สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การผ่าตัดข้อสะโพกเทียม ใน กรุงเทพมหานคร
การผ่าตัดข้อสะโพกเทียม เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาการอักเสบ และมีอาการปวด ส่งผลต่อการเดิน การเคลื่อนไหวลำบาก โดยการผ่าตัดใส่ข้อสะโพกเทียมเข้าไป โรคนี้ส่วนใหญ่แล้ว จะพบในผู้สูงอายุ ที่มีภาวะข้อสะโพกหัก กระดูกพรุน หกล้ม หรือที่มีภาวะข้อสะโพกเสื่อม อย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม โรคนี้ก็อาจพบในคนที่มีอายุน้อยได้ เช่น ภาวะข้อสะโพกขาดเลือด ทำให้หัวข้อสะโพกถูกทำลาย เนื้องอกกระดูก โรคข้อเข่าเสื่อม โรคไขข้ออักเสบ หรือมีความผิดปกติของกระดูกอื่น ๆ เป็นต้น
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ข้อสะโพกเทียมประกอบด้วยกัน 3 ส่วนคือ ส่วนของหัวข้อ สะโพก (emoral head and stem) ส่วนที่ทดแทนเบ้าข้อสะโพก (acetabulum) และส่วนที่ทำหน้าที่ทดแทนกระดูกอ่อน (polyethylene)
โดยการผ่าตัดสะโพกเทียมนี้ สามารถทำได้ 2 แบบคือ
1. ผ่าตัดเปลี่ยนทั้งส่วนหัวและเบ้าข้อสะโพก (Total hip replacement)
2. ผ่าตัดเปลี่ยนหัวข้อสะโพกเทียมอย่างเดียว (hemiarthroplasty)
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
ภายหลังการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยจะต้องนอนรักษาตัว เพื่อดูอาการ เป็นระยะเวลาประมาณ 4-8 วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยด้วย แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอายุ 70 ปี ขึ้นไป จะต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็ขึ้นกับปัจจัยด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น มีโรคประจำตัวอย่างอื่นไหม เป็นต้น
ระยะเวลาในการฟื้นตัว ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ของแต่ละคน โดยเฉลี่ยแล้ว ร่างกายของคนไข้จะสามารถฟื้นตัว ได้ภายใน 6-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัดด้วย ในรายที่มีการผ่าตัดน้อย ๆ ผู้ป่วยอาจจะกลับมาเดินได้ปกติภายใน 1 วัน สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ เช่น การขับรถ ภายใน 6 สัปดาห์
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำ จากแพทย์ และพยาบาล ในการดูแลตัวเอง หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ดังนี้
1. มาพบแพทย์ ตามนัดหมายทุกครั้ง
2. คนในครอบครัว ควรช่วยเหลือดูแล ผู้ป่วยในระเวลาพักฟื้น
3. ควรมีราวกันตก บริเวณบันได และเวลาอาบน้ำ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ใช้งาน สะดวกยิ่งขึ้น
4. ยกสะโพกให้สูง กว่าระดับหัวเข่า โดยการใช้หมอนรอง ใต้สะโพกขณะนั่ง
5. รับประทานอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพ หรือรับประทานอาหาร ตามแผนที่แพทย์แนะนำ
6. ใช้ไม้เท้า หรือ เครื่องช่วยเดิน เวลาต้องเดิน ไปไหนมาไหน
7. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว ที่ไม่จำเป็น และเว้นจากการ ขึ้นลงบันได
8. พยามไม่ให้แผลโดนน้ำ โดยที่ไม่จำเป็น เพราะหากผ้าพันแผลเปียก อาจทำให้แผลติดเชื้อได้
9. สามารถใช้น้ำแข็งเพื่อประคบ ลดอาการบวมได้
10. หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหว แบบเร็ว ๆ เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
มีรายงานการสำรวจว่า การผ่าตัดข้อสะโพกเทียม มีอายุการใช้งานได้ 25 ปีขึ้น คิดเป็น 58% แต่โดยเฉลี่ยแล้ว 15 ปี หลังจากที่ผ่าตัดสะโพกเทียม ที่ทำจากโลหะ หรือพลาสติก จะเสื่อมสภาพลง
ดังนั้นในช่วง 10 ปีแรก ความสำเร็จจะอยู่ที่ราว ๆ 90-95% แล้วจะลดลงมาเรื่อย ๆ เหลือ 80-85% หลังจาก 20 ปีไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดที่มีความสำเร็จค่อนข้างสูง และประสิทธิภาพมาก สามารถแก้ไขปัญหา ความเจ็บปวดได้ ทำให้ผู้ป่วย สามารถกลับมาดำเนินชีวิต ได้อย่างเป็นปกติมากยิ่งขึ้น
สิ่งที่ผู้ป่วย ควรระมัดระวังคือ การติดเชื้อที่แผล และการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน เพราะอาจเป็น อันตรายถึงชีวิตได้
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง