สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การรักษานิ่วในถุงน้ำดี ใน กรุงเทพมหานคร
นิ่วในถุงน้ำดี มีลักษณะเป็นก้อนกลม หรือเหลี่ยม ๆ สีเข้ม ซึ่งเกิดจากการขาด ความสมดุลของน้ำดีนั่นเอง ส่งผลให้ปิดกั้นท่อน้ำดี และอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดต่าง ๆ เป็นต้น
การรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีหลากหลายประเภท ด้วยกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย ในแต่ละราย โดยแพทย์สามารถใช้วิธี การผ่าตัดส่องกล้อง การผ่าตัดแบบเปิด แผลหน้าช่องท้อง และการส่องกล้องทางเดิน ปัสสาวะ เป็นต้น
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
อย่างที่ทราบกันดีว่า การรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีหลายวิธีด้วยกัน แต่หากผู้ป่วยเลือก วิธีการผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopic Surgery) แพทย์จะเปิดแผลเล็ก ๆ ในช่องท้อง เพื่อใส่กล้องแลปาโรสโคปเข้าไป ซึ่งเป็นอุปกรณ์ ผ่าตัด ที่ช่วยในการเอานิ่ว ในถุงน้ำดีออก นั่นเอง
สำหรับการผ่าตัด ด้วยการเปิดแผลหน้าช่องท้อง (Open Surgery) แพทย์จะเปิดแผลที่หน้าช้องท้อง และนำนิ่วในถุงน้ำดีออก เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการรักษา อีก 1 ปรเภทคือ การส่องกล้องตรวจทางเดินน้ำดี (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography) แพทย์จะใช้กล้อง ส่องเข้าไปทางปาก ผ่านหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็ก จนถึงท่อเปิดของน้ำดี หลังจากนั้น แพทย์จะเอานิ่วในถุงน้ำดีออก
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการฟื้นตัว ของผู้ป่วย จะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ซึ่งผู้ป่วย สามารถทำกิจกรรม หรือกิจวัตรประจำวันได้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยเลือกใช้ วิธีการรักนิ่วในถุงน้ำดี ด้วยการผ่าตัด ผ่านการส่องกล้อง ผู้ป่วยจะต้องใช้เวลา ในฟื้นตัวประมาณ 6 สัปดาห์ด้วยกัน เพื่อให้แผลหายสนิท นอกจากนี้ หากเลือกการผ่าตัดรักษา ด้วยวิธีการ ERCP ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงาน หรือใช้ชีวิต ได้ตามปกติทันที
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
ขั้นตอนการดูแล และรักษาตัวเอง หลังการรักษานิ่วในถุงน้ำดี มีดังต่อไปนี้
- รับประทาน อาหารที่มีประโยชน์ และควบคุมอาหาร ตามแพทย์แนะนำ เพื่อยับยั้ง การเจริญเติบโตของนิ่ว
- หมั่นออกกำลังกาย เป็นประจำ และควรออกกำลังกาย ในท่าที่แพทย์ได้แนะนำไว้
- หลีกเลี่ยง การทำงานหนัก ในช่วง 3 เดือนแรก หลังผ่าตัด
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติ ของตนเอง เช่น อาการปวดท้อง มีไข้หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ รีบพบแพทย์ทันที
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
อย่างที่ทราบกันดีว่า การรักษาโรคนิ่ว เป็นขั้นตอนการรักษา ที่มีประสิทธิภาพสูง และประสบความสำเร็จสูงถึง 90% ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม อาจมีผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อน บ้างเล็กน้อย ที่ผู้ป่วยควรใส่ใจ และต้องระวัง เป็นพิเศษ ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านั้นคือ อาการติดเชื้อ ท่อน้ำดีมีปัญหา เลือดออกมากผิดปกติ เลือดอุดตัน และมีอาการปวดท้อง เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง