Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การบำบัดด้วยความเย็น

APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
APEX Profound Beauty - พารากอน ชั้น 2
Mordee ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร
4.31 จาก 5
16 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ฟื้นฟูสภาพผม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคผิวหนัง ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์ ที่จอดรถ
เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิ้วตี้ - พารากอน ชั้น 2 ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าพารากอนซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีการเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS ภายในร้านได้ถูกออกแบบให้มีความโล่ง โปร่ง มีบรรยากาศที่เป็นกันเอง มีพื้นที่รับรองด้านหน้าไว้สำหรับลูกค้านั่งพักผ่อนเพื่อรอพบแพทย์ แพทย... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การบำบัดด้วยความเย็น
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การบำบัดด้วยความเย็น ใน กรุงเทพมหานคร

การบำบัดด้วยความเย็น หรือ Cryotherapy เป็น การบำบัดรักษาร่างกาย ให้สัมผัสกับอุณหภูมิที่หนาวจัดเป็นเวลาหลายนาทีด้วยความเย็นจัดจากไนโตรเจนเหลว ซึ่งเป็นวิธีการทางกายภาพบำบัด ที่นำมาใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อภายในร่างกาย ทั้งในระยะเฉียบพลัน และระยะเรื้อรัง ด้วยการใช้ความเย็นมาทำให้หลอดเลือดหดตัว และลดการซึมผ่านที่ผนังหลอดเลือดฝอย ช่วยลดการบวม หรือเสียเลือดจากการที่เนื้อเยื่อบริเวณนั้น ๆ มีการไหลเวียนของเลือดลดลง นอกจากนี้ ความเย็นยังช่วยลดความเร็วของการนำกระแสประสาท ลดปวดเฉพาะที่ได้ชั่วคราว และเพิ่มระดับกั้นความเจ็บปวดได้อีกด้วย

Cryotherapy สามารถรักษาตรงจุดเดียว หรือทั้งตัวก็ได้ มีหลากหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น 

1. Cold pack ถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นเจลสำเร็จรูป ใช้เพื่อประคบบริเวณหรือต้องการรักษา ช่วยลดอาการปวดและอักเสบ

2. Ice massage เป็นการนำน้ำแข็งมาถูนวดผิวบริเวณที่ต้องการรักษา

3. Vapocoolant spray เป็นการฉีดสเปรย์ที่มีสารให้ความเย็น เช่น Fluoromethane หรือ Ethyl Chloride ฉีดไปที่บริเวณผิวหนัง เพื่อช่วยในการลดอุณหภูมิของผิวในบริเวณนั้นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยลดอาการปวด ที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยรักษาการบาดเจ็บจากกีฬาระยะเฉียบพลันได้

4. Cryotherapy ห้องที่สามารถส่งไอเย็นได้ 3 ระดับ คือ -10, -60 และ -110 ° C โดยผู้เข้ารับการบำบัดจะต้องเดินผ่านห้องแรกและห้องที่สอง เพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย และอยู่ในห้องที่ 3 (-110° C) เป็นเวลา 3 นาที ภายใต้การดูแลของผู้ชำนาญการด้านการบำบัดด้วยความเย็น

ผลข้างเคียงในการทำ Cryotherapy ที่พบบ่อยที่สุดคือ การรู้สึกเสียวซ่า อาการชา อาการแดง และการระคายเคืองต่อผิวหนัง และจะหายไปภายในระยะเวลา 1 วัน และไม่ควรทำ cryotherapy เป็นเวลานานกว่าที่แนะนำ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือเคยผ่าตัดใส่โลหะเข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะใด ๆ ที่ส่งผลต่อเส้นประสาทของตนเอง ก็ไม่ควรใช้ cryotherapy ห้องส่งไอเย็น เช่นเดียวกัน

สำหรับ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า ให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 คืน เพื่อเตรียมผิวให้พร้อม และ ควรงดเว้นการทาเครื่องสำอางในวันที่เข้ารับการทำทรีทเมนต์

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

Cryotherapy คือ การแช่ร่างกายในอากาศหนาวเย็นเป็นเวลาหลายนาทีในห้องที่ปิดล้อม หรือตู้แชมเบอร์ ซึ่งจะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย โดยที่อุณหภูมิในตู้จะลดลงระหว่างลบ 10 - 110 ° C ในระยะเวลา 2 - 4 นาที

หากได้รับการรักษาด้วยความเย็น ให้สวมเสื้อผ้าแห้งสนิท และหลวม ๆ ให้นำถุงเท้าและถุงมือมาด้วย เพื่อป้องกันอาการบวมเป็นน้ำเหลือง ในระหว่างการรักษาให้เคลื่อนไปรอบ ๆ เพื่อให้เลือดไหล รวมถึงการไม่รับประทานอาหารหรือดื่มแอลกอฮอล์ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง

ประโยชน์ หรือ ข้อดีของ cryotherapy

1. ลดอาการไมเกรน การรักษาด้วยความเย็น สามารถช่วยรักษาไมเกรนได้ เพราะเป็นการระบายความร้อนของระบบประสาทตรงบริเวณคอ ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า หากเราประคบน้ำแข็งที่คอ จะทำให้หลอดเลือดตรงคอเกิดการหดตัว ซึ่งสามารถช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้

2. Cryotherapy ลดการระคายเคืองของกล้ามเนื้อ เป็นการใช้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เพิ่งเกิดขึ้นประมาณ 24 - 48 ชั่วโมง หลังจากได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีมาเนิ่นนาน นิยมในกลุ่มของนักกีฬา ความหนาวเย็น จะสามารถช่วยรักษาอาการปวดเรื้อรัง หรืออาการบาดเจ็บเฉียบพลันได้ เช่น อาการปวดกล้ามเนื้อ ลดอาการบวมอักเสบของเนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อยึด อาการเกร็งของกล้ามเนื้อ และ บาดแผลไฟไหม้ เป็นต้น

3. ช่วยรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ อุณหภูมิที่เย็นจัดทั่วทั้งร่างกาย อาจทำให้ร่างกายตอบสนองต่อฮอร์โมน ช่วยในการหลั่งอะดรีนาลีน และ เอนโดรฟิน ซึ่งมีประโยชน์ต่อผู้ที่ประสบปัญหาความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความวิตกกังวล หรือ ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น การทำ cryotherapy ทั้งร่างกาย มีประสิทธิภาพในการรักษาระยะสั้น สำหรับทั้งความคิดวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า

4. ลดอาการปวดข้ออักเสบ เมื่อทำ cryotherapy ทั้งร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการปวดในผู้ที่มีโรคข้ออักเสบ ฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

5. cryotherapy อาจช่วยรักษาเนื้องอกที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยการแช่แข็งเซลล์มะเร็งและล้อมรอบไว้ด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ปัจจุบันมีการใช้เพื่อรักษาเนื้องอกที่มีความเสี่ยงต่ำ และมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

6. cryotherapy อาจช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ได้ เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพเพราะผลต้านการออกซิเดชั่นและต้านการอักเสบ สามารถช่วยต่อต้านการตอบสนองต่อความเครียดและการเกิดออกซิเดชันที่เกิดขึ้นกับโรคอัลไซเมอร์

7. ช่วยรักษาโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ผิวแห้งและคัน และสภาพผิวอื่น ๆ cryotherapy สามารถช่วยปรับปรุงระดับสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด และสามารถลดการอักเสบได้ในเวลาเดียวกัน

ประโยชน์ของ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า

1. ช่วยลดการอักเสบของผิว ความเย็นทำให้ผิวบริเวณที่อักเสบทุเลาลง ลดการระคายเคือง และอาการคันได้ดี

2. ช่วยกระชับรูขุมขนให้เล็กลงได้ ทำให้ผิวเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้นได้อีกด้วย

3. ลดความบวม นิยมใช้หลังการทำหัตถการต่าง ๆ

4. ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี มีออกซิเจนมาเลี้ยงผิวได้มากขึ้น เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีกทั้งยังช่วย ดีท็อกซ์ผิว ไปด้วยพร้อม ๆ กัน ผิวพรรณจึงดูสว่างใส และเปล่งปลั่ง

5. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว ฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี

6. ฟื้นฟูบาดแผลผ่าตัด ให้ฟื้นตัวไวขึ้นหลังการทำศัลยกรรม ไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมตาสองชั้น หรือ เสริมจมูก เป็นต้น

7. ความเย็นช่วยส่งผ่านสารอาหารที่มีประโยชน์ตรงเข้าสู่ผิวได้ ใช้ผลักวิตามินเข้าสู่ผิวไปได้อย่างล้ำลึก

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ไม่ต้องพักฟื้น สำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บจากกีฬา ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

สำหรับ Cryotherapy Treatment สำหรับผิวหน้า

1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

2. ดูแลรักษาความสะอาดของใบหน้า เพื่อป้องกันการเกิดสิว

สำหรับ Cryotherapy บำบัดร่างกาย ไม่ต้องดูแลอะไร ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แนะนำให้กลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ เป็นประจำ

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

เมื่อทำได้ประมาณ 3 นาที จะรู้สึกสดชื่น และอาการปวดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะหายไปตั้งแต่ครั้งแรก ส่วนอาการปวดที่หนักหนาอย่างอาการเรื้อรัง จะยังไม่เห็นผลในทันที แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 วัน จะพบว่าอาการปวดที่หนักจะเบาขึ้น สบายตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรักษาอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร

คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี


สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น


การเดินทางในกรุงเทพมหานคร

การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น


 ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย

สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร

กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม

อื่นๆ

การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง