ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกหัก ใน ถลาง, ภูเก็ต

อาการกระดูกสะโพกหัก นับว่าเป็นอาการบาดเจ็บ ที่รุนแรง และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ถึงขั้นอันตราย ถึงชีวิตเลยก็ว่าได้

ทั้งนี้ การผ่าตัดเปลี่ยนข้อ สะโพกหัก แบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

1. การซ่อมแซมภายใน โดยการใช้สกรู (Internal Repair Using Screws)
2. การผ่าตัด เปลี่ยนสะโพกบางส่วน (Partial Hip Replacement)
3. การผ่าตัด เปลี่ยนสะโพกรวม (Total Hip Replacement) คือ การผ่าตัด ทั้งหัวกระดูกฟีเมอร์ และเบ้าสะโพก โดยการเอาส่วนของกระดูกที่ตาย หรือเสื่อมออกไป แล้วแทนที่ด้วยข้อเทียมเป็นชุด

อย่างไรก็ตาม ในการผ่าตัด เปลี่ยนข้อสะโพกหักนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ ของแพทย์ ในการเลือกวิธีการรักษา ให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วย ในแต่ละราย

ขั้นตอนการผ่าตัด เปลี่ยนข้อสะโพกเทียม มีดังต่อไปนี้

• โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกหัก แพทย์จะใช้วิธีการให้ดม ยาสลบ หรือฉีดยา เข้าไปในไขสังหลัง ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
• แพทย์เริ่มการผ่าตัด โดยการตัดเอาส่วนหัว ของกระดูกสะโพกออก และเจียเบ้าของสะโพกให้เป็นรูปร่าง ที่เหมาะสม 
• ใส่ข้อสะโพกเทียมเข้าไป 
• การผ่าตัด จะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรนอนพักฟื้น ที่โรงพยาบาล เป็นเวลาประมาณ 5-7 วัน จนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้

ระยะเวลาในการพักฟื้น ขึ้นอยู่กับประเภท ของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ผู้ป่วยบางราย ใช้เวลาประมาณ 3-6 สัปดาห์เท่านั้น  ก็สามารถกลับไปทำ กิจกรรมเบา ๆ ได้ และหากผู้ป่วย ต้องการออกกำลังกาย ก็สามารถทำได้ หลังจาก 10-12 สัปดาห์ ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะหายเป็นปกติ และสามารถกลับใช้ชีวิต เป็นเหมือนเดิมได้ ภายในระยะเวลา 6-12 เดือน

หลังการผ่าตัดเปลี่ยนสะโพก แพทย์จะให้คำแนะนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเลือกรับประทานอาหาร การดูแลแผล และการออกกำลังกาย เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยควรปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด ซึ่งคำแนะนำต่าง ๆ เหล่านั้น ได้แก่ 

• หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควร เข้ารับการบำบัดทางกายภาพ จนกว่าสะโพก จะเข้ารูป
• เลือกการออกกำลังกาย ที่เน้นการเคลื่อนไหว และการเสริมสร้าง ความแข็งแรง 
• หมั่นพบแพทย์ เป็นประจำ เพื่อติดตามอาการ และผลข้างเคียงต่าง ๆ เป็นต้น

เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี พบว่า การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก ถือว่าเป็นขั้นตอน การผ่าตัด ที่ประสบความสำเร็จ สูงถึง 90-95% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า เป็นขั้นตอน ที่มีประสิทธิภาพมาก เลยทีเดียว ทั้งนี้ หลังการผ่าตัด อาจมีผลข้างเคียง และความเสี่ยงบ้างเล็กน้อย เช่น อาการติดเชื้อ อาการลิ่มเลือด อาการคลาดเคลื่อน หรืออาจะเกิดการสูญเสีย ขึ้นมาได้ หากผู้ป่วยมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์ทันที