สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การตัดรังไข่ทั้งสองข้าง ใน กรุงเทพมหานคร
การตัดรังไข่ทั้งสองข้าง (Oophorectomy) เป็นการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ที่พบว่าเป็นมะเร็งรังไข่ และส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์ ในขณะที่มะเร็งลุกลามไปมากแล้ว เพราะอาการในระยะแรกนั้น ไม่ได้บ่งชี้ชัดเจน การตรวจคัดกรอง ยังไม่มีประสิทธิภาพ ที่ดีมากนัก แพทย์จึงต้องใช้วิธีการผ่าตัด เอารังไข่ออกทั้งสองข้าง
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
สำหรับการผ่าตัดรังไข่ แพทย์จะเริ่มด้วยกันฉีดยาชา และให้ผู้ป่วย ดมยาสลบ เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวย ในระหว่างทำการผ่าตัด โดยสามารถทำได้ 2 วิธี ด้วยกันคือ การผ่าตัดแบบส่องกล้อง แพทย์ก็จะกรีดบาดแผล ขนาดเล็ก ๆ 3 แผล ตรงบริเวณหน้าท้อง เพื่อจะทำการใส่กล้อง และอุปกรณ์ในการผ่าตัดขนาดเล็กเข้าไป หลังจากนั้นก็จะเริ่มตัดรังไข่ และเนื้อเยื่อรอบ ๆ บริเวณนั้นออก อีกวิธีก็จะเป็น การผ่าตัดแบบเปิดแผลบริเวณช่องท้อง จะทำการเปิดแผลขนาดใหญ่ จะแนวตัังหรือแนวนอนก็ได้ ยาวประมาณ 6-8 นิ้ว ตรงบริเวณช่องท้อง เพื่อทำการตัดรังไข่ หลังจากนั้น ก็จะเย็บปิดแผล
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ก็จะใช้เวลาในการพักฟื้นในโรงพยาบาล แค่เพียง 1 วัน แต่ถ้าผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง หรือแบบดั้งเดิมนั้น จะต้องพักรักษาตัว ในโรงพยาบาลอย่างน้อย 2-3 วัน โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรง ของผู้ป่วยแต่ละคน หลังจากออกจากโรงพยาบาล แพทย์จะติดตามอาการ และนัดหมายให้พบ อย่างน้อย 1-2 ครั้ง
หลังการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ผู้ป่วยก็สามารถที่จะ กลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ถ้าผ่าตัดแบบดั้งเดิม จะต้องใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยถึงจะใช้ชีวิต ตามปกติได้
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
หลังการผ่าตัดรังไข่ จะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ เป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ และควรหลีกเลี่ยง การยกของที่มีน้ำหนักมาก สำหรับการออกกำลังกาย ก็ต้องไม่หักโหม เน้นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ ลดการกระแทก รับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ และปฏิบัติตามคำแนะนำ ของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไปพบแพทย์ตามนัดสม่ำเสมอ
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การผ่าตัดรังไข่ออกทั้งสองข้าง มีอัตราความสำเร็จสูงมากถึง 97.5% แต่อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดก็อาจจะมีความเสียงอยู่บ้าง เช่น ผลข้างเคียงหลังการผ่าตัด เกิดภาวะแทรกซ้อน เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง