้วเท่านั้น

การผ่าตัดแก้ไขสายตาในเด็กสามารถทำได้ในกรณี โดยเฉพาะในเด็กบางรายที่มีภาวะการหักเหแสงที่ผิดปกติที่ส่งผลต่อการมองเห็น หรือพัฒนาการทางสายตาที่ผิดปกติ ภาวะตาขี้เกียจ และตาเข ซึ่งควรได้รับการผ่าตัดแก้ไขซึ่งก็อาจมีอัตราความเสี่ยงอื่นร่วมด้วยมากกว่าที่พบได้ในผู้ใหญ่ 

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งมีวิธีต่างๆที่เป็นที่นิยมดังนี้

  • เลสิก (Lasik or laser in-situ keratomileusis) เหมาะสำหรับคนที่มีสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยการใช้ใบมีด microkeratome หรือ เฟมโตเซเคินเลเซอร์ (femtosecond laser) แยกชั้นกระจกตา และปรับเปลี่ยนความโค้งของกระจกตาทำให้แสงที่ตกกระทบที่ผิวกระจกตาหักเหโฟกัสไปที่จอประสาทตาพอดี

  • การเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม (RLE) ซึ่งเป็นการรักษาที่คล้ายกันกับการผ่าตัดต้อกระจก โดยแพทย์จะทำการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาที่เสื่อมสภาพแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้น หรือยาวมากๆ ผู้ที่มีความหนาของกระจกตาน้อย หรือโรคตาอย่างอื่นที่ไม่รุนแรง เช่น ตาแห้ง เป็นต้น

  • PRELEX (Presbyopic lens exchange) วิธีนี้สามารถใช้ในการรักษาภาวะสายตายาวตามวัย หรือสูญเสียความยืดหยุ่น โดยแพทย์จะทำการเปลี่ยนเลนส์แก้วตาที่เสื่อมสภาพแล้วแทนที่ด้วยเลนส์แก้วเทียมชนิดโฟกัสหลายระยะลงไป

  • PIOL (An aphakic intraocular lens) วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาสั้นเกินไปที่จะทำเลสิก โดยแพทย์จะทำการใส่เลนส์แก้วตาเทียมลงไปในม่านตา หรือ หลังช่องกลมตรงกลางม่านตา โดยที่ยังคงรักษาเลนส์แก้วตาตามธรรมชาติไว้ในตำแหน่งเดิม

  • LRI (Limbal relaxing incisions) เป็นวิธีที่ใช้ในการรักษาสายตาเอียง โดยแพทย์จะทำการผ่ากระจกตาเพื่อทำให้มีรูปโค้งและกลมขึ้น

โดยปกติแพทย์จะทำการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบขึ้นอยู่กับวิธีการรักษา หรือคนไข้สามารถขอยากล่อมประสาทอ่อนๆหากเกรงว่าจะเกิดความกลัวในระหว่างการผ่าตัดร่วมกับการหยอดยาชาเฉพาะที่ ยกเว้นการผ่าตัดในเด็กที่ต้องใช้การดมยาสบเท่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การเคลื่อนไหวร่างกาย เป็นต้น

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ระยะเวลาในการพักฟื้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละวิธีการรักษา โดยการทำเลสิก สามารถกลับไปทำงานได้อย่างเป็นปกติภายใน 1 สัปดาห์ และอาจใช้ระยะเวลาโดยประมาณสูงสุดถึง 6 เดือน ซึ่ง การทำ PRK อาจใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่า หลังการผ่าตัดอาจจะมีอาการข้างเคียง ได้แก่ เคืองตา แสบตา และน้ำตาไหลได้

โดยทั่วไปผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถมองเห็นได้ทันทีและเห็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นหลังจากการผ่าตัดได้ภายใน 2-3 วันแรก

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

ควรต้องมาตรวจหลังการผ่าตัดเพื่อติดตามผลการรักษา โดยแพทย์จะสอบถามอาการ ผลข้างเคียงต่างๆ และพิจารณาการรักษา แต่โดยปกติแล้วแพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวและข้องดเว้นหลังการรักษาอยู่แล้ว ไม่ควรอาบน้ำทันทีหลังการผ่าตัด ห้ามขยี้ตา หรือกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองตาในช่วงอาทิตย์แรก งดการแต่งหน้ารอบดวงตา ห้ามโดนน้ำหรือสบู่ หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่สูบบุหรี่เพราะสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองตาได้จากควัน ควรงดออกกำลังกายในสามวันแรก และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แรงยกเยอะ เช่น ฟุตบอล เทนนิส โยคะ การเต้นแอโรบิค เป็นต้น

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

มีอัตราความสำเร็จสูงมาก และอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่นภาวะความผิดปกติของสายตา และได้ผลดีมากกว่าในคนที่มีภาวะสายตาสั้นไม่รุนแรง โดยจากการศึกษาพบว่ามีอัตราสูงสุดถึง 95%

อาการข้างเคียงหรือปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้หลังการผ่าตัดเลสิก เช่นอาจมีกระจกตาขึ้นฝ้า ภาวะการเห็นถดถอย เห็นภาพลวงตา เนื้อเยื่อเสียหาย หรือมีวิสัยทัศน์ที่แย่กว่าเดิม และเกิดการอักเสบได้

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น