Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์

ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม แจ้งวัฒนะ 33
ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม แจ้งวัฒนะ 33
ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม แจ้งวัฒนะ 33
ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม แจ้งวัฒนะ 33
ออเธนทิคคลินิกเวชกรรม แจ้งวัฒนะ 33
Mordee ปากเกร็ด, นนทบุรี
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม เวชศาสตร์ฟื้นฟู และ กายภาพบำบัด ฟื้นฟูสภาพผม ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ
ออเธนทิคคลินิก ให้บริการด้านการร้อยไหม กำจัดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเรียว เสริมจมูก เสริมคาง ลดความอ้วน ลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน เสต็มเซลล์ พลาเซนต้า ฉีดวิตามินบำรุงผิว แก้ปัญหาผิว เมโสเธอราพี เลเซอร์หน้าใส รักษาสิว แก้ปัญหาหลุมสิว กำจัดไฝ ลดเลือนฝ้า กระ แผลเป็น  ปลูกผม คิ้ว หนวด กำจัดขน พร้... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์
ราคา ฿4,499 - ฿16,997

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ ใน ปากเกร็ด, นนทบุรี

รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ หรือ Wrinkle Treatment with stem Cells คืออะไร ?

รักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ (Wrinkle Treatment with stem Cells) หรือการทำทรีทเมนท์ชะลอวัยด้วยสเต็มเซลล์ คือการทำหัตถการชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหน้าโดยการใช้ส่วนประกอบหลักก็คือ สเต็มเซลล์ (stem Cells) นั่นเอง 

Stem Cells สำคัญแค่ไหน และมีหน้าที่อย่างไร ?  

สเต็มเซลล์ (Stem Cells) นั้นจริง ๆ แล้วคือ องค์ประกอบภายในของร่างกายของเรานั่นเอง ซึ่งลักษณะของสเต็มเซลล์มีความพิเศษที่สามารถเปลี่ยนรูปร่าง เพิ่มจำนวน และพัฒนา รวมถึงปรับเปลี่ยนเป็นเซลล์อื่น ๆ ได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เองที่ทำให้เกิดการฟื้นฟูร่างกาย ทำให้สเต็มเซลล์นั้นถูกนำมาใช้ในการทำทรีทเมนท์ชะลอวัย 

โดยปกติแล้วสเต็มเซลล์ของร่างกายจะอยู่ในไขกระดูก และเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาใช้งานด้วย สัญญานเตือนจากโปรตีนไซโตไคน์ในระบบภูมิคุ้มกัน 

หลังจากที่ถูกปล่อยออกมานั้นสเต็มเซลล์จะทำหน้าที่ แบ่งตัวกลายเป็นเซลล์เฉพาะ ต่าง ๆ ที่ร่างกายต้องการ ณ ขณะนั้น เพื่อทำการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย

วิธีการทำการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ Wrinkle Treatment with stem Cells  

ในขั้นตอนแรกศัลยแพทย์จะต้องเก็บสเต็มเซลล์จากผู้เข้ารับการบริการ และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดสเต็มเซลล์ ทำการบำบัดและตรวจสอบ จากนั้นก็ส่งคนให้กลับผู้เข้ารับบริการ พร้อมด้วยการบอกปัญหาหลักที่สำคัญ และตามด้วยการประเมินชนิดของสเต็มเซลล์ที่จำเป็น และเริ่มทำการฉีดเสต็มเซลล์ ซึ่งหากเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความแม่นยำอาจมีการนำอุลตร้าซาวด์มาระบุตำแหน่งอีกด้วย 

ประโยชน์ของการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์ (Wrinkle Treatment with stem Cells) 

นอกจากริ้วรอยต่าง ๆ ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดแล้ว ยังมีส่วนช่วยเพิ่มพลังในร่างกาย ระบบการทำงานภายใน ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเกิดจากการพัฒนาของสเต็มเซลล์ที่ได้รับเพิ่มเข้าไปในร่างกายอีกด้วย เช่น ช่วยลดการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ ข้อต่อและหลัง รวมถึงการเพิ่มภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย 

ตำแหน่งของการฉีดสเต็มเซลล์ 

ตำแหน่งของการฉีดสเต็มเซลล์ที่นิยม สำหรับการลดริ้วรอยและชะลอความอ่อนวัยนั้น แบ่งออกเป็น 2 ตำแหน่ง นั่นคือ 

1.ผิวหน้าที่ประสบปัญหาอย่างเด่นชัด

เป็นการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง เพื่อลดริ้วรอย และร่องลึกต่าง ๆ ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส รวมไปถึงบริเวณใกล้เคียง เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หน้าผาก และคอ เป็นต้น 

ซึ่งต้องใช้จำนวนสเต็มเซลล์เริ่มต้นถึง 5 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า และการประเมินของแพทย์ 

2. หลอดเลือดดำเพื่อเป็นทางผ่านสู่ร่างกาย

การฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เพื่อทำให้ผิวพรรณกลับมากระชับ แลดูอ่อนวัย พร้อมความขาวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง เรียบเนียนทั่วเรือนร่าง 

ซึ่งต้องใช้จำนวนสเต็มเซลล์ เริ่มต้นตั้งแต่ 15 ถึง 20 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์ 

การใช้สเต็มเซลล์แตกต่างกับการใช้ยาอย่างไร ?

ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างการใช้ยา และการใช้สเต็มเซลล์บำบัด นั่นคือ ยา ถูกใช้อย่างจำเพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มอาการใดอาการหนึ่ง ในขณะที่สเต็มเซลล์คือ การใช้เซลล์บำบัดในศาสตร์ของเวชศาสตร์การชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ อีกทั้งยังไม่ต้องรอให้มีอาการเจ็บป่วยก่อนที่จะใช้สเต็มเซลล์อีกด้วย

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

โดยสรุปแล้วการรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ Stem Cells ในการซ่อมแซมฟื้นฟูผิวหน้า และผิวกายให้มีความอ่อนวัยโดย  Stem Cells ที่นิยมนำมาใช้นั้นได้มาจากหลายรูปแบบ เช่น เซลล์ของตัวเอง (autologous) เซลล์ของคนอื่น (allogeneic) หรือเซลล์ของสัตว์ (xenotherapy) เช่น  embryonic stem cell ซึ่งได้มาจากตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันนอกจากความสวยงาม สเต็มเซลล์ยังถูกนำมาใช้รักาาโรคอีกหลายโรค เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว ข้อเข่าเสื่อม ดรคเบาหวาน เป็นต้น

ในด้านความงามนั้นเซลล์ที่นิยมนำมาใช้นั่นคือ เซลล์ต้นกำเนิดของร่างกาย หรือ Mesenchymal Stem Cells (MSCs) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ได้มาจากไขมัน รก และไขกระดูก ซึ่งสามารถใช้เป็นเซลล์บำบัดได้อย่างกว้างขวาง

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากทำการรักษาริ้วรอยด้วยสเต็มเซลล์แล้ว ผู้เข้ารับบริการจะสามารถกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ในทันที แต่ก็ต้องมีการดูแลเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ดีเช่นกัน

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการเข้ารับ Wrinkle Treatment with stem Cells สิ่งควรปฏิบัติเพื่อรักษามีดังนี้

  • งดอาหารรสจัด หลังทำเซลล์บำบัด 14 วัน

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอในปริมาณอย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน 

  • งดการดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ หลังได้รับสเต็มเซลล์

  • งดการออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไป

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

โดยส่วนใหญ่แล้วหลังจากได้รับสเต็มเซลล์ก็จะสามารถเห็นผลได้ภายในทันที โดยจะค่อย ๆ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 2 ถึง 3 วันแรก และสามารถเห็นผลชัดเจนได้ภายใน 1 ถึง 2 เดือน ซึ่งผลการรักาาจะเห็นชัดเพียงใดขึ้นอยุ่กับแต่ละบุคคล และควรรับบริการทุก 6 เดือน หรือ 1 ปี