Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี ศัลยกรรมจมูก

โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ภูเก็ต
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
4.11 จาก 5
9 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ศัลยกรรมตกแต่งความงาม สูตินรีเวช ฟื้นฟูสภาพผม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ร้านกาแฟ ที่พักสำหรับครอบครัว
สถาบันศัลยกรรมความงามภูเก็ต เป็นหนึ่งในศูนย์ศัลยกรรมความงามที่ดีที่สุดของภูเก็ต ซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่างศูนย์ความงามนานาชาติภูเก็ต (PIAC) และสถาบันศัลยกรรมความงามกรุงเทพภูเก็ต (BPICS) ซึ่งทั้งสองแห่งเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในท้องถิ่น โดยแต่ละแห่งเปิดดำเนินการมานานกว่าสิบปี... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
ศัลยกรรมจมูก
ราคา ฿29,994 - ฿249,953

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ ศัลยกรรมจมูก ใน ภูเก็ต

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก เพราะใครๆก็อยากหน้าตาดูดีกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชายก็ตาม ถ้าพูดถึงเรื่องศัลยกรรมของประเทศไทยที่คนส่วนใหญ่ให้ความนิยมที่สุด ก็จะนึกถึงการทำศัลยกรรมจมูก การเสริมจมูกเป็นการปรับเปลี่ยนรูปทรงของจมูกให้ดูโด่งและมีรูปทรงที่เราต้องการ ดังนั้นก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับ การเสริมจมูกกันก่อน

การศัลยกรรมจมูกหรือการเสริมจมูก คือ การศัลยกรรมตกแต่งเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเสริมจมูก การตัดปีกจมูก การตกแต่งฐานกระดูกจมูก หรือการลดฮัมพ์ เป็นต้น การศัลยกรรมจมูกสามารถทำเพียงวิธีเดียว หรือทำหลายวิธีพร้อมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และความต้องการของผู้เข้ารับการศัลยกรรมจมูก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการเข้ารับการทำศัลยกรรมจมูกควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการเสริม แพทย์ที่จะทำ สถานที่ที่เข้ารับบริการ หรือการเตรียมตัวก่อน-หลังการผ่าตัด เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรม

Key point 

-การเสริมจมูกช่วยปรับเปลี่ยนรูปทรงจมูก

-การเสริมจมูกแบบปิดจะพักฟื้นได้เร็วกว่าการเสริมจมูกแบบเปิด

-การเสริมจมูกเป็นวิธีที่ปลอดภัย

โดยทั่วไปการผ่าตัดมี3 ประเภท คือ ศัลยกรรมแบบเปิด(Open Rhinoplasty) ศัลยกรรมแบบปิด(Close Rhinoplasty) และศัลยกรรมปลายจมูก

ศัลยกรรมจมูกแบบเปิดแพทย์จะใช้ยาสลบและจะไม่ทิ้งแผลเป็นใดๆบนจมูก

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

ก่อนศัลยกรรมคุณต้องคุยกับแพทย์เพื่อตัดสินใจว่าการทำศัลยกรรมนี้เหมาะกับคุณหรือไม่ แพทย์จะดูประวัติการรักษาตัวของคุณ รวมถึงการผ่าตัดก่อนหน้า โรคประจำตัว ยาที่กำลังทานอยู่ คุณต้องตรวจร่างกาย เช่นตรวจเลือด แพทย์จะเช็คสภาพผิวบนจมูกและประเมินว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไงหลังจากนั้นแพทย์จะทำแผนการรักษาให้กับคุณ ก่อนและหลังการผ่าตัด2อาทิตย์หลีกเลี่ยงการทานยาที่มีแอสไพริน(Aspirin)หรือ ไอบูโพรเฟน(Ibuprofen) เพราะยานี้จะให้เลือดไหลมากขึ้น หยุดทานสมุนไพร หรือ อาหารเสริม หยุดสูบบุหรี่เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้

ระหว่างการผ่าตัดแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาสลบซึ่งขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มผ่าตัดภายในจมูก หรือ บนฐานระหว่างรูจมูก แพทย์จะปรับเปลี่ยนรูปร่างของกระดูกภายในและกระดูกอ่อนภายใต้ผิวเพื่อให้คุณดูดีขึ้น

เทคนิคในการเสริมจมูก

1.การเสริมจมูกแบบปิดเป็นการผ่าตัดโดยลงมีดแค่ 1ฝั่ง จะซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วแต่คนไข้สะดวก แต่จะไม่มีการเปิดบริเวณแนวกลางจมูก โดยจะลงมีดแค่ความยาว 1-2เซ็นติเมตร ตามแนวโครงสร้างของจมูก จะมีลักษณะเป็นครึ่งวงกลม จากนั้นก็จะมีการเลาะเปิดเข้าไปเพื่อเคลียร์ช่องจมูก เพื่อให้สามารถวางซิลิโคนได้ ซึ่งวิธีการนี้จะไม่สามารถเห็นโครงสร้างทั้งหมดของจมูก แต่จะเป็นการใช้อุปกรณ์เข้าไป บริเวณใต้เยื่อหุ้มกระดูกเพื่อเลาะเปิดแล้วเคลียร์ช่องว่างเพื่อวางแนวซิลิโคน

2.การเสริมจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าตัดที่สามารถเห็นโครงสร้างได้มากกว่าแบบปิด คือจะมีการลงมีดเปิด ทั้งสองฝั่งของรูจมูก และแนวกลางจมูก เหมือนเราเปิดฝากระโปรงหน้ารถยนต์ เราก็จะเห็นโครงสร้างทั้งหมด และเห็นภายในเกือบหมด ถ้าเราเลาะเปิดโครงสร้างได้ดี เราก็จะแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลาะขูดสารเหลวออก การเคลียร์เยื่อพังผืดในกรณีที่เป็นเคสแก้ การตกแต่งเนื้อปลาย รวมถึงการยืดผนังกั้นจมูก ก็จะใช้เทคนิคการเสริมจมูกด้วยวิธีแบบเปิดทั้งสิ้น

3. การเสริมจมูกแบบกึ่งเปิด (Semi-open Rhinoplasty) จะเป็นการเปิดแผลคล้ายวิธีแบบปิด แต่ว่าจะเป็นการเปิดแผลทั้ง 2ฝั่ง วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ ช่วยในการจัดการโครงสร้าง รวมถึงแก้ปัญหาได้มากขึ้นจากวิธีการผ่าตัดแบบปิด และยังสามารถทำเทคนิคเย็บอินเตอร์โดมได้ด้วย เนื่องจากพอจะเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนมากขึ้น แต่วิธีการนี้ก็สู้วิธีการแบบเปิดไม่ได้ ถ้าในกรณีที่ต้องยืดผนังกั้นจมูกเลาะขูดสารเหลวออก และกรณีที่ต้องการปรับโครงสร้างของจมูก ก็จะสู้วิธีแบบเปิดไม่ได้ 

ทรงจมูกยอดนิยมในนประเทศไทย

ทรงจมูกสโลปปลายพุ่ง  

ทรงจมูกที่ตอนนี้นิยมกันมากในหมู่ดาราไทย ยันไอดอลเกาหลี เป็นทรงที่ใกล้เคียงกับรูปจมูกเดิมของคนเอเชีย ลักษณะคือโค้งสโลปตรงหัวตา แล้วไล่ไปเรื่อย ๆ ไม่เน้นเห็นเป็นแท่ง ปลายจมูกยกสูง ถ้าถ่ายรูปออกมาแล้วก็มีความเป็นหยดน้ำเบา ๆ แต่ตัวจริงก็เหมือนคนจมูกโด่งทั่วไป ดูแล้วไม่รู้ว่าศัลยกรรมมา 

ทรงจมูกปลายเชิด 

เป็นทรงจมูกที่ต้องใช้การเสริมจมูกแบบตกแต่งปลาย ทรงนี้จะยอดฮิตมากๆในหมู่ต่างชาติ เพราะทำให้หน้าดูคม โฉบเฉี่ยว ดูเปรี้ยวสไตล์สายฝอ ลักษณะก็คือปลายจมูกเชิดขึ้นเล็กน้อย พอยิ้มจมูกก็จะไม่งุ้มลงมา ดูเป็นทรงตลอดเวลา แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบเพราะดูแปลก ๆ ไม่เข้ากับหน้า แนะนำว่าถ้าอยากทำ ลองปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจก่อน

ทรงจมูกบาร์บี้ไลน์

ทรงนี้คนไทยทำน้อย แต่ที่เกาหลีฮิตมาก เป็นทรงจมูกที่นอกจากจะเสริมความโด่งแล้ว ยังช่วยเสริมลุคคุณหนูแสนซนไปด้วย ลักษณะคือสันจมูกยกสูงเบา ๆ ปลายบีบเป็นสันเล็ก ๆ ดูจิ้มลิ้ม และละมุนมากก แต่เตือนก่อนว่าคนหน้ากลม หรือแก้มเยอะอาจจะไม่เหมาะ เพราะทรงนี้จมูกจะดูเล็กและแคบลง ทำให้แก้มดูเด่นขึ้น แต่ถ้าใครหน้าเล็ก ๆ รูปไข่ แนะนำว่าทรงนี้คือดี

ทรงจมูกตั๊กแตน 

เป็นทรงจมูกที่ออกแบบซิลิโคนมาเพื่อคนเอเชีย ซึ่งเหมาะกับคนไทยมากก เพราะเป็นทรงที่พอดีกับโครงสร้างของจมูกสุด ๆ ข้อดีคือเป็นทรงจมูกที่ไม่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาช่วยเสริม แถมเนียนและกลืนไปกับจมูกเดิมของตัวเอง เพิ่มเติมคือโด่งขึ้น เน้นเสริมให้เข้ากับใบหน้า 

ทรงจมูกเกาหลี  

ถ้าใครเสริมหน้าผากมา ดูไม่สมดุลกับจมูก ทรงจมูกแบบเกาหลี ทรงนี้คล้ายกับบาร์บี้เลย โด่งเป็นสันแบบเล็ก ๆ แต่ไม่โด่งมาก เน้นเสริมให้รับกับหน้าผาก ทรงนี้เสริมแล้วทำให้หน้าดูเด็กลง หวานละมุน เป็นอีกทรงที่เหมาะกับคนเอเชียมาก ๆ แต่อาจไม่เหมาะกับคนที่มีหน้าผากแบน หรือหน้าผากกว้าง เพราะอาจจะทำให้หน้าโดยรวมดูแบนขาดมิติ

ทรงจมูกสโลปปลายหยดน้ำ 

ทางออกของคนไม่มีปลายจมูก ก่อนทำสั้นแต่พอมีสันอยู่บ้างแล้วอยากเสริมนิดหน่อย ทรงนี้จะช่วยให้ปลายจมูกดูยาวขึ้น ใบหน้าโดยรวมก็ดูเรียวยาวขึ้นด้วย แต่เป็นทรงที่ต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหูเข้ามาช่วยเสริม เพราะเสี่ยงปลายทะลุในอนาคต และถ้าใครมีปัญหาเรื่องปีกจมูกกว้าง ทรงนี้ก็จะช่วยทำให้ทรงจมูกดูสมดุลขึ้น 

ทรงจมูกเน้นสันปลายเชิดเล็กน้อย 

ใครชอบสันจมูกแบบเด่น ๆ จบปัญหา คนไม่มีดั้ง หรือจมูกแบนมาก ๆ ต้องมาทำทรงนี้เลย ลักษณะซิลิโคนคือเน้นตรงสันให้ดูโด่งขึ้น ซึ่งใครที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจต้องใช้วิธีผ่าตัดแบบ Open เพื่อปรับโครงสร้างจมูกให้รองรับกับซิลิโคน อาจต้องหาหมอที่เก่ง ๆ หน่อย เป็นทรงจมูกที่ถูกหลักตามโหงวเฮ้งที่ดี ทรงนี้ส่วนใหญ่ใครทำหน้าจะเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ขั้นตอนของการผ่าตัดใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 30 นาทีจนถึง 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นแพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนพักเพื่อดูอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงอนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน (การผ่าตัดปีกจมูกเป็นเพียงการทำศัลยกรรมเล็กไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล) สำหรับอาการบวมหลังผ่าตัดถือเป็นเรื่องปกติ แต่โดยทั่วไป การผ่าตัดปีกจมูก จะบวมไม่มาก ระยะเวลาการบวมประมาณ 3 – 5 วัน แต่อาจยุบบวมเร็วหรือช้ากว่านี้ได้ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และรอยฟกช้ำอาจจะมีบ้างซึ่งจะค่อยๆ หายไปภายใน 1 – 2 สัปดาห์

จมูกบวมช้ำ 2 – 3 วัน หลังทำจมูก เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับทุกการผ่าตัดเสริมจมูก แต่จะบวมช้ำมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิค ฝีมือของแพทย์ผู้ผ่าตัดและแต่ละบุคคล

อาการตึงที่จมูก หลังทำจมูก จะรู้สึกตึงบริเวณจมูก โดยเฉพาะตรงปลาย แต่หากตึงเกินไปอาจเป็นสาเหตุของจมูกจะทะลุ

เจ็บแผลที่จมูกระหว่าง 2 – 3 วันแรก หลังทำจมูก อาจมีอาการเจ็บบ้างเล็กน้อย แต่เมื่อจมูกของเราปรับตัวได้ และบาดแผลได้รับการฟื้นฟูตัวเอง อาการเจ็บเหล่านี้จะหายไปเอง

มีกลิ่นแปลกๆ ในจมูก เช่น กลิ่นเลือด กลิ่นน้ำเหลือง หรือกลิ่นยา เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ หลังทำจมูก เมื่อแผลเริ่มหายแล้วกลิ่นเหล่านี้ที่จะหายไปเอง

ระยะเวลาพักฟื้นแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลโดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลา 2-3สัปดาห์จึงจะกลับไปทำกิจกรรมได้ตามปกติ และ 3-6อาทิตย์ สามารถกลับไปทำกิจกรรมๆหนักได้ อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน1อาทิตย์ ยกเว้นแต่ว่างานของคุณเป็นงานที่ต้องทำกิจกรรมหนักๆ คุณจะมีอาการบวมที่จมูกซึ่งอาจจะใช้เวลานานถึง6เดือนจึงจะหาย แต่จะมีแค่คุณและแพทย์ผู้ผ่าตัดที่จะสังเกตเห็น ผลลัพธ์จะเห็นได้อย่างชัดเจนหลังจากแผลหายดีแล้ว

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

  • ประคบเย็นทันทีหลังการผ่าตัด และประคบติดต่อกันเป็นเวลาระยะเวลา 48 ชั่วโมง

  • ห้ามไม่ให้แผลโดนน้ำ ในช่วง 3 วันแรก เพราะน้ำจะทำให้แผลอับชื้น จนเกิดการอักเสบและติดเชื้อตามมา

  • นอนให้ศีรษะอยู่สูงเข้าไว้วิธีนี้ก็จะช่วยลดอาการบวมลงได้

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดองและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

สับดาห์แรกคุณต้องใส่เฝือกจมูก คุณอาจจะรู้สึกแน่นจมูกเนื่องจากอาการบวมหรือจากเฝือกที่ใส่ คุณต้องนอนให้ศรีษะอยู่สูงกว่าหน้าอกเพื่อลดอาการบวมและไม่ให้เลือดไหลเยอะ หลังการผ่าตัด2-3วันคุณอาจจะมีเลือดไหลเล็กน้อยและน้ำมูกไหลแพทย์อาจจะใส่แผ่นรองไว้ใต้จมูกเพื่อซับเลือดและน้ำมูกที่ไหลออกมา

แพทย์อาจจะให้คุณหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ อาบน้ำในอ่างแทนการอาบด้วยฝักบัว หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ไม่ยิ้มหรือหัวเราะ ไม่สวมเสื้อที่ต้องสวม-ถอดออกทางศรีษะ ให้สวมเสื้อที่ติดกระดุมแทน

ไม่ใส่แว่นสายตาหรือแว่นกันแดดเพื่อป้องกันการกดทับบนจมูก ควรทาครีมกันแดดSPF30เมื่ออกไปข้างนอก 

ไม่ประคบเย็นบนจมูกแม้ว่าจะมีอาการบวม  อาการบวมจะหายเร็วขึ้นด้วยการจำกัดการทานโซเดียม

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

อัตราความสำเร็จมีประมาณ 80-90% อย่างไรก็ตามการศัลยกรรมจมูกก็เหมือนกับการศัลยกรรมอื่นๆที่มีผลข้างเคียง ซึ่งอาจจะมีเลือดไหล ติดเชื้อ ชา เส้นประสาทเสียหายอย่างถาวร ผลข้างเคียงจากการใช้ยาสลบ ความเสี่ยงอื่นๆที่เป็นไปได้คือหายใจทางจมูกลำบาก จมูกไม่เท่ากัน บวม เปลี่ยนสี ผนังกั้นช่องจมูกทะลุ และต้องผ่าตัดอีกเป็นครั้งที่ 2 หรือ 3

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน