Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)

โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต
Mordee เมืองภูเก็ต, ภูเก็ต
3.55 จาก 5
214 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาเดนมาร์ก ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รังสีวินิจฉัย รักษาโรคหัวใจ ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ
โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต และภาคใต้ของประเทศไทย ให้บริการทางการแพทย์แบบครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาทางการแพทย์, ตรวจวินิจฉัยโรค การรักษา การผ่าตัดทั่วไป และการผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความทันสมัย อีกทั้... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ใน ภูเก็ต

สำหรับยุคนี้ใครที่มีปัญหามีลูกยาก เป็นซีสต์  หรือเนื้องอก ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมีเทคนิค ที่จะทำให้มีการปฏิสนธินอกร่างกาย เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ หรือที่เรามักจะเรียกว่า "การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)"

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และยังเหมาะ สำหรับผู้หญิงบางคน ที่เป็นโรคและมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น การเป็นซีสต์ เนื้องอก หรือเกิดความผิดปกติ ทางพันธุกรรม เป็นต้น

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการนำไข่และอสุจิ มาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิ ภายนอกร่างกาย ในห้องปฏิบัติการ จากนั้น จึงจะนำไข่ ที่ได้รับการผสมแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ ตัวอ่อน ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามปกติต่อไป

ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว

  1. แพทย์จะเลือกเก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่ โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด อาศัยเครื่องอัลตราซาวด์ ซึ่งแพทย์มีความจำเป็น ที่จะต้องให้ยาสลบ เพื่อป้องกันความเจ็บปวด และจะใช้เวลาในการเก็บไข่ประมาณ 30 นาที หลังจากเก็บไข่แล้ว ฝ่ายหญิงจะได้รับการรักษาด้วย ฮอร์โมนชนิดสอดช่องคลอด หรือฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูก 
  2. เมื่อไข่และอสุจิได้รับการผสมกันเรียบร้อยแล้ว ในห้องปฏิบัติการเลี้ยง และควบคุมคุณภาพตัวอ่อน จากนั้นก็จะทำการติดตามดูไข่ ที่ได้รับการปฏิสนธิใน 2 วันต่อมา
  3. ในวันถัดไป ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ก็จะกลายเป็นตัวอ่อน และพร้อมที่จะย้ายเข้าโพรงมดลูก ซึ่งมักจะทำในวันที่ 3-5 หลังวันเก็บไข่ ซึ่งในขั้นตอนของการย้ายตัวอ่อน เข้าโพรงมดลูกนั้น ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ และอาหารก่อนมาโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ และใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย

ระยะเวลาของการย้ายตัวอ่อน การย้ายตัวอ่อนนั้นสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. การย้ายตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์  (blastocyst transfer) โดยการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนเจริญเติบโต ถึงระยะพร้อมฝังตัว (จะใช้ระยะเวลา 5 วันหลังการผสม) หลังจากนั้น ก็จะใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ สำหรับวิธีนี้จะช่วยให้ตัวอ่อนพร้อมฝังตัว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
  2. การย้ายตัวอ่อนในระยะวันที่ 3 หลังการผสม (Day 3 transfer) เป็นวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนมีการแบ่งเซลล์เป็น 6-8 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังการผสม แล้วจึงใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก

 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากที่ได้มีการย้ายตัวอ่อนเข้าไป ในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยนอนพัก 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักโรงพยาบาล และสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ได้ตามปกติ แต่จะต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด การนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบ และเฝ้าติดตามดูตัวอ่อน และการเจริญเติบโต

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากที่มีการฉีดตัวอ่อนไปแล้ว 12 วันแพทย์จะทำการตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้มีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการประเมินต่อไป และให้เกิดความแน่ใจว่า การทำเด็กหลอดแก้ว ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการดมยาผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก ทั้งนี้ ผลสำเร็จก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเหมือนกัน เช่น อายุของผู้เข้ารับบริการ การใช้ชีวิตประจำวัน และสาเหตุของการมีบุตรยาก เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้เกินคาด ก็มักจะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี จะประสบความสำเร็จถึง  40% และกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 36-41 ปี จะมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จอยู่ที่ 25% และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 42 ปีขึ้นไป เปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จ น้อยมาก มีเพียง 4% เท่านั้น 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ต ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกอันดามันเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่และเป็นเกาะเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีสถานะเป็นจังหวัด โดยมีจำนวนอำเภอเพียงแค่ 3 อำเภอเท่านั้น คือ อำเภอเมือง อำเภอถลาง และอำเภอกะทู้ และด้วยลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่เป็นเกาะ จึงทำให้มีทะเลล้อมรอบ ภูเก็ตจึงมีชายหาดที่สวยงามเป็นจำนวนมากเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ เช่นหาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน และหาดไม้ขาว ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม และมีที่พักอยู่จำนวนมาก
ปัจจุบันภูเก็ตได้ริเริ่มโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก เนื่องจากภูเก็ตเองมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ซึ่งถือเป็นระดับศูนย์โรงพยาบาลของภาคใต้ฝั่งอันดามัน โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาล สิริโรจน์ ที่มีชื่อเสียงและได้รับ การรับรอง มาตรฐาน JCI เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดภูเก็ต

หาดป่าตอง เป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดภูเก็ต ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักในเรื่องของแสงสีและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาพักผ่อนตลอดทั้งปี เนื่องจากมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บริษัททัวร์ แหล่งบันเทิง และอื่นๆ ที่อำนวยความสะดวกครบครันตั้งอยู่เรียงราย นอกเหนือ จากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ เช่น บานาน่าโบ้ท เจ็ตสกี พาราชู้ต เป็นต้น
แหลมพรหมเทพ ถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล สามารถเดินลงไปที่ปลายแหลมได้ เมื่อลงไปที่ด้านล่างจะเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต เวลามีคลื่นซัดเข้ามากระทบก้อนหินจะเป็นฟองสีขาวดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง
วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่อแช่ม หรือ พระครูวิสุทธิองศาจารย์ญาณมุณี พระครูผู้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองภูเก็ต จากเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์และคุณความดีของหลวงพ่อแช่มวัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่งให้แก่ชาวบ้านในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ หากใครมาเที่ยวที่ภูเก็ตก็จะคงต้องแวะไปกราบไหว้หลวงพ่อแช่มเพื่อความเป็นสิริมงคล และเยี่ยมชมวัดที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดในเมืองภูเก็ต

การเดินทางในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการเดินทางภายในจังหวัดสะดวกมาก มีสนามบินนานาชาติที่มีไฟล์ทบินมาลงแทบจะทุกชั่วโมง มีบริการรถแท็กซี่เข้าตัวเมืองภูเก็ต รถประจำทางแอร์พอตบัส รถเช่า เป็นต้น ส่วนการเดินทางภายในจังหวัด ก็มีรถตุ๊กๆ บริการภายในเขตเทศบาล หรือจะเช่าเหมารถตุ๊กๆ ไปยังสถานที่ต่าง ๆก็ได้ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง มีบริการรถสองแถวออกจากตลาดสดใกล้วงเวียนน้ำพุ ถนนระนอง ไปยังหาดและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งราคาก็ขึ้นอยู่กับระยะทางเหมือนกัน รวมไปถึงวินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดภูเก็ต

ประชากรแต่เดิมในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ เงาะซาไก และชาวยิปซีทะเล หรือ ชาวเล ต่อมาได้มีชาวอินเดีย ชาวไทย และชาวจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพเข้ามาตั้งรกรากที่นี่ ทำให้ภูเก็ตมีการผสมผสานและสืบต่อวัฒนธรรมของชาติต่าง ๆเข้าด้วยกัน จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภูเก็ตมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันด้วยความที่เป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม จึงทำให้มีประชากรหลั่งไหลย้ายเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภูเก็ตมีจำนวนประชากรแฝงอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดภูเก็ต

ภูเก็ตมี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน และฤดูฝน ซึ่งฤดูฝนนั้นจะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วง ที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน ส่วนฤดูร้อนเริ่มในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย ประมาณ 33.4 องศาเซลเซียส สูงที่สุดในเดือนมีนาคม ส่วนในเดือนมกราคมจะมีอุณภูมิต่ำสุด คือ 22 องศาเซลเซียส ในช่วงอากาศดีที่สุดจะอยู่ในช่วง เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน จะไม่มีฝน ท้องฟ้าแจ่มใส อุณหภูมิประมาณ 31 องศาเซลเซียสเหมาะแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

อื่น ๆ

ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสารของคนภูเก็ตจะเป็นภาษาไทยใต้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ พูดไม่ออกเสียง ก เป็นตัวสะกด และมีภาษาจีนฮกเกี้ยนที่คนภูเก็ตเชื้อสายจีนจะใช้ในการสื่อสารกัน สำหรับคนที่ทำงานในวงการธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีและยังมีภาษาจีนและรัสเซียที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอีกเช่นกัน
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ต นอกจากภูเก็ตจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากมายแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI อย่างเช่น โรงพยาบาล กรุงเทพ ภูเก็ต และ โรงพยาบาล สิริโรจน์ อีกทั้งยังมีคลินิกเสริมความงาม และ คลินิกทันตกรรม หลากหลายแหล่งให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นกัน