Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่
บีทีแล็บ
บีทีแล็บ
บีทีแล็บ
บีทีแล็บ
บีทีแล็บ
Mordee หางดง, เชียงใหม่
4.5 จาก 5
1 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ
         

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ใน เชียงใหม่

สำหรับยุคนี้ใครที่มีปัญหามีลูกยาก เป็นซีสต์  หรือเนื้องอก ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป ด้วยความก้าวหน้า ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมีเทคนิค ที่จะทำให้มีการปฏิสนธินอกร่างกาย เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการ หรือที่เรามักจะเรียกว่า "การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)"

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาการมีบุตรยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และยังเหมาะ สำหรับผู้หญิงบางคน ที่เป็นโรคและมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น การเป็นซีสต์ เนื้องอก หรือเกิดความผิดปกติ ทางพันธุกรรม เป็นต้น

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นการนำไข่และอสุจิ มาผสมกันให้เกิดการปฏิสนธิ ภายนอกร่างกาย ในห้องปฏิบัติการ จากนั้น จึงจะนำไข่ ที่ได้รับการผสมแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ ตัวอ่อน ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามปกติต่อไป

ขั้นตอนในการทำเด็กหลอดแก้ว

  1. แพทย์จะเลือกเก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่ โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด อาศัยเครื่องอัลตราซาวด์ ซึ่งแพทย์มีความจำเป็น ที่จะต้องให้ยาสลบ เพื่อป้องกันความเจ็บปวด และจะใช้เวลาในการเก็บไข่ประมาณ 30 นาที หลังจากเก็บไข่แล้ว ฝ่ายหญิงจะได้รับการรักษาด้วย ฮอร์โมนชนิดสอดช่องคลอด หรือฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนเข้าโพรงมดลูก 
  2. เมื่อไข่และอสุจิได้รับการผสมกันเรียบร้อยแล้ว ในห้องปฏิบัติการเลี้ยง และควบคุมคุณภาพตัวอ่อน จากนั้นก็จะทำการติดตามดูไข่ ที่ได้รับการปฏิสนธิใน 2 วันต่อมา
  3. ในวันถัดไป ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ก็จะกลายเป็นตัวอ่อน และพร้อมที่จะย้ายเข้าโพรงมดลูก ซึ่งมักจะทำในวันที่ 3-5 หลังวันเก็บไข่ ซึ่งในขั้นตอนของการย้ายตัวอ่อน เข้าโพรงมดลูกนั้น ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ และอาหารก่อนมาโรงพยาบาล ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ และใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย

ระยะเวลาของการย้ายตัวอ่อน การย้ายตัวอ่อนนั้นสามารถทำได้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนี้

  1. การย้ายตัวอ่อนในระยะบลาสโตซิสต์  (blastocyst transfer) โดยการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนไว้ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนเจริญเติบโต ถึงระยะพร้อมฝังตัว (จะใช้ระยะเวลา 5 วันหลังการผสม) หลังจากนั้น ก็จะใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ สำหรับวิธีนี้จะช่วยให้ตัวอ่อนพร้อมฝังตัว เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์
  2. การย้ายตัวอ่อนในระยะวันที่ 3 หลังการผสม (Day 3 transfer) เป็นวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ภายนอกร่างกาย จนตัวอ่อนมีการแบ่งเซลล์เป็น 6-8 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 วันหลังการผสม แล้วจึงใส่กลับเข้าไปในโพรงมดลูก

 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

หลังจากที่ได้มีการย้ายตัวอ่อนเข้าไป ในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเรียบร้อยแล้ว ผู้ป่วยนอนพัก 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถที่จะกลับบ้านได้ ไม่ต้องนอนพักโรงพยาบาล และสามารถใช้ชีวิตประจำวัน ได้ตามปกติ แต่จะต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด การนัดหมายทุกครั้ง เพื่อตรวจสอบ และเฝ้าติดตามดูตัวอ่อน และการเจริญเติบโต

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากที่มีการฉีดตัวอ่อนไปแล้ว 12 วันแพทย์จะทำการตรวจเลือด เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้มีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพื่อจะได้ทำการประเมินต่อไป และให้เกิดความแน่ใจว่า การทำเด็กหลอดแก้ว ประสบผลสำเร็จอย่างสมบูรณ์

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นวิธีที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อการดมยาผ่าตัด ไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างถูก ทั้งนี้ ผลสำเร็จก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเหมือนกัน เช่น อายุของผู้เข้ารับบริการ การใช้ชีวิตประจำวัน และสาเหตุของการมีบุตรยาก เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้เกินคาด ก็มักจะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี จะประสบความสำเร็จถึง  40% และกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 36-41 ปี จะมีเกณฑ์ประสบความสำเร็จอยู่ที่ 25% และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 42 ปีขึ้นไป เปอร์เซ็นต์ที่จะประสบความสำเร็จ น้อยมาก มีเพียง 4% เท่านั้น 

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งด้านประเพณีวัฒนธรรม และมีแหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นักท่องเที่ยวจะได้พบกับความหลากหลายของชนเผ่าชาวเขาต่าง ๆควบคู่ไปกับทิวทิศน์ที่งดงาม ทำให้เชียงใหม่เป็นหนึ่งในสถานท่องเที่ยวในเอเชียที่น่าสนใจที่สุด
นอกจากนี้เชียงใหม่ ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภาคเหนือไม่ว่าจะเป็นภายในประเทศ หรือต่างประเทศ จึงทำให้มีศักยภาพในการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และการลงทุน จนเป็นเมืองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในทางภาคเหนือ รองจากกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงยังมีโรงพยาบาล หรือคลินิกต่าง ๆมากมายที่พร้อมจะรองรับนักท่องเที่ยวหรือ บุคคลที่สนใจเข้ามาท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อีกด้วย เช่น โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม, คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง เดนทอลเวิร์ล, ศรินยา คลินิก เป็นต้น 

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่

วัดพระธาตุดอยสุเทพ ถือว่าเป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่โบราณ ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ซึ่งต้องแวะไปสักการะให้ได้เมื่อมาเยือนเชียงใหม่
ประตูท่าแพ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเชียงใหม่ บริเวณประตูท่าแพจะเห็นแนวกำแพงเมืองเก่าซึ่งสร้างด้วยอิฐ มีความสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ บริเวณประตูท่าแพมีลานกว้างซึ่งใช้จัดงานเทศกาลต่าง ๆ และยังเป็นจุดเริ่มต้นของ ถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งจัดขึ้นทุก ๆวันอาทิตย์อีกด้วย
วัดอุโมงค์ เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงใหม่มานาน มีเอกลักษณ์สำคัญก็คือ อุโมงค์ ตามชื่อ ที่เป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวได้เดินเข้าไปไหว้พระขอพร ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอีกด้วย 

การเดินทางในจังหวัดเชียงใหม่

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเชียงใหม่ได้โดยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถโดยสารประจำทาง  และการเดินทางในตัวเมืองเชียงใหม่เองก็สะดวกสบายแม้ไม่ได้มีรถยนต์ส่วนตัว เพราะบริเวณรอบ ๆ สนามบิน สถานีรถไฟ หรือสถานีขนส่งเชียงใหม่ จะมีรถสองแถวสีแดง ที่ชาวเชียงใหม่เรียกว่า “รถแดง”คอยให้บริการ หรือแม้กระทั่ง รถตุ๊กตุ๊ก รถแทกซี่ เป็นต้น

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ มีประชากรที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ไม่น้อยกว่าที่อื่น โดยมีชาว ไทยวน หรือคนเมือง คือกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย มีภาษาและวัฒนธรรมที่เป็นของตัวเอง เชียงใหม่จะมีความเป็นสังคมเมืองล้านนา โดยจะใช้ภาษาเมืองในการพูดสื่อสาร ชาวเชียงใหม่ส่วนใหญ่ มีอาชีพทางเกษตรกรรมทำนา ทำไร่ ทำสวน อาชีพใหญ่อันดับที่สองรองลงมาคือการท่องเที่ยว ทั้งงานที่เกี่ยวข้องโดย ตรงและทางอ้อม การพณิชย์และอุตสาหกรรมทั่วไปส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของหัตถกรรม งานฝีมือและการแปรรูปสินค้าทางการเกษตร เป็นสองอาชีพหลักคนเชียงใหม่ในปัจจุบันนี้

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดเชียงใหม่

เนื่องจากเชียงใหม่มีลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปมีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาและพื้นที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบเชิงเขาโดยพื้นที่ภูเขา ทำให้มีอากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี

อื่นๆ

ภาษา นอกจากมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการแล้ว เชียงใหม่ยังมีภาษาท้องถิ่นซึ่งเรียกว่า ภาษาคำเมือง ซึ่งแต่ละถิ่นก็ยังมีสำเนียงที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย